ทำไม ซิมิคาส ถูกมองข้าม...
เขาคนนั้นก็คือ คอสตาส ซิมิคาส
หลังจากอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และปัญหาเรื่องสภาพร่างกายของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ในตำแหน่งเดียวกับเขาจากช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนพฤศจิกายน ดูเหมือนว่าโอกาสจะมาถึง เนโก้ วิลเลี่ยมส์ และ ซิมิคาส
แต่ในช่วงเวลา 4 วัน กับการมี 2 นัดที่ต้องลงแข่งขัน วิลเลี่ยมส์ กลับกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเกมแรกนั้นโดนด่ายับ จากนั้นก็มาได้รับคำชื่นชมในเกมถัดมา
มองมาที่ ซิมิคาส เขายังคงเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งานทั้งในเกมที่ ลิเวอร์พูล เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 และเอาชนะ อาแจ็กซ์ 1-0 แม้ว่า คล็อปป์ จะโวยวายเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา
หลังจากเกมที่แสนสับสนที่เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม คล็อปป์ ได้บอกว่าหากเขาสามารถเปลี่ยนตัว 5 คนในพรีเมียร์ลีก ได้ เขาจะถอด โรเบิร์ตสัน และส่ง ซิมิคาส ลงไป
"ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 ครั้งในเกมนี้ มันจะไม่เกี่ยวกับเหตุผลเรื่องแท็คติกเลย" เขากล่าวหลังต้องเห็น เจมส์ มิลเนอร์ และ อดัม ลัลลาน่า เดินออกจากสนามด้วยปัญหาที่กล้ามเนื้อ
"ตัวอย่างเช่นวันนี้ หากเปลี่ยนได้ 5 คน ผมจะถอด ร็อบโบ้ ออกแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วส่ง คอสตาส ซิมิคาส ลงไปเพื่อเซฟ ร็อบโบ้ มันไม่ใช่เพื่อทำให้เกมของเราดีขึ้นหรืออะไรก็ตาม แต่เราแค่อยากพักเขา"
"นั่นคือสถานการณ์ มันไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปน หรือระบบ หรือเปลี่ยน 5 นักเตะในครั้งเดียว มันไม่ใช่แบบนั้น มันก็แค่เป็นการเซฟนักเตะ"
อย่างไรก็ตาม อีก 3 วันถัดมา โรเบิร์ตสัน ก็ยังเป็นตัวจริงของ คล็อปป์ เหมือนเดิม ขณะที่เขามีการเปลี่ยนรายชื่อตัวจริง 5 คนในเกมเยือน อาแจ็กซ์
มันก็ไม่ได้ผิดคาดอะไรกับการลงตัวจริงของแบ็กซ้ายสกอตแลนด์ เพราะ หงส์แดง ต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อยเพื่อเข้ารอบ 16 ทีมแชมเปี้ยนส์ลีก โดยเหลืออีกหนึ่งเกมในมือ เนื่องจากแชมป์ลีกเอเรดิวิซี่ คือคู่แข่งที่ยากที่สุดในกลุ่ม ดี
กระนั้น แนวคิดเรื่องการเซฟนักเตะก็เหมือนจะถูกลืมไปบ้าง เมื่อในครึ่งแรก โรเบิร์ตสัน ลงไปกองที่พื้นสองครั้งจากการเข้าปะทะ และครั้งที่สองเขาต้องใช้ผ้ารัดเท้าซ้ายเอาไว้
สำหรับแชมเปี้ยนส์ลีก นั้นแตกต่างจากพรีเมียร์ลีก กับการเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 ครั้ง โดยยูฟ่า บอกว่า "เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของนักเตะในช่วงเตะถี่ของปี 2020-21 เนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิด-19"
แต่ ลิเวอร์พูล ก็จบด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม โดย คล็อปป์ เปลี่ยนตัวแค่ 2 คนเท่านั้น คนแรกคือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เข้ามาแทน ดีโอโก้ โชต้า ในนาทีที่ 68 ขณะที่ โม ซาลาห์ ก็ถูกถอดออกให้ รีส วิลเลี่ยมส์ ลงในนาทีที่ 90
ตัวเลือกที่ผู้จัดการทีมไม่ได้ใช้ในแอนฟิลด์ก็มี ทาคูมิ มินามิโนะ, ดิว็อก โอริกี้, เลห์ตัน คล้าร์กสัน, เจค เคน และแน่นอน ซิมิคาส ก็ด้วย
ในขณะที่ คล็อปป์ โวยวายเรื่องสภาพร่างกายของนักเตะที่ต้องกรำศึกหนัก โรเบิร์ตสัน (1,354 นาที) เป็นคนที่ลงสนามมากที่สุดในฤดูกาลนี้ ตามมาด้วย จีนี่ ไวนัลดุม (1,281 นาที) แต่พวกเขาก็ยังคงเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมกับ อาแจ็กซ์
คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไม ซิมิคาส ถึงไม่ได้โอกาสเลย
???
