ซวยแล้ว...ฮาเมส
ชัยชนะเหนือ เอกวาดอร์ 1-0 ในเกมประเดิมกลุ่ม บี อาจดูดีไม่น้อย แต่จากนั้นพวกเขาก็ทำได้เพียงเสมอ เวเนซุเอลา ที่เล่นแบบแก้ขัดเฉพาะหน้าจากปัญหาโควิด-19 แบบไร้สกอร์ จนกระทั่งล่าสุดถึงขั้นแพ้ เปรู 1-2 เลยทีเดียว
การสร้างสรรค์โอกาส และการจบสกอร์ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นปัญหามาตลอดทั้ง 3 เกม และก็มีเสียงวิจารณ์เพิ่มขึ้นมากไปยังแคมป์ทีมชาติโคลอมเบีย โดยการที่ ฮาเมส โรดริเกซ สตาร์ของทีมที่หายตัวไปเหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟให้ระอุมากยิ่งขึ้น
ฮาเมส ต้องพบกับฝันร้ายจากอาการบาดเจ็บ และปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นตลอดปี 2021 ทั้งที่เริ่มต้นชีวิตได้อย่างน่าประทับใจกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งนั่นกลายเป็นความผิดหวังอย่างที่สุด
ถึงกระนั้น มันก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอยู่ดีที่ได้เห็น เรนัลโด้ รวยด้า หั่นชื่อเขาออกจากทีมชุดลุยโกปา อเมริกา ในนาทีสุดท้าย และเพลย์เมกเกอร์รายนี้ก็แสดงความเห็นที่ตรงกันข้ามากที่สุดกับการตัดสินใจครั้งนั้น
"ผมต้องการทำให้ชัดเจนว่าผมฟิตพอที่จะเล่นในโกปา อเมริกา" ฮาเมส ตอบโต้ในอินสตาแกรม ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดของ รวยด้า ที่ให้เหตุผลถึงการหั่นชื่อเขาเพราะเรื่องของสภาพร่างกาย
"มันเป็นการตัดสินใจของทีมโค้ช ผมเคารพมัน แต่ผมไม่เห็นด้วย เพราะผมไม่เคารพบางเรื่อง ถ้าเขา (รวยด้า) บอกว่า 'ผมไม่เลือกคุณเพราะผมไม่ชอบคุณในฐานะนักเตะ' ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็จะหุบปาก และรีบออกไปเลย"
ขณะที่ ฮาเมส สนุกกับวันหยุดพักร้อนแบบคาดไม่ถึง ไปอาบแดดในไมอามี และไปร่วมงานปาร์ตี้สุดหรูของ คาโรล จี ซูเปอร์สตาร์เร้กเก้ในเมเดยิน ปฏิกิริยาตอบสนองต่อคอมเมนต์ของเขากลับทวีความรุนแรงอย่างมาก
แม้แต่ตำนานทีมชาติโคลอมเบียอย่าง ฟาอุสติโน่ อัสปริย่า ซึ่งเคยปกป้องดาวเตะหมายเลข 10 มาโดยยังยอมรับกับ อีเอสพีเอ็น ว่าฮีโร่ฟุตบอลโลก ปี 2014 ได้ทำ 'เรื่องผิดพลาด'
ขณะที่อดีตผู้รักษาประตูอย่าง ออสการ์ กอร์โดบา และมิดฟิลด์อย่าง เฟรดี้ รินคอน ต่างไม่เห็นด้วยกับข้ออ้างของ ฮาเมส ว่ารุนแรงเกินไปกับคอมเมนต์ที่มีต่อทีมปัจจุบัน
หนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่ร้อนแรงที่สุดต่อเขาก็คือ อีวาน เมฮิอา อัลวาเรซ ไอคอนนักข่าวที่เกษียณตัวเองแล้ว "เขาน่าจะดูฉลาดกว่านี้ถ้าอยู่เฉยๆ" ชาววัย 70 ปีเขียนลงทวิตเตอร์ "ความภาคภูมิใจนั้นคือสิ่งที่ทำให้เขาต่อสู้กับโค้ช เรนัลโด้ ทำงานได้ดีมาก"
อย่างไรก็ตาม กับฟอร์มปัจจุบันก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ว่า รวยด้า ซึ่งมีประสบการณ์มากมายในการคุมทีมชาติไม่ว่าจะกับ ฮอนดูรัส, เอกวาดอร์ และ ชิลี มาก่อนจำเป็นต้องพา ฮาเมส ไปยังบราซิลด้วย
เขามีความสุขกับการเริ่มต้นชีวิตที่เหมือนฝันในพรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทีมของ อันเชล็อตติ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน โดยทำได้ 3 ประตู และ 3 แอสซิสต์ จาก 5 เกมแรก แถม เอฟเวอร์ตัน ยังเหมือนจะเป็นผู้ท้าชิงโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงเริ่มต้น
แต่ฝันในช่วงเริ่มแรกก็ได้จบลง และก็มีเพิ่มอีกแค่ 3 ประตูในลีก บวกกับแอสซิสต์เดียว ซึ่งมาพร้อมกับปัญหาเรื่องความฟิต และ ทอฟฟี่ เองก็เสียหายมากที่สุด โดยที่สุดแล้วพวกเขาก็หล่นไปรั้งอันดับ 10 ที่ห่างไล่จากโควต้ายุโรปมาก
เมื่อ อันเชล็อตติ กลับไปยัง เรอัล มาดริด ทีมที่ดีใจมากกับการเห็น ฮาเมส จากไปเมื่อ 12 เดือนก่อน และ ราฟา เบนิเตซ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ปั่นป่วนกับเขาในเมืองหลวงของสเปนใกล้ที่จะเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ในถิ่นกูดิสัน พาร์ค อนาคตกับทีมของเขาจึงไม่ได้ดูสดใสไปกว่าอนาคตกับทีมชาติเลย
โคลอมเบีย อาจเสียใจที่ไม่ได้เลือกดารารายนี้มา พร้อมกับผลงานชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ก่อนที่จะพบ บราซิล ทีมเจ้าภาพในอีก 3 วันถัดมาในเกมสุดท้ายของรอบแรก การเข้ารอบน็อกเอาต์ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร แต่ก็ยังมีมุมที่จะร่วงอยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อรอบก่อนรองชนะเลิศเริ่มขึ้น คู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง อาร์เจนตินา, ชิลี และ อุรุกวัย รออยู่ตรงหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาต้องดิ้นรนจากการขาดจินตนาการในการเล่น โดยอาศัยการทำเกมรุกเป็นระยะๆ จากทั้ง เอ็ดวิน การ์โดน่า ของ โบคา จูเนียร์ส และ ฮวน กวาดราโด้ ดาวดังริมเส้นที่ต้องเติมเต็มชีวิตให้กับทีมเหมือนคนงาน
การขาดแคลนตัวเลือกในเกมรุกนั้นกลับมาทำร้ายพวกเขา เมื่อมาถึงช่วงสำคัญของ โกปา
ในทางกลับกัน ถ้า ฮาเมส เดินทางมากับทีมด้วย มันแน่ชัดว่าคงจะต้องเป็นเพราะชื่อเสียงในอดีตมากกว่าที่จะมาจากฟอร์มในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
รวยด้า และทีมของเขามักจะมองไปยังการเล่นปัจจุบันของนักเตะ เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมมากกว่าความสามารถส่วนบุคคล
เป็นเรื่องน่าเสียดายของ 29 ปี ที่ต้องเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บ และความโชคร้ายอีกบางส่วนนั้นหยุดไม่ให้เขาก้าวไปเป็นนักเตะระดับโลกทั้งที่ด้วยความสามารถแล้วเขาสามารถไปถึงจุดนั้นได้ก็ตาม
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT