ฟาบินโญ่ : เซนเตอร์แบ็กทำให้ผมเก่งขึ้น
มันเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับ หงส์แดง จนกระทั่งถึงตอนนี้ แต่ด้วยการลุ้นท็อปโฟร์ที่ยังถือว่าอยู่ในมือ และการอยู่ในเส้นทางของแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ ก็ยังถือว่ามีเกมอีกมากให้ได้เล่น
ย้อนกลับไปหลังช่วงพักเบรกทีมชาติ ก่อนจะยำใหญ่ อาร์เซน่อล 3-0 เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เรียกร้องให้ทีมของเขาทุ่มเททุกสิ่งอย่างตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่น ขณะที่ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตกัปตันทีมยังเชื่อว่า ลิเวอร์พูล ยังมีโอกาสที่จะจบฤดูกาลแบบสวยงาม
หัวใจสำคัญในความหวังของ หงส์แดง สำหรับการจบฤดูกาลแบบแข็งแกร่ง ซึ่งตอนนี้เป็นหัวใจหลักของทีมก็คือ ฟาบินโญ่
ดาวเตะบราซิเลี่ยนวัย 27 ปี ถูกอธิบายว่า 'เป็นของจริงในทีม' โดย เป๊ป ลินเดอร์ส มือขวาของ คล็อปป์ และตัวอย่างก็คือความน่าประทับใจของเขาในฐานะเซนเตอร์แบ็กจำเป็นในช่วงที่ไม่มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ
15 จาก 20 นัดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ที่ ฟาบินโญ่ ต้องเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด ซึ่งแม้ว่าจะเป็นบทบาทที่เขาไม่ได้โปรดปราน แต่ความมุ่งมั่นของเขาก็ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตได้ 6 ครั้ง และเสียเพียง 12 ประตูจากจำนวนเกมเหล่านั้น
หงส์แดง เก็บคลีนชีตได้เพียง 2 นัด และเสียถึง 24 ประตู จาก 14 นัดในพรีเมียร์ลีก ที่ทีมไม่มีเขาในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ฟาบินโญ่ ได้กลับไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับที่คุ้นเคยมาตั้งแต่ก่อนพักเบรกทีมชาติที่คว้าชัยเหนือ ไลป์ซิก และ วูล์ฟส์ รวมถึง อาร์เซน่อล ซึ่งกลายเป็นว่าทีมสมดุลย์ขึ้น และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับคู่เซนเตอร์แบ็กใหม่อย่าง แน็ท ฟิลลิปส์ และ โอซาน คาบัค ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
การเปลี่ยนตำแหน่งกลับไปสู่บทบาทที่คุ้นเคยทำให้สาวก หงส์แดง ในโลกโซเชียลพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่ ฟาบินโญ่ ก็รู้สึกว่าช่วงเวลาที่้ขาอยู่ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กทำให้ตัวเองกลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน
"การเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟทำให้ผมได้เรียนรู้มากมาย" ฟาบินโญ่ กล่าว
"ผมเรียนรู้ที่จะสนุกกับการเล่นตำแหน่งนี้ เพราะตอนแรกผมไม่ได้รู้สึกดีกับมันสักเท่าไหร่! แต่แล้วก็ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมของผมที่ทำให้ผมพัฒนาขึ้นมาก และได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ เกี่ยวกับความเป็นผู้นำ เพราะในตำแหน่งนั้น คุณสามารถมองเห็นได้เกือบจะทุกอย่าง ดังนั้นเราจึงต้องพยายามจัดการทีมให้ดีด้วยเช่นกัน"
ฟาบินโญ่ แทบยิ้มไม่หยุดในขณะที่เขาบอกว่ามันอาจเป็นบทบาทที่เขาอาจจะได้เล่นต่อจากนี้ "ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าผมสามารถทำผลงานได้ดีในฐานะเซนเตอร์ฮาล์ฟ มันอาจจะเป็นไปได้!
แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องการให้เขากลับไปอยู่ตรงกลางสนามอีกครั้ง
กับมิดฟิลด์ตัวหลักที่เป็นเพื่อนร่วมทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งกำลังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ดังนั้นการปรากฎตัวของ ฟาบินโญ่ ในฐานะผู้นำของทีมจึงเป็นสิ่งที่ต้องการเร่งด่วน
มันอาจไม่ใช่ธรรมชาติของมิดฟิลด์ที่ค่อนข้างขี้อาย และเงียบขรึม แต่ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้เขาเติบโตขึ้น และเป็นที่ยอมรับมากกว่าเดิม
"เฮนโด้ เป็นผู้เล่นที่สื่อสารได้มากที่สุดในทีม เขามักจะพูดตลอดเวลา และสิ่งที่ทำให้ผมประทับใจก็คือเขาพูดคุยกับทุกคนที่หยุดวิ่งทุกครั้ง!"
"มันเป็นสิ่งที่เราคิดถึง นักเตะบางคนต้องก้าวต่อไป และพยายามเป็นผู้นำด้วยเช่นกัน เมื่อเราไม่มีนักเตะประเภทนี้ในสนาม ผมพยายามที่จะทำสิ่งนี้ ผมคิดว่าผมพัฒนาขึ้นมาในบทบาทนี้เช่นกัน"
"ผมไม่เหมือนกับ เฮนโด้ ผมคิดว่าผมสามารถช่วยเหลือด้านใดด้านหนึ่งได้"
แต่ผลงานที่สำคัญของ ฟาบินโญ่ จะมาพร้อมกับลูกบอลที่เท้าของเขา หรือมากกว่านั้นเมื่อบอลอยู่ที่เท้าของคู่แข่ง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตัดบอลกลับคืนมาให้อยู่ในครอบครองของทีม และขัดขวางการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
เขาติดอันดับเป็น 1 ใน 3 ของนักเตะในทีมที่เข้าแท็คเกิ้ล และตัดบอลในฤดูกาลที่แล้ว และงานทำลายล้างนั้นก็เป็นงานที่เขาชื่นชอบ
"ในตำแหน่งกองกลาง คุณจะสัมผัสบอลมากขึ้น และในส่วนของเกมรุกก็มีความสำคัญมากกว่าที่คุณอยู่ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ แต่สิ่งสำคัญอับดับแรกของผมก็คือพยายามป้องกันให้แนวรับขณะที่ไม่มีบอล พยายามที่จะปิดช่องว่างนั้น"
"จากนั้น พอเรามีบอล และเสียมันไปก็ต้องพยายามที่จะกู้มันกลับคืนให้ได้เร็วที่สุด"
ทักษะเหล่านี้คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับ ลิเวอร์พูล ในช่วงที่เหลือของซีซั่น
แต่นอกเหนือจากวิธีการแล้ว ฟาบินโญ่ ยังยืนยันว่า ลิเวอร์พูล จะไม่ถอดใจอย่างแน่นอน และก็ต้องการกอบกู้ฤดูกาลของพวกเขาด้วยถ้วยแชมป์ หรือการจบท็อปโฟร์ให้ได้
"ตอนนี้เป็นช่วงท้ายซีซั่นแล้ว ซึ่งเป็นส่วนที่จะตัดสินทีม ดังนั้นเราต้องทำทุกอย่าง และเล่นแต่ละเกมให้เหมือนนัดชิง"
"มันยังยากอยู่ที่จะคว้าท็อปโฟร์ และไปให้ไกลที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เราต้องพร้อมสำหรับสิ่งนี้ เราต้องทุ่มเททุกอย่าง และเล่นฟุตบอลให้ดีที่สุดหากเราต้องการที่จะฉลองบางสิ่งบางอย่างในตอนจบฤดูกาล"
"ใช่ แน่นอน เราเชื่อ (ว่าจะจบท็อปโฟร์ได้) เราต้องเป็นคนแรกที่เชื่อในสิ่งนี้ถ้าเราต้องการอยู่ตรงนั้น และผมคิดว่าเราสามารถผ่าน เรอัล มาดริด ได้ แต่เราต้องทำให้ดีที่สุด และด้วยอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม เราคือ ลิเวอร์พูล ดังนั้นเราจึงพยายามที่จะชนะในทุกการแข่งขัน"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT