เปลี่ยน 'ซน' เป็นยอดดาวยิง
แฮร์รี่ เคน อาจเป็นคนที่ถูกโฟกัส และให้ความสนใจจากทีมฝ่ายตรงข้ามที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกเขามากที่สุด ผลงาน 15 ประตู และ 8 แอสซิสต์ จาก 35 นัดในลีกสูงสุดซีซั่นนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลย
ไม่คงไม่มีใครที่สมควรจะได้รับคำชื่นชมไปมากกว่า ซน ฮึง-มิน ซึ่งมีส่วนร่วมถึง 30 ประตู (ยิง 21 แอสซิสต์ 9) ในฤดูกาลนี้ จนทำให้เขารั้งอันดับสองในชาร์ตดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเป็นรองเพียง ซาลาห์ แค่ลูกเดียวเท่านั้น
21 ประตู ที่เขาทำได้ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีทำให้เขาจะขึ้นนำเป็นดาวซัลโวแบบเดี่ยวๆ เลยหากไม่มีการนับลูกจุดโทษ และตอนนี้ก็น่าจะเหลือเพียงเขา และ ซาลาห์ เท่านั้นในการแย่งชิงตำแหน่งดาวซัลโว
ซน มักจะถูกมองแบบอันเดอร์เรตอยู่เสมอ หลายคนมองว่าจุดเด่นของเขามาจากการทัศนคติที่เต็มไปด้วยการทำงานอย่างหนัก ซึ่งจากเหตุผลบางอย่างมันไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากนอก ท็อตแน่ม ได้มากพอ
มันเป็นเรื่องแปลกที่ ซน ไม่เคยตกเป็นเป้าหมายของการย้ายทีมในระดับทำลายสถิติแบบเดียวกับของ เคน
แต่ในที่สุด เขาก็ได้รับความสนใจอย่างที่เขาสมควรได้รับจากจำนวนประตูที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
รวมทุกรายการแล้ว 22 ประตูของเขาในฤดูกาลนี้คือผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้ง แซงหน้าจำนวน 21 ลูกที่ทำได้ในปี 2020-21 ไปแล้ว
เหตุผลในการปรับปรุงฟอร์มของ ซน ส่วนใหญ่มาจากเรื่องของแท็คติก ภายใต้การเล่นแบบรับรอโต้ตั้งแต่ยุค โชเซ่ มูรินโญ่ มาจนถึง อันโตนิโอ คอนเต้ บทบาทของ ซน เปลี่ยนไปอย่างมากจากสมัยที่เขาเล่นในยุคที่ทีมเน้นการครองบอล โดยการเล่นวิธีใหม่ของ ไก่เดือยทอง นั้นดูจะเหมาะกับสกิลของดาวเตะเกาหลีใต้มากกว่า
ทุกอย่างเริ่มขึ้นจาก มูรินโญ่ นำมาซึ่งอัตราความสำเร็จในยุคสั้นๆ ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต และ คอนเต้ ในปัจจุบัน โดย สเปอร์ส ใช้เวลาตลอด 3 ปีที่ผ่านมาในฐานะทีมที่มีฐานตั้งมั่นอยู่ในแนวลึกกว่าเหล่าสโมสรยักษ์ส่วนใหญ่
โฟกัสของพวกเขาอยู่ที่การเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว แทนที่จะเล่นแบบไล่เพรสซิ่งสูง และเน้นการครองบอล
แม้ว่านี่จะเป็นคำอธิบายที่ค่อนข้าวกว้างถึงสิ่งที่แยก มูรินโญ่, นูโน่ และ คอนเต้ จากเหล่ากุนซือ 'บิ๊กซิกซ์' ส่วนใหญ่อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์, โธมัส ทูเคิ่ล หรือ มิเกล อาร์เตต้า แต่มันก็เป็นวิธีที่สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ ซน ออกมาให้เห็น
ในขณะอยู่ภายใต้การคุมทัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ การที่ ซน เล่นในเกมที่เน้นเก็บบอลในพื้นที่แดนสาม บวกกับการใช้จังหวะที่มากกว่าหมายความว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งส่วนใหญ่ที่แพ็คเกมรับลึกในกรอบเขตโทษตัวเอง แต่ตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของสามแนวรุกที่เล่นเกมโต้กลับด้วยสปีดอันรวดเร็ว
แน่นอนว่าสิ่งนี้เหมาะกับการเลี้ยงบอล และการกระชากบอลอันยอดเยี่ยมของ ซน รวมถึงความสามารถด้านเทคนิกที่สูงกว่าปกติในขณะที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วอีกด้วย
ในขณะที่ ทูเคิ่ล หรือ คล็อปป์ จะใช้คุณสมบัติเหล่านี้แบบพอๆ กัน พวกเขาจะเน้นการบีบพื้นที่สูงเพื่อเอาบอลกลับคืนมา ไม่ใช่การยืนตั้งมั่นในแนวลึกอย่างที่กุนซือ ไก่เดือยทอง ใช้ในหลายปีหลัง
สิ่งนี้ถูกบันทึกเป็นสถิติให้เห็นอย่างชัดเจน ตามตารางข้างล่างนี้แสดงให้เห็นว่า ซน จ่ายบอลได้ยาวขึ้น และทะยานขึ้นหน้าได้มากขึ้นในแต่ละซีซั่น อีกทั้งการผ่านบอลในขณะอยู่ภายใต้ความกดดันก็ลดลงอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
หมายเหตุ
Progressive distance of passes, per 90 : ผ่านบอลขึ้นหน้าต่อ 90 นาที
Long passes completed, per 90 : ผ่านบอลยาวสำเร็จต่อ 90 นาที
Passes made while under pressure, per 90 : ผ่านบอลขณะอยู่ภายใต้ความกดดันต่อ 90 นาที
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า ซน มีการทะยานไปข้างหน้ามากขึ้น แถมเขายังได้รับบอลในพื้นที่ที่กว้างขึ้นด้วย
ส่วนที่สองก็ถือว่ามีความสำคัญ ด้วยพื้นที่ในการทำงานที่มากขึ้น และลดการเกมรับขณะที่ทีมเปิดเกมโต้กลับ ซึ่งนั่นทำให้ ซน มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเปลี่ยนจังหวะการเล่นแบบนี้ทำให้ ซน ได้รับประโยชน์ก็มาจากการปรับการเล่นของ เคน ซึ่งมันเริ่มมาจากยุคของ มูรินโญ่ และต่อยอดมาถึง คอนเต้
มูรินโญ่ ไม่ได้เป็นหนึ่งในโค้ชที่ลงรายละเอียดให้ผู้เล่นเกมรุกแบบละเอียดมากนัก ทำให้ เคน มีอิสระที่จะทำทุกอย่างที่เขาต้องการ ซึ่งกลายเป็นนักเตะตำแหน่งเบอร์ 10 ของ สเปอร์ส ที่ไม่เหมือนใคร
ในทีแรกการที่ เคน ลงต่ำไปเล่นกับบอลถือว่าเวิร์คสำหรับ มูรินโญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันกลับทำให้เขาขาดทางเลือกในพื้นที่แดนสาม
คอนเต้ เองก็ต้องการที่จะเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมเพื่อให้ เคน สามารถโฟกัสกับการเล่นแบบตัวจบสกอร์เพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้เขายอมรับในสิ่งที่ มูรินโญ่ (จากนั้นก็ นูโน่) ค้นพบ แต่ก็มีความจำเพาะทางแท็คติกชัดเจนกว่าแต่ก่อนมาก
สิ่งที่เราได้เห็นในตอนนี้ก็คือ ซน ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนที่ของ เคน ซึ่งทำให้เขาวิ่งไปถึงแนวสุดท้ายของแนวรับคู่ต่อสู้ เหมือนเป็นการสลับหน้าที่กัน โดยปล่อยให้ ซน กลายเป็นผู้เล่นตำแหน่งเบอร์ 9 แทน
หมายเหตุ
Shot accuracy : ยิงตรงกรอบ
Goals per shot on target : ได้ประตูต่อการยิงตรงกรอบ
Distance per shot (metres) : ระยะการยิง (เมตร)
Total goals : ทำประตูรวม
Expected goals (xG) : ความคาดหวังถึงประตู
เขาทำได้ 4 ประตู จาก 13 นัดในลีกภายใต้การคุมทีมของ นูโน่ ในฤดูกาลนี้ (0.3 ลูกต่อเกม) และก็ทำไป 18 ลูก จาก 30 นัด ในยุคของ คอนเต้ (0.6 ลูกต่อเกม)
ซน ตอบรับความเปลี่ยนแปลงนี้ และกลายเป็นกองหน้าที่อันตรายมาก ความแม่นยำในการยิงของ ซน เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาไปอยู่ใกล้กับปากประตูมากขึ้น ในขณะที่เขาทำประตูได้ตามความคาดหวังอย่างน่าทึ่งมากขึ้นในทุกๆ ปี"
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซน สามารถเล่นให้สโมสรใดในโลกก็ได้ และแน่นอนว่าหากเขาได้รับโอกาสจากทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ตัวเลขการทำประตูของเขาก็คงจะสูงขึ้นด้วยคุณภาพรอบตัวของเขา
แต่ในเสื้อ สเปอร์ส ซน ดูสบายอย่างที่สุดกับแท็คติกที่อาศัยเกมโต้กลับที่ทำให้เขามีพื้นที่ในการไปกับบอล พุ่งทะยานเข้าสู่แดนสาม และเล่นเหมือนกับนักเตะเบอร์ 9 จากระบบที่ออกแบบโดนหนึ่งในกุนซือที่เก่าที่สุดในโลก
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT