'อันโต นูซ่า' ไอ้หนูเนย์มาร์แห่งนอร์เวย์
นั่นคือเกมระดับอาชีพเพียงนัดที่ 3 ของ อันโตนิโอ นูซ่า เท่านั้น
วงการฟุตบอลนอร์เวย์กำลังไปได้สวย เขามีเด็กหนุ่มดาวซัลโวที่พร้อมจะสร้างชื่อไปได้ตลอด 15 ปีข้างหน้าอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ แถมยังมีเพลย์เมกเกอร์ตัวกลั่นอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ด้วย
แต่อะไรที่ยังขาดไปสำหรับแนวรุกที่อนาคตสดใสของนอร์เวย์ มันอาจเป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนเกมจากทักษะ หรือการเลี้ยงบอลเลาะด้านกว้างของสนามเพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้ทีม
นูซ่า อาจจะต้องรอเวลาอีกหนึ่งหรือสองปีกว่าที่ได้ร่วมทีมเดียวกับทั้ง ฮาแลนด์ และ โอเดการ์ด แต่เมื่อดาวเตะวัย 17 ปี เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของเขาแล้ว เขาก็คงไม่หวั่นไหวกับความมุ่งมั่นเหล่านั้น
ดาวเตะที่เป็นคนทำประตูอายุน้อยที่สุดอันดับสองในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดนอร์เวย์ (รองจาก โอเดการ์ด) และผู้ทำประตูอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ คลับ บรูช อย่าง นูซ่า สามารถก้าวไปยังเกมระดับสูงได้หากเขายังต่อยอดศักยภาพของตัวเองแบบไม่มีวันหยุด
"ผมชอบสร้างความวุ่นวาย" นูซ่า กล่าวผ่าน อัฟทอนพอสเท่น ในเดือนเมษายน ปี 2021
"เนย์มาร์ เป็นต้นแบบของผม เพราะเขาสร้างความโกลาหลในสนามจากการเลี้ยงบอลของเขาเหมือนกับผม เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก"
มัทส์ โซลไฮม์ เพื่อนร่วมทีม สตาบีค ของเขากล่าวว่า "ผมเห็นความคล้ายกันระหว่าง เนย์มาร์ กับ นูซ่า ในการเคลื่อนที่ และวิธีที่เขาใช้กับบอล"
"ยังมีช่องว่างระหว่างพวกเขา แต่เขาสามารถไปถึงจุดนั้นได้"
นั่นอาจเป็นความกดดันครั้งใหญ่ เมื่อพูดถึงนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เพียง 17 เกม แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ นูซ่า ได้กลายเป็นฮีโร่ให้กับบ้านเกิดของเขา
หลังย้ายจาก ลันกุส ไอแอล ทีมลีกล่างมายัง สตาบีค ตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี นูซ่า ได้ทะลุขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ไม่ถึงเดือนหลังจากที่เขาฉลองวันเกิดอายุครบ 16 ปี
หลังพังประตูสุดสวยใส่ โบโด กลิมต์ เขาก็ยิงได้ 2 ลูกในเกมพบ ไวกิ้ง ซึ่งนั่นคือเกมแรกที่เขาลงเล่นตัวจริงให้ทีมชุดใหญ่ในสัปดาห์ถัดมา โดยทั่วไปแล้วเขาชอบที่จะเล่นทางกราบซ้ายเพื่อเลี้ยงบอลตัดเข้ามาเล่นด้วยเท้าขวา แต่ทั้ง 2 ประตูที่ยิงใส่ ไวกิ้ง นั้นเกิดขึ้นจากเท้าซ้ายที่ไม่ได้ถนัด
กุนนาร์ ฮัลเล่ อดีตกองหลัง ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันเป็นโค้ชทีมชาตินอร์เวย์ ชุดยู-16 กล่าวถึง นูซ่า หลังเรียกตัวเขามาติดทีมเป็นครั้งแรกว่า "อันโตนิโอ มีทักษะที่ยอดเยี่ยมกับลูกบอลที่ทำให้เขาน่าตื่นเต้นมาก"
"เขาสามารถท้าทาย และเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันก็คือเขามีคุณภาพในการจบสกอร์ที่ดีด้วย"
แม้จะมีการเปลี่ยนทีมงานคุมทัพที่ สตาบีค นูซ่า ก็ยังคงทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม และสร้างความประทับใจให้กับโค้ชใหม่อย่าง อีริค โคโน่ ซึ่งชื่นชอบที่จะสร้างแนวรุกด้วยผู้เล่นอายุน้อย
"อันโตนิโอ กำลังจะพัฒนาไปเป็นผู้เล่นชั้นยอด" โคโน่ กล่าว
"มันเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นคนที่เลี้ยงบอลแจ่มแจ๋วขนาดนี้ในนอร์เวย์"
"ความเร็ว บาเลนซ์ และเทคนิกของเขา มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นที่ได้ติดตามเส้นทางค้าแข้งของเขา"
น่าเสียดายสำหรับกองเชียร์ สตาบีค ตอนนี้พวกเขาต้องติดตาม นูซ่า จากทางไกลแทนแล้วหลังสโมสรตัดสินใจขายเขาให้กับ คลับ บรูช ในเดือนสิงหาคม ปี 2021 ด้วยค่าตัว 3 ล้านยูโร
แม้จะใช้เวลาส่วนใหญ่ของฤดูกาลไปกับการเล่นในทีมเยาวชนของ คลับ บรูช แต่การลงสนามให้ทีมชุดใหญ่นัดที่ 2 ของเขา นูซ่า ก็ทำประตูได้น่าจดจำได้ทันที
https://twitter.com/ElevenSportsBEn/status/1523611235715006464
มันอาจเป็นการยิงประตูที่ง่ายที่สุดลูกนึงเลยก็ว่าได้ แต่การสวนกลับสายฟ้าแล่บของ นูซ่า ในเวลาไม่กี่วินาทีในเกมกับ แซงต์ ชิลลัวส์ ก็ทำให้ทีมของเขาคว้าชัยได้ และสุดท้าย คลับ บรูช ก็คว้าแชมป์ลีกได้ในที่สุด
กับวัยเพียง 17 ปี 21 วัน เขาทำลายสถิติของ เดิร์ค ฮินเดอริคซ์ ในปี 1974 ในฐานะนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในประวัติศาสตร์สโมสร ก่อนที่เขาจะได้โอกาสลงเล่นตัวจริงในเกมนัดปิดซีซั่นนัดพบ อันเดอร์เลชท์
โอกาสของ นูซ่า จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในฤดูกาล 2022-23 โดยบางคนเชื่อว่าเขาตัดสินใจถูกต้องแล้วกับการย้ายทีมครั้งนี้ แทนที่จะอาศัยทางลัดกระโดดก้าวไปยังบิ๊กทีมอย่าง โอเดการ์ด ที่ไป เรอัล มาดริด ในปี 2015
"ผมได้ยินมาว่ามีคนพูดถึงผมและเขา และมันก็สนุกดี แต่ผมจะไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น" นูซ่า ที่ยังสามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติไนจีเรียได้ด้วยกล่าวถึง โอเดการ์ด
"ผมไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นทำตอนอายุ 16 ปี ผมแค่ต้องเดินหน้าต่อไป แล้วเรามาดูกันว่ามันจะไกลได้แค่ไหน"
เส้นทางของ นูซ่า กำลังพาเขาไปในทิศทางที่สามารถเห็นเขาไปถึงระดับท็อปได้
แน่นอนว่าทั้ง นอร์เวย์ และ ฮาแลนด์ ก็คงหวังไว้แบบนั้น
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT