แบ็กฟอร์มล่ม...หงส์ฟอร์มหาย
เราอาจจะเริ่มต้นด้วยสิ่งที่เห็นได้ชัด การเล่นอย่างที่เป็นมา และ ลิเวอร์พูล ก็สามารถลืมการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปได้เลย
6 เกมในฤดูกาลใหม่ ทีมของ คล็อปป์ ต้องพบกับความยากลำบากในการยืนยันถึงความเป็นยอดทีมของพวกเขาอีกครั้ง หลังเก็บไปได้เพียง 9 แต้ม จากที่มี 18 คะแนน คำถามในตอนนี้ก็คือการออกสตาร์ทที่ช้ามากของพวกเขานั้นเป็นเพียงความผิดพลาดชั่วคราว หรือเป็นอะไรที่น่าตกใจกว่า
ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณด้วยว่า หงส์แดง เป็นทีมที่กำลังพัฒนาซึ่งเต็มไปด้วยพรสวรรค์ และศักยภาพ หรือเป็นทีมที่เหนื่อยล้า และสูญเสียความสดชื่นไปแล้ว
พวกเขากำลังพัฒนา หรือกำลังดร็อปลง? นั่นคือสิ่งที่คุณต้องตัดสินใจเอง
เกมกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามันมีสัญญาณที่บอกอยู่ แม้ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้จะไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดเสมอไปสำหรับการตัดสินอะไร แต่ที่กูดิสัน พาร์ค คุณอาจไม่เข้าใจว่าทำไม คล็อปป์ จึงมีความมั่นใจว่าช่วงเวลาที่ดีอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่แฟนบอลจำนวนมากกลับกังวลเกี่ยวกับทิศทางของทีมที่กำลังมุ่งหน้าไป
ความมีชีวิตชีวา และความตั้งใจ มาพร้อมกับอาการเซื่องซึม และง่ายต่อการถูกสวนกลับ เกมดังกล่าวกลั่นกรองฤดูกาลของ ลิเวอร์พูล ได้ในหลายๆ ทาง บริบทสำคัญอาจเพราะอาการบาดเจ็บที่ขัดขวางแผน และการเลือกทีมของพวกเขา แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คล็อปป์ และผู้เล่นของเขายังคงค้นหาอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะ, ฟอร์ม, ความฟิต, ความมั่นใจ, ความเชื่อ หรือการผสมผสานทีมให้ลงตัว
การดิ้นรนของพวกเขาอาจสรุปได้ดีที่สุดด้วยปัญหาที่มาจากสองสุดยอดฟูลแบ็กอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ผู้ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในสไตล์การเล่นของ หงส์แดง มาอย่างยาวนาน แต่ไม่มีใครเลยที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เคยเป็นมาในแง่ของการเล่นเกมรุกในฤดูกาลนี้
อันที่จริงแล้ว โรเบิร์ตสัน ถูกดร็อปจาก 11 ตัวจริงในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน โดยที่ คอสตาส ซิมิกาส ได้ลงตัวจริง ขณะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 58 และก่อนหน้านั้นก็โดนเปลี่ยนออกหลังผ่านไป 71 นาทีในเกมชนะ นิวคาสเซิ่ล ช่วงกลางสัปดาห์ ทั้งสองเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับพายุที่โหมกระหน่ำในขณะที่พวกเขาเดินผ่านมิกซ์โซนที่กูดิสัน พาร์ค
เหตุผลของ คล็อปป์ ก็คือกับตอนนี้ที่ส่วนที่เหลือของทีม โดยเฉพาะตำแหน่งกองกลางรู้สึกถึงผลกระทบจากอาการบาดเจ็บ มันมีความจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าตัวเลือกหลักอื่นๆ ที่พร้อมอย่าง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โรเบิร์ตสัน จะไม่ต้องรับภาระหนักเกินไปในช่วงต้นซีซั่น
"มันไม่เกี่ยวอะไรกับฟอร์ม แม้ผมจะรู้ว่า เทรนท์ เล่นได้ดีกว่านั้นในวันนี้ แค่เราต้องผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้" คล็อปป์ กล่าวเมื่อถูกขอให้อธิบายถึงการเปลี่ยนตัว เทรนท์ ออกในเกมกับ ทอฟฟี่
"เทรนท์ เล่นมาตลอดเลย ร็อบโบ้ เองก็เล่นมาตลอด เรามีทางเลือกอื่นตรงนั้น นั่นคือเหตุผลที่เราต้องใช้มัน เพื่อนำพลังงานสดใหม่มาในสนาม"
คล็อปป์ อาจปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้มีคำถามว่ามีอะไรที่แตกต่างไปจาก ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ มองข้ามเกมถล่ม บอร์นมัธ ไป พวกเขาเหมือนขาดความสามัคคี, การจัดระเบียบในทีม และความสมดุล ซึ่งเป็นจุดเด่นของพวกเขามานานหลายปี
มันอาจเป็นที่เข้าใจได้กับ หลุยส์ ดิอาซ, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ดาร์วิน นูนเญซ ยังไม่ได้ผสมเข้ากับทีมอย่างสมบูรณ์ และกับการที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ นำไดนามิกใหม่ๆ และน่าตื่นเต้นมาสู่แดนกลาง หากตอนนี้มันยังดูไม่ปะติดปะต่อ นั่นอาจเป็นเพราะนักเตะยังคงเล่นในเกมของแต่ละคนอยู่
