เสียดาย เซลาเล็ม
กีเดียน เซลาเล็ม ถูกพบโดย แดนนี่ คาร์บาสซิยูน แมวมองของ อาร์เซน่อล ซึ่งเขานี่แหละคือนักเตะชาวอเมริกันคนแรกที่ทำประตูให้ เดอะ กันเนอร์ส แต่กลับต้องมาแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 22 ปี มันเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นถึงตัวของรุ่นน้องอย่าง เซลาเล็ม ในหลายๆ ด้าน
คาร์บาสซิยูน เคยกล่าวผ่านเว็บไซต์โกล ในปี 2016 ว่า "กีเดียน อายุ 13 ปี ในตอนที่ผมพูดชมเขา ผมได้รับอีเมลมากกมายเกี่ยวกับผู้เล่น และข้อความว่า 'มาดูเด็กนี่สิ เขาคือ โรนัลโด้ คนต่อไป คือ เนย์มาร์ คนต่อไป เขาอายุ 9 ขวบ เขาเล่นด้วยเท้าซ้าย เขาน่าทึ่งมาก"
"ผมไปดูเขาในคืนอันหนาวเหน็บเดือนมกราคมในวอชิงตัน พ่อแมของเขาอาจสงสัยว่าทำไมต้องมีบางคนต้องมาดูลูกชายของพวกเขาฝึกซ้อมด้วยตัวเอง"
"หลังจากนั้นราว 10 นาที ผมก็คิดกับตัวเองว่า 'เฮ้ย เด็กคนนี้มันเก่งมาก' เขาแสดงให้เห็นถึงระดับความสามารถทางเทคนิก ความเข้าใจเกม และความฉลาดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในจุดนั้นของเด็กอเมริกัน และผมก็จับตามองมา 4 ปีแล้ว"
เซลาเล็ม เกิดที่เยอรมัน เล่นให้ทีมชาติเยอรมันชุดเยาวชน รวมถึงอยู่กับอะคาเดมี่ของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ด้วย จากนั้นเขาก็ไปอยู่กับสโมสรในสหรัฐฯ ก่อนจะย้ายมา อาร์เซน่อล ในปี 2013 หลังโชว์ฟอร์มเตะตาแมวมองในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ดัลลัส คัพ ยูธ
เขาได้รับการยกย่องให้เป็นสตาร์ และจุดเด่นก็คือทักษะ แต่อย่างที่เขาบอกกับเว็บไซต์ของเอ็มแอลเอส ในเดือนสิงหาคม ปี 2019 "ฟุตบอลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่คุณคิดว่ามันจะโตขึ้น มันบ่อยเลยกับการขึ้นๆ ลงๆ มันมีอาการบาดเจ็บเข้ามา ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย"
เซลาเล็ม เป็นที่จับตามองมานานในเรื่องของเทคนิก และสกิลการผ่านบอล โดยถูกนำไปเทียบกับ เชส ฟาเบรกาส เลยทีเดียว เมื่อเขาถูกกระโดดถีบโดยตรงจากทีมชุดยู-16 ไปอยู่ในทีมชุดยู-21 รวมถึงยังอยู่ในทีมชุดใหญ่ในการทัวร์เอเชียของสโมสรในเดือนกรกรฎาคม ปี 2013 ด้วย
เขาย้อนความจำในการซ้อมกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกว่า "มันเกินจริง ผมเห็น อาร์แซน เวนเกอร์ ผมกลายเป็นสตาร์ ผมไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ผมคิดว่าผมกำลังมีชีวิตอยู่ในหนัง"
ถึงกระนั้น เซลาเล็ม ก็ไม่เคยเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล ในลีก เขามีชื่อบนม้านั่งสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกกับ ฟูแล่ม ในเดือนสิงหาคม ปี 2013 แต่จากนั้นก็หลุดไปเพราะอาการบาดเจ็บเป็นเวลา 2 เดือน
เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น เซลาเล้ม ถูกส่งไป เรนเจอร์ส แบบยืมตัวทั้งซีซั่นในปี 2015-16 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดสกอตแลนด์ หลังจากที่สโมสรถูกปรับตกชั้นไปอยู่ลีกระดับ 4 เนื่องด้วยปัญหาทางการเงิน
ต่อมาเขาก็มีข่าวเชื่อมโยงกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่ก็ยังคงเลือกที่จะต่อสู้แย่งตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ของ เดอะ กันเนอร์ส
ตลอดเวลาตอนนี้ มันก็มีการต่อสู้ในเรื่องของทีมชาติเพื่อแย่ง เซลาเล็ม เช่นกัน เขาเคยเล่นให้เยอรมันในทีมระดับยู-17 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเล่นให้สหรัฐฯ ตอนพ่อของเขาย้ายไปอยู่ที่วอชิงตัน ดีซี หลังแม่ของเขาเสียชีวิต
"กีเดียน เป็นผู้เล่นที่มีเทคนิกมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในทีมชาติระดับเยาวชน" แท็บ รามอส อดีตกุนซือสหรัฐฯ ชุดยู-20 กล่าว
"การผ่านบอลของเขาง่ายมาก มันช่วยได้ปัญหาคลี่คลายลงได้ ผมได้เห็นหลายคนในตอนนั้น เขาเป็นคนพิเศษ และแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่เราเคยมี"
ในที่สุด เซลาเล็ม ก็ประกาศเลือกเล่นให้ทีมชาติสหรัฐฯ และติดธงระดับยู-20 ไป 10 นัด แต่ยังไม่เคยรับหมวกจากทีมชาติชุดใหญ่เลย ซึ่งปัญหาก็มาจากอาการบาดเจ็บนั่นเอง
ช่วงเวลาของเขาที่ อาร์เซน่อล ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก ระเบิดลูกใหญ่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในช่วงท้ายซีซั่น 2016-17 เมื่อเอ็นหัวเข่าของเขาขาดสะบั้นในขณะเล่นให้กับสหรัฐฯ ในศึกยู-20 ชิงแชมป์โลก ทำให้เขาต้องพักนานถึง 18 เดือนเลยทีเดียว
การเลือกเล่นให้ ยูเอสเอ ทำให้เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากแฟนๆ ทางโลกออนไลน์ และทัวร์นาเมนตืนั้นควรจะเป็นเวทีแจ้งเกิดของเขาให้โลกฟุตบอลได้เห็น แต่มันกลับเป็นฝันร้ายที่สุดสำหรับนักเตะเยาวชน เมื่อต้องจบเส้นทางหลังจาก 34 นาทีในเกมเสมอ เอกวาดอร์ 3-3
ปัจจุบัน เซลาเล็ม ค้าแข้งอยู่กับ นิวยอร์ก ซิตี้ และกำลังรักษาอาการบาดเจ็บเพื่อจะกลับมาลงสนามในซีซั่นใหม่ให้ได้ โดยสโมสรแถลงว่า "เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เขามีเมื่อปีที่แล้วก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บ (เข่าอีกครั้ง) และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นเขากลับมาลงสนามในปี 2021"
จะว่าไปก็น่าเสียดายพรสวรรค์ต่างๆ ของ เซลาเล็ม ที่ต้องถูกฉุดรั้งจากอาการบาดเจ็บ ไม่งั้นป่านนี้เขาอาจมีชื่อเสียงเป็นหนึ่งในแข้งชั้นแนวหน้าของโลกลูกหนังแล้วก็ได้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เซลาเล็ม จะกลับมาฟิต และตอบสนองต่อความคาดหวังอันสูงส่งเหล่านั้นได้อีกครั้ง
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT