การเกิดใหม่ของ ชากิรี่
มันเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับเส้นทางค้าแข้ง เมื่อเขาอายุถึง 29 ปีแล้วจาก 3 สัปดาห์ก่อน ดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์มีข่าวเชื่อมโยงในตลาดซื้อขายอย่างหนัก หลังได้ลงเล่นไปเพียง 7 นัดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งก็รวมถึงเป็นการวาดลวดลายเพียง 7 นาทีหลังช่วงล็อกดาวน์ด้วย
หลังจากเลือกที่จะอยู่ต่อ และสู้เพื่อตำแหน่งในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพลย์เมกเกอร์อีซ้ายได้พิสูจน์ตัวเองว่ายังคงมีความสำคัญกับทีมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแอสซิสต์งามหยดให้กับ ดีโอโก้ โชต้า พังประตูชัยใส่ เวสต์แฮม เมื่อคืนวันเสาร์
นายใหญ่ หงส์แดง กล่าวหลังดังกล่าวว่า ชากิรี่ ต้องพบกับความยากลำบากมาตลอด 2 ปีที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ แต่บทบาทของเขากับทีมชุดใหญ่ในตอนนี้ก็มีความสำคัญ
"แช็ก มีบทบาทสำคัญอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากที่ต้องพบเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก และนั่นถือว่าสำคัญสำหรับเรา"
"แช็ก เป็นนักเตะเกมรุกที่มีความหลากหลายมาก เขาเล่นให้กับเราในบทบาทเบอร์ 8, ปีก และตอนนี้เบอร์ 10 ตอนที่ถูกส่งลงสนาม (เกมกับ เวสต์แฮม) นั่นคือทุกตำแหน่งที่เขาเล่นได้"
"เขาเป็นนักเตะฝีเท้าดี ดีจริงๆ ซึ่งมีผลกับเกมอย่างมากทุกครั้งที่เขาลงเล่น และเป็นส่วนหนึ่งในเกมยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ร่วมกันของเรา ดีใจที่ได้เขากลับมา"
มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่ คล็อปป์ กล่าวถึงบทบาทที่ไม่ชัดเจนของ ชากิรี่ ที่มีบางช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่จาก 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ถูกเซ็นสัญญามาจาก สโต๊ค ด้วยค่าตัว 13.5 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ ปี 2018
ชากิรี่ ลงสำรองมายิงเบิ้ลในเกมพบ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 ซึ่งถือเป็นชัยชนะในลีกครั้งแรกเหนือคู่แค้นตลอดกาลของพวกเขาในรอบ 4 ปี มันแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญที่ ชากิรี่ สามารถเล่นได้ในแผงเกมรุก แม้ว่าจะไม่สามารถสอดแทรก 3 ประสานอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ม ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้อยู่แล้ว แถมตอนนี้ยังมี โชต้า อีกคน
แต่ลูกครอสก็ยังเป็นจุดขายของ เมื่อเราย้อนไปในช่วงเวลา 4 วันของเดือนพฤษภาคม ปี 2019 ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่า ชากิรี่ มีคุณภาพเพียงใดแม้ไม่ได้ลงสนามมากอย่างที่ควรจะเป็น
ในช่วงเวลาที่ทีมสิ้นหวังในการพังประตูเพื่อต่อลมหายใจในการแย่งแชมป์ลีกที่ นิวคาสเซิ่ล ชากิรี่ ก็เปิดฟรีคิกไปเข้าหัว ดิว็อก โอริกี้ ให้พังประตูชัย ทว่า หงส์แดง ก็ยังพบความผิดหวังในวันสุดท้ายของฤดูกาลอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ลูกครอสจากกราบซ้ายของ ชากิรี่ ในเกมพบ บาร์เซโลน่า ที่แอนฟิลด์ คือหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อเห็น จีนี่ ไวนัลดุม ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษ เขาก็ใช้สปีด และโยนบอลอย่างเพอร์เฟ็คท์ให้แข้งดัตช์แมนโหม่งตุงตาข่ายจนกลายเป็นช่วงเวลาอันน่าจดจำมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของทีม
จากนั้นก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่นั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็น ชากิรี่ ในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ของปีนั้น เขามีส่วนร่วมในการคัมแบ็กที่ยิ่งใหญ่ในรอบตัดเชือก ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เมื่อต้องเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ลงเล่นในนัดชิงที่เอาชนะ สเปอร์ส
ฤดูกาลที่ผ่านมา คือปีที่สิ้นหวังของปีกรายนี้อย่างแท้จริง เขาต้องหายหน้าไปจากปัญหาที่น่องเรื้อรัง ซึ่งดาวเตะทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรมากมายกับปีที่ หงส์แดง ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี
แต่แม้จะไม่ได้ลงเล่นเลยสักนาทีมาถึง 10 สัปดาห์ ทว่า ชากิรี่ ก็ก้าวมาสร้างชื่อในหนึ่งเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของซีซั่นนั้น
เขาได้ออกสตาร์ทตัวจริงจากการเปลี่ยนแปลงทีมหลายตำแหน่งในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เขาทำประตูได้ด้วยการวิ่งเข้าช่องที่สมบูรณ์แบบ และส่งบอลผ่าน จอร์แดน พิคฟอร์ด ไปตุงต่าข่าย ซึ่งสุดท้ายก็ทำให้ทีมได้รับชัยชนะ 5-2 ในศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้
แม้ว่าจะได้ลงเล่นตัวจริงในเกมกับ วัตฟอร์ด ในลีก และ มอนเตร์เรย์ ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกในอีกสัปดาห์ถัดมา แต่หลังจากนั้นเขาก็มีโอกาสได้ลงเล่นรวมแค่ 8 นาที
อันที่จริง นับจากวันที่ 9 มกราคม ถึง 5 กรกฎาคม ชากิรี่ ไม่มีชื่อในเกมของ คล็อปป์ เลย ซึ่งกินเวลาถึง 16 เกมรวมทุกรายการ
คล็อปป์ ได้อ้างว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของปัญหาความฟิตเท่านั้น "เขาไม่ได้อยู่ในทีม ไม่ใช่เหตุผลเรื่องระเบียบวินัย หรืออะไรทั้งนั้น แต่เป็นเพราะเขาบาดเจ็บ โชคร้าย บางครั้งนักเตะก็เผชิญอาการบาดเจ็บแย่ๆ และนั่นคือสิ่งที่เขาเผชิญอยู่"
"มันไม่ใช่ว่าเขาบาดเจ็บบ่อย แต่อาการที่น่องสร้างปัญหา ตอนนี้ทุกอย่างปกติดีแล้ว"
"มันเป็นเรื่องดีสำหรับเขาและสำหรับเราด้วย เพราะเราพลาดใช้งานเขาเมื่อปีที่แล้วหลายครั้ง ไม่ใช่ว่าเราอยากตัดเขาออกจากทีม"
ท่ามกลางการมาของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ โชต้า รวมถึงเด็กดาวรุ่งที่ถูกดันขึ้นมาอย่าง เคอร์ติส โจนส์ มันจึงมีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียวกับการที่เขาอาจจะต้องย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดซื้อขายจะถูกยืดออกไปจนถึงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่เพลย์เมกเกอร์ชาวสวิสก็ยังคงอยู่ที่เดิม ซึ่งนั่นก็ทำให้ทีมได้ใช้ประโยชน์จากเขาในการโรเตชั่นทีมบางนัด
เขายิงฟรีคิกสุดสวยในเกมอีเอฟแอล คัพ รอบ 3 ที่เอาชนะ ลินคอล์น ในเดือนกันยายน ขณะที่เขาถูกเปลี่ยนลงสำรองในเกมกับ อาแจ็กซ์ ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็เอาชนะได้ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ช่วง 2 สัปดาห์ก่อน
เขาได้เป็นตัวจริงในเกมนัดที่ 2 ของฟุตบอลยุโรปเกมพบ มิดทิลแลนด์ และก็ลงสำรองมาสร้างอิมแพ็คท์ครั้งใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ความต่อเนื่องของ ชากิรี่ อาจทำให้เขาเข้าไปอยู่ในอ้อมของของ คล็อปป์ ได้เรื่อยๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
"มันเป็นเรื่องที่ดีอยู่ตลอดแหละกับการได้มีส่วนร่วม" ชากิรี่ กล่าวหลังจากทำแอสซิสต์สุดสวยเมื่อวันเสาร์
"ชัดเจนว่าผมมีอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง และมันเป็นหนทางที่ยากสำหรับผมมาจนถึงตอนนี้ ผมมีความสุขมากที่ผมได้รับโอกาสลงเล่นกลับมา ผมจะพยายามรักษาความฟิต และผมก็หวังว่ามันจะเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป"
สิ่งที่สามารถช่วยให้ ชากิรี่ ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็คือความหลากหลายของเขา เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนหรอกที่สามารถเล่นได้ทั้งระบบมิดฟิลด์ 2 คน และ 3 คน รวมถึงตัวริมเส้นในแดนหน้าด้วย
ชากิรี่ ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเขาไม่จำเป็นต้องการเวลาลงสนามแบบเป็นประจำเพื่อจะสร้างความแตกต่าง คุณภาพของเขา และความเป็นมืออาชีพ รวมถึงประสบการณ์จากดาวเตะวัย 29 ปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะมีส่วนสำคัญในทีมของ คล็อปป์ ในฤดูกาลนี้
ด้านฟอร์ม และความฟิตในอดีต ปัญหาทั้งหมดอาจจบลงที่ตัวเขาในตอนนี้แล้ว
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT