บูมมม...วู้ดเบิร์น
ไอ้หนูวัย 17 ย่างเข้าขวบปีที่ 18
ลงสนามมาเพียง 261 วินาที
และ บูมมม...
ประตูแรกในนามทีมชาติเวลส์
มันเป็นประตูชัยที่ทำให้ทัพมังกรแดงเฉือนชนะออสเตรีย 1-0 ต่อลมหายใจโอกาสเข้าไปให้ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้เพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง
สุดท้ายหาก เวลส์ตะกายดาวไปยังรัสเซียได้สำเร็จ แน่นอนหนุ่มน้อย วู้ดเบิร์น อาจมีโอกาสเป็นหนึ่งใน 23 ขุนพลคนสำคัญด้วย
เปิดตัวด้วยประตูแรกในนามทีมชาติทันที
แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ใช่เด็กหน้าใหม่สำหรับเหล่าคนคลั่งบอลแต่อย่างใด
ชื่อเสียงของเด็กหนุ่มจากเชสเตอร์เริ่มกระแทกหูแฟนลูกหนังตั้งแต่เมื่อพฤศจิกายนปีก่อนแล้ว เมื่อเขาลุกจากม้านั่งสำรองลงมาลั่นสกอร์ใส่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเกมลีก คัพ บันทึกอายุตอนนั้น 17 ปี 14 วัน ทำลายสถิติของ ไมเคิ่ล โอเว่น ฐานะนักเตะอายุน้อยสุดที่ยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล
กลายเป็นนักเตะหงส์แดงอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้
แม้ประสบการณ์บนเวทีลูกหนังของ วู้ดเบิร์น จะเพิ่มเริ่มต้น โดยเขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก 1 นัด เอฟเอ คัพ อีก 3 นัด รวมถึงการเป็นตัวสำรองให้หงส์แดงอีก 5 ครั้ง แต่ คริส โคลแมน กุนซือทีมชาติเวลส์มองเห็นถึงศักยภาพในตัวเจ้าหนูรายนี้เลยรับบทเจ๊ดัน กระโดดถีบขึ้นชุดใหญ่ทันที
"ผมรู้สึกว่าเขามีอะไรบางอย่างภายในตัวเอง เพราะว่าผมจับตาดูเขามาก็พอสมควร" โคลแมน กล่าว
"เขามาที่โปรตุเกสกับเราก่อนที่เราจะเล่นกับเซอร์เบีย และเขาดูโดดเด่นมาก"
"ผมกำลังจะให้โอกาสเขาในเกมที่เบลเกรด แต่เขาดันบาดเจ็บเสียก่อน ต้องขอบคุณเกมกับออสเตรียที่ทำให้เขาได้เริ่มต้นกับเรา"
อันที่จริง ก่อนหน้านี้หาก วู้ดเบิร์น จะเลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษก็ได้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะพาตัวเองไปสู่ชาติต้นกำเนิดที่แท้จริงของเขา
เขาเกิดที่น็อตติงแฮม และเขาก็มีโอกาสที่จะเลือกเล่นให้กับทัพสิงโตคำราม แต่หนึ่งในเหตุผลที่เขาเลือกรับใช้ทีมมังกรแดง อาจเป็นเพราะเขาได้รับการเลี้ยงดู และเติบโตมาในเมืองเชสเตอร์ ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนของเวลส์
และ วู้ดเบิร์น ก็รู้ว่าเวลส์คือสายเลือดที่แท้จริงของเขา เขาอยู่ในทีมเยาวชนของเวลส์มาตั้งแต่พฤษภาคม ปี 2013 โดย โอเซียน โรเบิร์ตส์ มือขวาของ โคลแมน ได้กล่าวเสริมว่า "ผมรู้ว่ามีการชักชวนให้เบนไปเล่นให้อังกฤษ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะมีทางเกิดขึ้น เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี เพราะเราได้พูดคุยกับครอบครัวของเขาแล้ว"
ด้าน โคลแมน เองก็เคยออกมาบอกเองว่าเขาจะไม่ให้โอกาส วู้ดเบิร์น หรอก หากเขาไม่คิดว่าไอ้หนูนี่พร้อมแล้ว ซึ่งประตูชัยที่ทำได้ในเกมกับออสเตรียก็คือคำตอบชั้นดี
แล้วความสามารถอันโดดเด่นของเขาคืออะไร
???
"เกมกับออสเตรียมันค่อนข้างอึดอัด แต่เขาก็เล่นกับบอลได้นิ่ง และพยายามหาพื้นที่ว่าง" แอนดี้ คิง รุ่นพี่ในทัพมังกรแดงกล่าว
ส่วน เบน เดวิส แนวรับอีกคนก็เสริมว่า "เขาเป็นนักเตะคนพิเศษ เราได้เห็นมาแล้วตลอดการเข้าฝึกซ้อมในช่วงหลังๆ"
ทว่าหนึ่งในคนสวนกระแสความแรงของ วู้ดเบิร์น เลยก็คือกุนซือหงส์แดงอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์
เขาค่อนข้างกลัวว่าความโด่งดังจากทีมชาติจะก่อผลร้ายต่อพัฒนาการของลูกทีมคนโปรด
คล็อปป์กังวลว่าวู้ดเบิร์นจะดังเร็วเกินไปจนเสียเด็ก
แต่สำหรับเวลส์ พวกเขาเชื่อว่านักเตะคนนี้มีความโดดเด่นที่สามารถเล่นเคียงข้างกับบรรดาซูเปอร์สตาร์อย่าง แกเร็ธ เบล, อารอน แรมซี่ย์ และ โจ อัลเลน แล้ว
และตัวของ วู้ดเบิร์น ก็ตั้งความหวังไว้เช่นกันกับการมีโอกาสไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่างฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
เขาเคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวไว้ว่า "นั่นคืออีกหนึ่งความฝันของผมเลย"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT