:::     :::

เกิดอะไรขึ้นกับ 'ไอ้โหด'

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2564 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
36,879
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กองหน้ารายนี้คือหัวใจสำคัญในตอนที่ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ คว้าแชมป์ลีกครั้งก่อนหน้าในปี 2014 แต่กลับต้องกลายเป็หมาหัวเน่าจนต้องแยกทางออกไปในฤดูกาลนี้ที่พวกเขาไปถึงแชมป์ลา ลีกา ได้อีกครั้ง

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แอต. มาดริด คว้าแชมป์ลา ลีกา ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2013-14 กับบรรดาเลือดใหม่ที่ ซิเมโอเน่ สร้างขึ้นมา

    ย้อนกลับไปสมัยแชมป์ลีก เมื่อปี 2014 นั่นเป็นแชมป์แรกของ แอตเลติโก ในรอบ 18 ปี กับการเสมอ บาร์เซโลน่า ในวันสุดท้ายของฤดูกาล โดยอีกไม่กี่วันถัดมาก็ไปอกหักในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก

    ปีนั้น ดีเอโก้ คอสต้า ตะบันไป 36 ประตู จากการเล่นเพียง 52 นัดรวมทุกรายการ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยทำประตูในลา ลีกา ได้เกิน 10 ลูกต่อการเล่นหนึ่งซีซั่นเลย ไม่ว่าจะจากการเล่นกับ เซลต้า บีโก้, อัลบาเซเต้, บายาโดลิด และ เรอัล บาเยกาโน่ ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาได้ประกาศตัวเองแล้วกับการเป็นแข้งระดับท็อป

    ตราหมี ได้กลับมาทวงแชมป์คืนได้สำเร็จในค่ำวันเสาร์ หลังบุกไปเอาชนะ บายาโดลิด เข้าวินเหนือ เรอัล มาดริด ที่ตามไม่ทัน กระนั้นแม้ว่า คอสต้า จะเป็นหนึ่งในนักเตะของถิ่นว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ แต่เขาก็แทบไม่ได้มีส่วนร่วม และตัดสินใจแยกทางกับ แอตเลติโก

    ในเดือนธันวาคม ปี 2020 ตอนที่ ตราหมี ยังรั้งจ่าฝูงของตาราง คอสต้า ได้ยกเลิกสัญญามูลค่า 8 ล้านยูโรต่อปีที่ยังเหลืออีก 6 เดือนกับสโมสรด้วยเหตุผลส่วนตัวที่คลุมเครือ

    ซิเมโอเน่ กล่าวว่าเขาเสียใจที่เห็น คอสต้า จากไป แต่ในที่สุดแล้วกับการที่อดีตหัวหอกทีมชาติสเปนจากไปก่อนกำหนดก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร เพราะ ตราหมี เองก็ไม่ได้ต้องการเขาอีกแล้ว

    ในขณะที่ความสำเร็จในซีซั่น 2013-14 นั้นมาจากแนวรุกอันดุดัน การต่อสู้เพื่อประตู กองหลังอันเหนียวแน่น และการคุกคามผู้ตัดสิน แต่จุดโฟกัสเกมรุกของปี 2020-21 คือ หลุยส์ ซัวเรซ

    คอสต้า พยายามดิ้นรนเพื่อเรียกฟอร์มได้ใกล้เคียงกับซีซั่น 2013-14 หลังกลับมายัง แอตเลติโก รอบสองในปี 2018 แต่มันไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมแล้ว เขากลับต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้นเพราะอารมณ์ที่ระเบิดออกมาเกินควร

    ซิเมโอเน่ เป็นคนที่ชักชวน คอสต้า ให้กลับมายัง แอต. มาดริด หลังเขากลายเป็นที่หมางเมินของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ เชลซี ด้วยความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งของพวกเขาทำให้ คอสต้า ยอมที่จะจมปลักกับ สิงห์บลูส์ ออกไปอีก 2-3 เดือนจนกระทั่งถึงเดือนมกราคม ปี 2018 เพื่อรอให้ ตราหมี พ้นโทษแบนในตลาดนักเตะก่อน

    และก็เป็น ซิเมโอเน่ นั่นแหละที่ประกาศเรื่องย้ายออกจากทีมของ คอสต้า ผ่านสื่อในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเทรนเนอร์อาร์เจนไตน์ก็ช็อกอย่างเห็นได้ชัด "มันเกิดขึ้นเร็วมาก"

    "สโมสรได้คุยกับเขาถึงความต้องการของเขา และเหตุผลส่วนตัวของเขา และได้หาวิธีช่วยเหลือเขาโดยไม่มีผลเลวร้ายต่อทีม ทั้งหมดนี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจ"

