:::     :::

อีก 90 นาทีตัดสินชะตาปืน

วันจันทร์ที่ 09 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
3,592
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มิเกล อาร์เตต้า รู้ดีว่าพวกเขาจะสามารถการันตีว่าตัวเองจะจบในพื้นที่ท็อปโฟร์ได้ด้วยการคว้าชัยในศึกนอร์ทลอนดอนดาร์บี้ที่ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สเตเดี้ยม ในวันพฤหัสบดีนี้

อาร์เซน่อล ต้องการมันอีกเพียงเกมเดียวเท่านั้น

หาก ปืนใหญ่ เอาชนะ สเปอร์ส ในคืนวันพฤหัสบดี พวกเขาก็จะได้กลับไปลุยเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017

มันอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วสำหรับเหล่า กูนเนอร์ส

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนหน้านี้ มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปแล้ว เมื่อไปพลาดท่าแพ้ 3 เกมติดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่การกลับคืนฟอร์มเอาชนะได้ 4 นัดติดต่อกันทำให้ฤดูกาลที่เหมือนจะพังทลายกลับคืนมาอีกครั้ง

ทีมของ อาร์เตต้า เพิ่งผ่านเกมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยพวกเขาเองรู้ว่าชัยชนะนั้นจะทำให้โกยแต้มนำหน้า ไก่เดือยทอง 4 คะแนน ก่อนเกมสำคัญในนอร์ทลอนดอนดาร์บี้กลางสัปดาห์นี้

และก็ต้องขอบคุณ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ทำ 2 ประตูได้ตั้งแต่หัววัน แม้ว่าพวกเขาจะออกอาการป้อแป้ในช่วงท้ายเกมหลังจากโดนลูกตีไข่แตกจาก ดีเอโก้ ยอเรนเต้ ทั้งที่ ยูงทอง ก็เหลือแค่ 10 ตั้งแต่หัววัน

"ผมมีประสบการณ์แบบนั้นในลีกนี้" อาร์เตต้า กล่าวหลังชัยชนะเหนือ ลีดส์

"ผมเคยเจอกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก แต่วิธีการที่เริ่มออกสตาร์ทมันวิเศษมาก มันเป็นยอดเยี่ยม มันเด่นชัดมาก

"เรากำลังเดินหน้าเพื่อมันอย่างแท้จริง ไม่มีความลังเลเลย และแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ เราทำได้ 2 ประตู จากนั้นพวกเขาก็เหลือ 10 คน และหลังจากนั้นคุณก็เจอเกมที่แตกต่าง"

"ผมคิดว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่เราไม่สามารถทำประตูที่สามเพื่อปิดเกม จากนั้นเราก็มาเสียประตูจากลูกเตะมุม มันกลายเป็นความกังวล และคุณเริ่มที่จะต้องป้องกันผลการแข่งขัน"

อาร์เซน่อล จัดการกับความกังวลเหล่านั้นได้สำเร็จที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่ถ้าพวกเขาคิดว่าสิ่งที่เจอนั้นตึงเครียดแล้ว เกมที่กำลังจะมาถึงในวันพฤหัสบดีนั้นน่าจะเครียดมากกว่าหลายเท่า

เมื่อพิจารณาว่าพวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลแบบไหน มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นตำแหน่งที่ทีมของ อาร์เตต้า เป็นอยู่ในตอนนี้

สถานการณ์มันเลวร้ายถึงขั้นมีการพูดถึงการหนีตกชั้นเลยทีเดียวเมื่อพวกเขาออกสตาร์ทซีซั่นด้วยความพ่ายแพ้ 3 นัดติด และรั้งอันดับบ๊วยของตารางคะแนนในช่วงเข้าสู่เบรกทีมชาติ โดยที่ทำประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว

นับแต่นั้นมา อาร์เซน่อล ก็ชนะได้ 21 จาก 31 เกมในลีก และตอนนี้โชคชะตาของพวกเขาก็เหลืออีกเพียง 90 นาทีเท่านั้น

ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ห่างจากมือของพวกเขาเพียงแค่เกมเดียว และความจริงที่ว่าพวกเขาสามารถทำงานให้เสร็จสิ้นในเกมที่ท็อตแน่ม มันจะเพิ่มความรู้สึก และอารมณ์ได้อย่างมากในสัปดาห์นี้