แน่นอนว่ากรณีของ โรเบิร์ตสัน กับ ดิอาซ นั้นจะเข้ากันได้ดีในบางโอกาส แต่มันไม่เหมือนกับความเข้าใจที่ โรเบิร์ตสัน มีกับ ซาดิโอ มาเน่
กับ มาเน่ แล้ว การเคลื่อนที่กลายเป็นเรื่องปกติ ทั้งคู่รู้ดีว่าอีกฝ่ายจะไปอยู่ตรงไหนในแต่ละช่วงเวลา และจะปรับตำแหน่งตามนั้น มันเป็นการวางแผน เป็นโครงสร้างแบบอัตโนมัติ และมักเป็นประสิทธิภาพที่ทำลายล้าง
ดิอาซ เป็นตัวเล่นด้านกว้างที่แตกต่างออกไป เขาชอบที่จะลงต่ำมาล้วงบอลเพื่อครองบอล และโจมตีใส่แนวรับ นักเตะชาวโคลอมเบียเป็นผู้เล่นที่ดี และพิสูจน์แล้วว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีของ ลิเวอร์พูล แต่ก็ยังมีช่องว่างสำหรับการปรับปรุงในแง่ของการเชื่อมโยงกับเพื่อนร่วมทีม
อีกหนึ่งการเซ็นสัญญาจากอเมริกาใต้ที่อาจเป็นกุญแจสู่ฟอร์มของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ การมาถึงของ นูนเญซ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ หงส์แดง นับตั้งแต่การมาถึงของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ่ และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ในปี 2018 เมื่อ คล็อปป์ ตัดสินใจว่ากระดูกสันหลังในทีมของเขาจะต้องเป็นผู้เล่นชั้นยอดที่โดดเด่นด้านร่างกาย
ในวัย 23 ปี นูนเญซ ยังอยู่ไกลจากความสำเร็จเดิมๆ เขาเล่นได้อย่างสดใส แต่ก็ยังดิบๆ อยู่ที่กูดิสัน พาร์ค ซึ่งก็เป็นหลักฐานของเรื่องนี้ แต่ความแข็งแกร่ง, การเล่นลูกกลางอากาศ และความสามารถในการสร้างโอกาสยิงในกรอบเขตโทษได้เปลี่ยนวิธีการเล่นของ ลิเวอร์พูล และ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ควรใช้เวลา และการทำงานในสนามซ้อมเพื่อผลิตโอกาสให้กับหัวหอกอุรุกวัย เราเองก็ได้เห็นวิวัฒนาการของดาวเตะทีมชาติอังกฤษมาแล้ว โดยเขาขยับจากการยืนแบ็กขวาในสนาม และสร้างสรรค์โอกาสจากพื้นที่ตรงกลาง เหมือนๆ กับ ชูเอา กานเซโล่, ฟิลิปป์ ลาห์ม หรือ โยชัว คิมมิช
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ต้องปรับตัวกับบุคลากรหน้าใหม่ในฤดูกาลนี้เช่นกัน โดย ลิเวอร์พูล ใช้มิดฟิลด์ตัวกลางด้านขวามาแล้วถึง 3 คนด้วยกัน และตอนนี้ก็เป็น เอลเลียตต์ ที่ยึดตำแหน่งไว้ได้
เมื่อนานมาแล้ว ผู้เล่นอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ (หรือ จีนี่ ไวนัลดุม) จะเป็นตัวที่เล่นตรงช่องว่างนั้น ขณะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โม ซาลาห์ เป็นตัวทำลายล้าง แต่ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะการออกแบบ หรือด้วยสถานการณ์ ก็เริ่มที่จะมุ่งไปสู่การมีมิดฟิลด์ที่เต็มไปด้วยเทคนิกมากขึ้น โดยที่ เอลเลียตต์, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เคอร์ติส โจนส์ และ คาร์วัลโญ่ ต่างก็ถนัดในเรื่องการครองบอลมากกว่า มันอาจกล่าวได้แบบเดียวกันกับ อาร์ตูร์ เมโล่ ที่เพิ่งย้ายมาจาก ยูเวนตุส ในวันเส้นตาย ซึ่งจะมาทดแทนการขาดหายไปของทั้ง นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
แน่นอนว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของ หงส์แดง และควรได้รับความไว้วางใจให้ทำงานผ่านอุปสรรค์ช่วงต้นซีซั่น และค้นหาฟอร์มระดับเทพอีกครั้ง โรเบิร์ตสัน ก็ควรได้รับการสนับสนุนเช่นกัน เพราะด้วยคุณสมบัติ และบุคลิกทั้งหมดของ คอสตาส ซิมิกาส เขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเกมรับ หรือการโจมตีแดนสาม
กลางสัปดาห์นี้ หงส์แดง จะเริ่มต้นแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการไปเยือน นาโปลี และมันน่าสนใจว่าความหอมละมุนในการเล่นฟุตบอลยุโรปจะช่วยให้ผู้เล่นบางคนตื่นจากการหลับใหลได้หรือไม่
ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงแชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 3 จาก 5 ครั้งหลังสุด และหากพวกเขาต้องการเพิ่มความสำเร็จไปอีก พวกเขาก็ต้องงัดฟอร์มที่เปล่งประกายออกมาให้ได้โดยเร็ว
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสองฟูลแบ็กที่มหัศจรรย์ของพวกเขา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT