ซานโช่ น่ากังวล...

    เมื่อ เจดอน ซานโช่ ย้ายมาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด แฟนๆ ต่างคาดหวังกันหลักๆ เลยสามอย่าง ได้แก่ประตู, แอสซิสต์ และทักษะเฉพาะตัว

    "โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะทำให้เขาปลดปล่อยพรสวรรค์ และโชว์ฟอร์มในระดับสูงสุด" นั่นเป็นคำพูดของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หลังจาก ยูไนเต็ด ทุบคลัง 73 ล้านปอนด์ คว้าตัวเขามาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

    แต่ในขณะที่ยังเป็นจุดเริ่มต้นในอาชีพค้าแข้งของ ซานโช่ ผลงานทั้ง 7 นัดของเขาจนถึงตอนนี้ แทบไม่มีหลักฐานเลยว่าคำสัญญาเหล่านั้นจะบรรลุผลสำเร็จ

    จากป้ายราคาของเขา ความล้มเหลวในการสร้างผลกระทบของ ซานโช่ กับทีมใหม่ในทันทีอาจเป็นสิ่งที่เข้าใจได้

    "เขาจะไม่เป็นไรหรอก" รอย คีน พูดถึง ซานโช่ กับสกาย สปอร์ต เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังนักเตะถูกทิ้งไว้บนม้านั่งสำรองในเกมชนะ เวสต์แฮม

    "เขาอยู่กับทีมอะไร เพิ่งสองเดือนเองใช่ไหมล่ะ? มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ผู้เล่นใหม่เข้ามายังสโมสร ให้เวลาเด็กมันบ้าง"

    "เขายังคงต้องเรียนรู้ เขายังเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่ได้รับการคาดหวังสูง เขามายังทีมใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะยังไม่ได้เป็นดาราของทีม เขาจะต้องปรับตัวให้เข้ากับทุกสิ่งอย่าง ต้องให้โอกาสเขา"

    ด้าน โซลชา ก็ยืนยันว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ดร็อป ซานโช่ ออกจากทีมตัวจริงในเกมที่ลอนดอน สเตเดี้ยม และพอใจกับอิมแพ็คท์ที่ปีกรายนี้ทำหลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

    แต่เนื่องจาก ซานโช่ เพิ่งเป็นคนที่ต้องเสียสละถูกถอดออกก่อนพักครึ่งในเกมกับ ยัง บอยส์ หลังใบแดงของ อารอน วาน-บิสซาก้า จึงทำให้มีหลายคนที่ไม่มั่นใจในความสามารถของอดีตดาวเตะ แมนฯ ซิตี้

    สำหรับข้อมูลดิบจาก 7 เกมแรกของเขากับ ผีแดง เขามีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งเกิดขึ้นในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ขณะที่อีกหนก็เกมกับ เวสต์แฮม ในคาราบาว คัพ ที่แพ้ตกรอบ และก็สร้างสรรค์โอกาสให้ทีมได้แค่ 3 หน

    หากจะหาอะไรมาหักล้างก็คือความเป็นจริงที่ว่า ซานโช่ ยังต้องไล่หลังคนอื่นให้ทันจากช่วงปรีซีซั่นที่ขาดหายไป

    ซานโช่ มาถึงสนามซ้อมแคร์ริงตันในเดือนสิงหาคม หลังจากได้วันหยุดจากยูโร 2020 แถมเขายังพลาดการเก็บตัวครั้งสุดท้ายเนื่องจากอาการป่วยด้วย

    เป็นที่เข้าใจว่าทีมงานของสโมสรรู้สึกว่าความฟิตของเขายังไม่อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับเกมนัดเปิดซีซั่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้ถูกใส่ชื่อบนม้านั่งสำรองในนัดนั้นแทน

    จากการขาดหายไปในช่วงปรีซีซั่นของ ซานโช่ ยังหมายความว่าเขายังไม่ได้ทำความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ของเขา หรือได้มีเวลาในการเร่งเครื่องตามระดับที่ โซลชา ต้องการ

    และแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็มาถึง

    การมาถึงของ โรนัลโด้ ถือเป็นทั้งแง่บวก และแง่ลบสำหรับนักเตะอย่าง ซานโช่

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการคัมแบ็กของ โรนัลโด้ กับทีมนั้นยิ่งใหญ่มากเพียงใด แค่เดินไปตามท้องถนน Market Street ในใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ทุกวัน คุณก็จะพบกับพ่อค้าแม่ขายที่ขนผ้าพันคอ โรนัลโด้ มาเต็มร้าน

    บรรยากาศที่คลั่งไคล้รอบๆ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสได้บรรเทาความกดดันบางอย่างต่อ ซานโช่ โดยนักเตะที่แฟนๆ ต่างคาดหวังไว้สูงไม่ได้กลายเป็นจุดสนใจมากที่สุดอีกต่อไปแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลสำหรับการกลับมาเป็น 11 ตัวจริงของ ซานโช่ อยู่ เนื่องจากจากมาถึงของ โรนัลโด้ ทำให้แผงเกมรุกของ ผีแดง ดูแน่นๆ ไปเหมือนกัน

    โซลชา มีงานหนักในความพยายามที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่แนวรุกระดับทีมชาติทั้ง 6 คน ขณะที่เหลือพื้นที่ว่างแค่ 3 ตำแหน่งเท่านั้นในทีมของเขา และจากฟอร์มอันสุดยอดของ โรนัลโด้ รวมถึงฮีโร่ในช่วงต้นซีซั่นของ เมสัน กรีนวู้ด จึงไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่า ซานโช่ จะได้เป็นตัวจริงในเร็ววันนี้

    "เขาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา" โซลชา กล่าวถึง ซานโช่ ก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    "ในการซ้อม เขากำลังเรียนรู้วิถีของเรา เขากำลังเรียนรู้พรีเมียร์ลีก และแน่นอนว่าเขารู้จักแชมเปี้ยนส์ลีกมาตั้งแต่อยู่กับ ดอร์ทมุนด์ แล้ว เขายังเด็ก เขาเพิ่งจะอายุ 21 ปี และเขาจะพัฒนาขึ้น"

    ข่าวดีของ โซลชา และแฟนๆ ผีแดง ก็คือ ซานโช่ เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนแล้วกับการอดทนกับช่วงออกสตาร์ทซีซั่นที่ยากลำบาก ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของเขา

    ฤดูกาลที่แล้ว ซานโช่ ทำประตูไม่ได้เลยตลอด 11 เกมแรกในบุนเดสลีกา โดยลูกแรกในลีกของเขากว่าจะมาถึงก็ปาไปเดือนมกราคมของซีซั่น 2020-21

    แต่สุดท้าย ซานโช่ ก็จบฤดูกาลด้วยการทำไป 16 ประตู และ 20 แอสซิสต์ในทุกรายการ

    ในตอนนี้ ซานโช่ สามารถใช้ชื่อเสียงความโด่งดังของ โรนัลโด้ เป็นเกราะป้องกันเพื่อที่เขาจะได้ทำความคุ้นเคยกับชีวิตใหม่ในบ้านเกิดอย่างเงียบๆ และทำงานเพื่อพัฒนาตัวเอง รวมถึงสร้างความประทับใจในสนามซ้อม

    ถ้าเขาทำแบบนั้นได้ มันก็หมายความว่าเขาได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเขาเองสำเร็จ

    แต่หากยังปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบไร้หลักต่อไป ระวังเงาของ อเล็กซิส ซานเชซ จะชัดมาขึ้นเรื่อยๆ ก็แล้วกัน

    พาสต้า