    ด้วยวัย 32 ปี คอสต้า อยู่ในช่วงอายุที่ยังสามารถเล่นให้ทีมใหญ่ๆ ในยุโรปได้แบบสบายๆ

    กระนั้นก็มีการเปิดเผยออกมาว่า คอสต้า จะถูกปรับ 25 ล้านยูโร หากเขาเลือกที่จะซบทีมคู่แข่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ในลีกสเปน ซึ่งก็หมายถึง บาร์เซโลน่า หรือ เรอัล มาดริด และหากเป็นทีมอื่นในลีกก็จะต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 5 ล้านยูโร

    ในขณะที่มีข่าวเชื่อมโยงกับทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่บ้าง คอสต้า ก็พัวพันกับ เบนฟิก้า, วูล์ฟส์, เวสต์แฮม ซึ่งนั่นดูจะต่ำกว่าความคาดหวังระดับสูงของเขา

    ดังนั้น คอสต้า จึงเลือกที่จะรอด้วยความหวังว่าทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปจะมาเคาะประตูเรียกเขาในช่วงซัมเมอร์ แต่ปัญหาก็คือโลกฟุตบอลมันหมุนไปไว และเมื่อคุณอยู่นอกสายตาที่จะสังเกตุเห็น มันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ตัวเองกลับมาอยู่ในสปอร์ตไลท์

    ในครั้งก่อนที่เจอปัญหาคล้ายๆ กันนี้ คอสต้า เลือกกลับไปอยู่กับครอบครัวที่บ้านในบราซิล ซึ่งเขาก็คร่ำครวญถึงวิธีการที่ คอนเต้ และ เชลซี ปฏิบัติกับตนแบบไม่ยุติธรรม เขาได้ ซิเมโอเน่ ดึงเขาขึ้นมา และพาเขากลับไปเล่นกับสโมสรชั้นนำของยุโรปอีกครั้ง แต่คราวนี้มันอาจไม่มีโชคแบบนั้นอีกแล้ว

    คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไม คอสต้า ไม่สามารถอยู่กับ แอตเลติโก เพื่อเก็บเหรียญแชมป์ลา ลีกา สมัยที่ 2 ก่อนที่จะไปหาทีมใหม่หลังจากนั้น

    ดูเหมือนว่าเขา และทีมจะมองกันคนละมุมแล้ว มุมของ คอสต้า ก็คือเขาไม่ค่อยจะได้รับโอกาสลงสนาม ขณะที่สโมสรก็มองถึงเรื่องค่าเหนื่อย และค่าปรับที่อาจเกิดขึ้นจากบุคลิก และชื่อเสียของเขาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนในทีม

    ถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างยิ่ง ทั้งกับ คอสต้า เอง และก็แฟนๆ สำหรับผลงานในสนาม การจับคู่กับ ซัวเรซ ดูจะไม่ได้ผล แม้จะมีคอมเมนต์อันโด่งดังจากหัวหอกที่เกิดในบราซิลหลังเกมเอาชนะ กรานาด้า 6-1

    "ผมชอบ หลุยส์ ซัวเรซ มันเป็นเรื่องดีมากเลยเพราะตอนนี้ทีมเรามีคนหนึ่งกัด และอีกคนหนึ่งเตะ" คอสต้า กล่าวหลังเกมนั้น

    "เราโชคดีมากที่ทีมมีนักเตะอย่าง ซัวเรซ ซึ่งผมไม่เข้าใจจริงๆว่าบาร์ซ่าปล่อยเขาไปได้อย่างไร"

    หลังจากที่คว้าชัยเหนือ เอลเช่ ในลีกได้ในช่วงก่อนคริสต์มาส ซัวเรซ ทำ 2 ประตู ขณะที่ คอสต้า กลับมาจากอาการบาดเจ็บ เขาพูดติดตลกว่า "ตอนผมไม่อยู่ เขา (ซัวเรซ) ยิงไม่ได้เลย พอผมกลับมาเขาทำได้ 2 ประตู"

    สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปแล้วอย่างชัดเจน และ คอสต้า ก็ตัดสินใจว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่ แอตเลติโก ได้อีกแล้ว ในที่สุดมันก็พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นความสูญเสียของเขา มากกว่าการสูญเสียของ ตราหมี

    แล้วตอนนี้ คอสต้า จะไปอยู่ที่ไหน? เขาอาจมีข้อเสนอมากมายในซัมเมอร์นี้

    แต่ก็อย่างที่บอกไปแล้วนั่นแหละ โลกฟุตบอลมันหมุนไปไว และกับเขาที่หยุดอยู่กับที่ ทีมยักษ์ใหญ่ตามความคิดเขาอาจไม่มีอีกต่อไปแล้ว

    พาสต้า


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})