การมาถึงของ ซิมิคาส ในเดือนสิงหาคม คล็อปป์ บอกว่าดาวเตะชาวกรีซคือตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ โรเบิร์ตสัน ได้พักมากขึ้น
ความคืบหน้าของ ซิมิคาส ในช่วงหลายเดือนแรกที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เขาต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ และการติดเชื้อโควิด-19 แถมยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว
ในสองครั้งที่ชัดเจนว่าจะเป็นโอกาสของดาวเตะหมายเลข 21 เขาก็เลือกที่จะไม่ส่ง ซิมิคาส ลงสนาม
เกมล่าสุดกับ วูล์ฟส์ ก็เช่นกัน โรเบิร์ตสัน ก็ยังได้ออกสตาร์ทตัวจริง และตะบึงทางกราบซ้ายตลอด 90 นาที โดยที่ ซิมิคาส ได้แค่นั่งมองตาปริบๆ อยู่ที่ข้างสนาม
บางที ดาวเตะวัย 24 ปี อาจยังไม่ถึงมาตรฐานที่ คล็อปป์ ตั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อม หรือหมัดเด็ดของเขาในการมายัง ลิเวอร์พูล
คล็อปป์ ดูจะยังไม่ไว้วางใจเขาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่น อย่างเกมแพ้ อตาลันต้า 0-2 ในแชมเปี้ยนส์ลีก ซิมิคาส ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกตอนครบ 1 ชั่วโมง โดย โรเบิร์ตสัน ถูกโยนลงไปในสนามอีกครั้ง
อันที่จริงในช่วงเวลาที่ยากลำบากของทีม อย่างน้อยนักเตะที่มีประสบการณ์ในการเล่นระดับสูงกับ โอลิมเปียกอส มาก่อนก็ควรได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นในบางเกมเพื่อพักนักเตะบางคนรึเปล่า?
แน่นอนว่า ซิมิคาส ไม่ใช่คนเดียว มินามิโนะ เองก็เจอกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
ในขณะที ไวนัลดุม ลงเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมกับ อาแจ็กซ์ ต่อด้วย วูล์ฟส์ ซึ่ง มินามิโนะ ก็นั่งข้างสนามโดยที่ไม่ได้รับโอกาส
คืนวันอาทิตย์ถือเป็นเกมที่ 7 ของ ไวนัลดุม ในระยะเวลา 22 วัน รวมแล้ว 575 นาทีทั้งการเล่นให้กับสโมสร และทีมชาติ
เช่นเดียวกับ ซิมิคาส ดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะยังไม่เชื่อมั่นในตัว มินามิโนะ และการทดลองส่งดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นลงเล่นในตำแหน่งเบอร์ 8 ในเกมกับ ไบรท์ตัน ก็ถือว่าไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ถ้าทั้งสองยังไม่รีบเค้นศักยภาพตัวเองออกมา บางทีอาจกลายเป็นคนที่ถูกลืมในที่สุดเลยก็ได้
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT