เงื่อนไขใหญ่ไก่ลุ้นแชมป์

    แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน กลายเป็นหนึ่งในคู่หูที่ดีที่สุดตลอดกาลของลีก และอาจเป็นดูโอ้ที่จะยุติความเจ็บปวดตลอด 60 ปีในลีกสูงสุดให้กับ ไก่เดือยทอง ได้

    ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ มีโอกาสลุ้นแชมป์อย่างแท้จริงหากมองไปยังผลงานปัจจุบัน แต่หากต้องพบเจอกับอาการบาดเจ็บของเหล่าสตาร์ดังเพียง 2-3 รายก็อาจทำให้พวกเขาหมดลุ้นในการจบท็อปซิกซ์ได้เลย

    ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา พรีเมียร์ลีก เป็นเวทีลูกหนังที่ไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้เลย และทีมของ มูรินโญ่ ก็มีโอกาสดีพอที่จะคิดการใหญ่ในเรื่องลุ้นแชมป์ ซึ่งกลายเป็นที่ขบขันของบรรดาแฟนบอลฝ่ายตรงข้างมาโดยตลอด

    ลิเวอร์พูล แชมป์เก่ากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตในแนวรับ เมื่อต้องเสียคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟหลักอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ ไปทั้งซีซั่น ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ก็ไม่ใช่ทีมที่ดีเหมือนกับหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยของ เชลซี ก็ยังไม่ได้สร้างความเชื่อใจให้กับคนหมู่มากสักเท่าไหร่

    เลสเตอร์, เอฟเวอร์ตัน, เซาธ์แฮมป์ตัน, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า ก็ต่างออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การที่ สเปอร์ส ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงด้วยการมีแต้มเท่ากับ หงส์แดง นั้นทำให้ เดอะ สเปเชียล วัน รู้ว่าทีมของเขาก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งเหมือนกัน

    ความสำเร็จทั้งหมดที่ผ่านมาเกิดขึ้นจาก แฮร์รี่ เคน แค่คนเดียว และปีนี้เขาก็ได้ ซน ก้าวขึ้นมาเป็นตัวชูโรงระดับแนวหน้าร่วมกัน

    เวลานี้ ทั้งสองมีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกร่วมกันแล้ว 29 ลูก ซึ่งเท่ากับคู่ของ โรแบร์ ปิแรส กับ เธียร์รี่ อองรี จาก อาร์เซน่อล และ เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ดาบิด ซิลบา ของ แมนฯ ซิตี้

    ในความจริงแล้ว มีเพียงคู่ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (36) เท่านั้นที่มีส่วนร่วมกับประตูในลีกมากกว่าคู่ของสองหนุ่มจากนอร์ทลอนดอน

    เชลซี มีกำลังเสริมอย่าง มิชาเอล บัลลัค และ นิโกล่าส์ อเนลก้า ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็มี เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ ปาทริค วิเอร่า ส่วน แมนฯ ซิตี้ ก็ไม่เคยขาดซูเปอร์สตาร์เลย

    แต่ถ้าสองหนุ่มเจนโกลเด้นบอยจาก ท็อตแน่ม ไม่สามารถลงสนามได้ คุณคิดว่าพวกเขาจะไปหาสกอร์จากที่ไหน

    ???

    เอริก ลาเมล่า, ลูคัส มูร่า และ สตีเว่น เบิร์กไวน์ อาจดูดีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนที่สามารถแบกรับความหวังทั้งหมดไว้ได้ ด้าน คาร์ลอส วินิซิอุส ก็ยังใหม่เกินไป และยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองอะไร ขณะที่ แกเร็ธ เบล ก็ไม่ได้เป็นแกนนำระดับท็อปนับตั้งแต่เขาย้ายออกจาก สเปอร์ส ไปเมื่อ 7 ปีก่อน

    เบิร์นลี่ย์ คือเหยื่อรายล่าสุดของคู่หูทั้งสองที่ประสานงานกันราวกับแบทแมน แอนด์ โรบิน ในพรีเมียร์ลีก โดยที่ ซน เป็นคนพังประตูชัยจากการแอสซิสต์ของ เคน

    ถ้านับเกมนั้นด้วย เวลานี้ สเปอร์ส กวาดชัยมา 4 เกมติดต่อกันแล้วในพรีเมียร์ลีก โดยก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 6-1 ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาแล้วด้วย

    เคน กับ ซน ยิงรวมกันในลีกไปแล้วถึง 16 ประตู ซึ่งจำนวนนั้น เคน ก็แอสซิสต์ไปถึง 9 ครั้ง และยิงได้ 7 ลูก ขณะที่ ซน ซัดไป 9 ประตู และทำอีก 2 แอสซิสต์

    แลมพาร์ด และ ดร็อกบา ช่วยกันระเบิดตาข่ายได้ถึง 51 ประตู ในฤดูกาล 2009-10 ซึ่งในที่สุดทั้งสองก็ขับเคลื่อน สิงห์บลูส์ ทะยานสู่ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก

    มูรินโญ่ สร้าง เชลซี เมื่อ 5 ปี ก่อนที่ คาร์โล อันเชล็อตติ จะนำทีมต่อยอดในการคว้าแชมป์ลีก และ โชเซ่ ก็ส่งความชื่นชมไปยัง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่สร้างคู่หูอย่าง เคน และ ซน ขึ้นมา

    หาก มูรินโญ่ สามารถรักษาเนื้อรักษาตัวของสองแข้งหลักเอาไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล มันก็ไม่มีเหตุผลที่ สเปอร์ส จะไม่ควรฝันถึงตำแหน่งนั้น

    ตอนนี้ ผู้จัดการทีมของพวกเขามีชื่อเสียงมาจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ถึง 3 สมัย

    แม้ที่ผ่านมาหมายเลข 4 จะไม่เคยอยู่ใกล้ มูรินโญ่ แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้การกระดิกนิ้วที่ 4 มีโอกาสดีมากที่สุดในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว

    พาสต้า