เกมดาร์บี้แมตช์ในคืนวันพฤหัสบดีจะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ อาร์เซน่อล ในปีนี้เลยก็ว่าได้

"เราต้องการเตรียมพร้อม และไปลุยเกมนั้นอย่างที่เราทำมาตลอด" อาร์เตต้า เอ่ย

"ด้วยความกระตือรือร้นที่เหมือนกัน เรารู้ว่านี่เป็นช่วงเวลาชี้ขาดอย่างชัดเจน"

"นั่นเป็นแรงจูงใจอีกระดับ และเป็นอีกขั้นสำหรับเราที่จะไปให้ถึงมันได้จริงๆ ผมแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ลุยเกมนั้น"

แน่นอนว่าไม่มีใครรู้มากไปกว่า อาร์เตต้า ถึงความหมายของฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกที่มีต่อ อาร์เซน่อล

ในฐานะผู้เล่น อาร์เตต้า ได้ลงเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่สุดให้ ปืนใหญ่ เป็นประจำ แต่ความรู้สึกในวันนั้นมันกลับเป็นความทรงจำที่ห่างไกลจากสโมสรลอนดอนเหนือช่วงหลายปีหลัง

ดังนั้นการที่ อาร์เซน่อล จะกลับมาอยู่บนโต๊ะอาหารชั้นพรีเมียมอีกครั้ง ในฐานะผู้จัดการทีมมันจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของกุนซือชาวสเปน หลังสโมสรต้องพบเจอกับความผิดหวังมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

อาร์เตต้า บอกกับแฟนๆ อยู่เสมอว่า "ต้องเชื่อมั่นในกระบวนการนี้" ตั้งแต่เขาเข้ามาแทนที่ อูไน เอเมรี่ และกระบวนการนั้นอาจจับต้องได้จริงๆ หากเขานำฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีกกลับมาสู่ทีมได้

มันจะทำให้ ปืนใหญ่ อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมากกับการรั้งดาวเด่นไว้ในทีมต่อไป อาทิเช่นการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ บูคาโย่ ซาก้า ที่เติบโตขึ้นมากในฤดูกาลนี้

มันจะง่ายกว่าเดิมมากสำหรับการโน้มน้าวสตาร์ทีมชาติอังกฤษว่าเขาสามารถเติมเต็มความทะเยอทะยานของ อาร์เซน่อล หากพวกเขาอยู่ในเส้นทางของแชมเปี้ยนส์ลีก

การเพิ่มขึ้นของรายได้ก็จะมหาศาลเช่นกัน และจะช่วยให้ เดอะ กันเนอร์ส มีภาษีมากขึ้นในตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้

"เราไม่ต้องอธิบายความสำคัญของเกมนี้เลย ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว" อาร์เตต้า พูดถึงเกมที่จะมาถึงในวันพฤหัสบดีนี้

"ตอนนี้เรามีโอกาสที่จะต่อสู้กับพวกเขา ทุกอารมณ์ และพลังงานของเราจะถูกนำไปในแนวทางนั้น"

"ไปกันเลย มันเป็นสิ่งที่ทำมาตลอดฤดูกาล"

อาร์เซน่อล มีสถิติที่น่าประทับใจในการสร้างประวัติศาสตร์ที่บ้านของคู้แค้นตลอดกาล โดยพวกเขาเคยคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิมได้ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน ในปี 1971 และพวกเขาก็ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ปี 2004 กับแชมป์ไร้พ่ายของ อาร์แซน เวนเกอร์

นี่อาจไม่ใช่เกมที่สำคัญถึงขนาดคว้าแชมป์อะไร แต่มันก็ยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้ อาร์เซน่อล ชุดเต็มไปด้วยดาวรุ่งทีมนี้สิ้นสุดการรอคอย 5 ปี ของฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก

การกลับไปลุยถ้วยใหญ่ที่สุดของฟุตบอลสโมสรยุโรปอาจอยู่ไกลหลายล้านปีแสงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มันอยู่ห่างไกลออกไปเพียงแค่ 90 นาทีเท่านั้น

วันแห่งโชคชะตาของ อาร์เซน่อล รออยู่ตรงหน้าแล้ว


พาสต้า


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด