:::     :::

เวทย์มนต์ของ พ็อตเตอร์

วันศุกร์ที่ 09 กันยายน 2565 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
985
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่ว่าจะเวทีไหน เกรแฮม พ็อตเตอร์ ก็มักจะโผล่ขึ้นมาอย่างโดดเด่นอยู่เสมอ

สำหรับการเข้ารับตำแหน่งกุนซือ เชลซี มันถือเป็นประสบการณ์ที่จะต้องทำงานภายใต้ความกดดันมหาศาลเป็นครั้งแรกกับหนึ่งในสโมสรระดับท็อปของยุโรป และเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้สัมผัสฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย

แต่การออกนอก 'พื้นที่ปลอดภัย' สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ พ็อตเตอร์ เลย

ย้อนกลับไปในขณะที่ยังนั่งแท่นนายใหญ่ ออสเตอร์ซุนด์ส ในลีกสวีเดน กุนซือชาวอังกฤษ และลูกทีมของเขาได้ผุดโปรเจ็คท์การผสมผสานวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในแต่ละซีซั่น ซึ่งจะถูกแสดงกันตอนหมดปี พวกเขาจะเล่นคอนเสิร์ตร็อค, คอนเสิร์ตแร็พ และที่น่าจดจำที่สุดก็คือการเต้นบัลเล่ต์ สวอน เลค ในเวอร์ชั่นของตัวเอง

"เขาเต้นบัลเล่ต์คนเดียวต่อหน้าหลายพันคน" เจมี่ ฮ็อพคัตต์ ซึ่งถูก พ็อตเตอร์ เซ็นสัญญาจาก แทดคาสเตอร์ สโมสรนอกลีกมายัง ออสเตอร์ซุนด์ส กล่าว

"ในฐานะผู้จัดการทีม เขาจะสามารถนั่งดูแล้วหัวเราะไปกับมันเฉยๆ เลยก็ได้ แต่เขาลงมาร่วมกิจกรรมแบบจริงจัง และแสดงให้นักเตะเห็นว่า 'ฉันพร้อมล่มหัวจมท้ายไปกับพวกนายนะ"

"เราทำการแสดงด้วยกัน 7 ครั้ง ครั้งแรกเลยคือบทละครที่เราทำฉากในห้องแต่งตัว และผู้เล่นก็ทำให้ผู้จัดการทีมเป็นตัวตลก เขาแสดงเดี่ยวอีกครั้งโดยร้องเพลงสวีเดนซึ่งเป็นที่ป็อปปูลาร์ในออสเตอร์ซุนด์ และก็ร้องเพลงแร็พโดยสวมหมวกขนสัตว์ที่คลุมปิดหู

"เกรแฮม อยู่ไกลจากคอมฟอร์ตโซนของเขามาก แต่เขาไม่กลัวที่จะหัวเราะตัวเองถ้ามันจะช่วยทีมได้ ผู้เล่นเองก็เคารพผู้จัดการทีมมากขึ้นเมื่อเขาเต็มใจที่จะอยู่กับคุณ"

คัลเจอร์ อะคาเดมี่ ของ ออสเตอร์ซุนด์ส เป็นไอเดียของ ดาเนียล คินด์เบิร์ก ประธานสโมสรในเวลานั้นเพื่อปรับปรุงความสามัคคีของทีม ทำให้ผู้เล่นในทีมได้โชว์ความสามารถ และกล้าทำเรื่องอื่นๆ

"การแสดง สวอน เลค ของ เกรแฮม คือท็อปคลาส" คินด์เบิร์ก กล่าว

"การแร็พของเขาทำให้ผมร้องไห้ด้วยความภาคภูมิใจ ผมเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ต และเราก็โคตรจะกลัวกันเลย แต่เขาออกไปก่อน เอาชนะความกังวลของเขาได้ และจริงๆ แล้วมันก็ค่อนข้างดีเลย"

"เขาเชื่อว่าเขาควรต้องไปเป็นคนแรกอยู่เสมอ เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรจากใครเพื่อที่เขาจะไม่ทำมันเอง นั่นแสดงให้เห็นถึงตัวตนของคุณ"

"เขาไม่เคยทำอะไรน้อยกว่า 100% เลย เขาจะทำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ"

มันเป็น คินด์เบิร์ก นี่แหละที่ตัดสายสะดือให้ พ็อตเตอร์ ก้าวขึ้นมาทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทีมครั้งแรกในปี 2010 ก่อนหน้านั้นเขาเดินสายงานในระดับรากหญ้ามาตลอด โดย พ็อตเตอร์ เป็นโค้ชที่มหาวิทยาลัยของ ลีดส์ แต่เขาก็ได้รับการเสนองานที่ ออสเตอร์ซุนด์ส ตามคำแนะนำของ แกรม โจนส์ โค้ช นิวคาสเซิ่ล ที่เคยเล่นกับเขาที่ บอสตัน

ใครจะรู้ว่ามันกลายเป็นการแต่งตั้งที่สุดยอด พ็อตเตอร์ นำ ออสเตอร์ซุนด์ส จากสโมสรในลีกระดับ 4 ของประเทศ ไปเล่นในลีกสูงสุด พาทีมก้าวไปคว้าแชมป์สวีดิช คัพ และทะลุถึงรอบ 32 ทีมสุดท้ายยูโรปา ลีก เมื่อแพ้ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์รวม แต่ก็กล้าบุกไปคว้าชัยได้ถึงถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

"การทำสิ่งแบบนั้นกับสโมสรเล็กๆ บนภูเขาในประเทศเล็กๆ อันดับ 26 ในยุโรป ถือเป็นอะไรที่ระดับโลกอย่างแท้จริง" คินด์เบิร์ก เผย

"เขาเป็นอัจฉริยะด้านแท็คติก และความเป็นผู้นำ เขาเป็นสุภาพบุรุษในฐานะบุคคล เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก"

"เขาช่วยให้ผู้เล่นเติมเต็มศักยภาพของพวกเขาในฐานะมนุษย์ และในฐานะผู้เล่นเพื่อคว้าชัยในเกมการแข่งขัน เขาได้ช่วยผู้เล่นหลายคนที่มาจากไม่มีอะไรเลยให้กลายเป็นผู้เล่นระดับท็อป"

คินด์เบิร์ก ได้กล่าวถึงชื่อนักเตะอย่าง โมดู บาร์โรว์, เคน เซม่า และ ซามัน ก็อดดอส ซึ่งถูกเซ็นสัญญามายัง ออสเตอร์ซุนด์ส และจากนั้นก็ไปเล่นกับ สวอนซี, วัตฟอร์ด และ เบรนท์ฟอร์ด ตามลำดับในพรีเมียร์ลีก

ฮ็อพคัตต์ เองก็กลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับความเปลี่ยนแปลงในเส้นทางค้าแข้งอย่างน่าเหลือเชื่อภายใต้การทำงานของ พ็อตเตอร์ ตั้งแต่ที่ถูก ยอร์ค ซิตี้ ปล่อยตัวเมื่ออายุ 19 ปี ไปจนถึงการได้ลงเล่นในยูโรปา ลีก นัดพบ อาร์เซน่อล

"เขาเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับผม และสิ่งที่เขาทำในเส้นทางค้าแข้งของผม" กองกลางวัย 30 ปี ที่ตอนนี้เล่นกับ มารีฮามน์ ในฟินแลนด์ กล่าว

"ผมได้ทำงานกับผู้จัดการทีมราว 8 คนนับตั้งแต่ เกรแฮม และคุณก็รู้ว่าเขาเก่งกว่าคนอื่นมากแค่ไหน สิ่งแรกเลยคือสไตล์การเล่นของเขา จากนั้นก็วิธีที่เขาทำงานร่วมกับบุคคลทั้งใน และนอกสนาม เขาใส่ใจในความเป็นมนุษย์มาก ไม่ใช่แค่นักฟุตบอล

ฮ็อพคัตต์ ยกตัวอย่างว่า "หลังจากที่เราเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด เขาส่งอีเมลถึงครอบครัว หรือคนรักของผู้เล่นทุกคน และขอให้พวกเขาส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือว่าพวกเขาภูมิใจในความสำเร็จของเราแค่ไหน"

"จากนั้นเขาก็เขียนจดหมายของตัวเองเกี่ยวกับผู้เล่นแต่ละคน เขาพิมพ์จดหมายทั้งสองฉบับออกมา ใส่ลงในซองส่วนตัว และมอบให้กับผู้เล่นเมื่อจบฤดูกาล มันโดนใจมาก"

สำหรับ ฮ็อพคัตต์ แล้ว มันไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์เลยที่ พ็อตเตอร์ จะทำสำเร็จ โดยเริ่มแรกกับ สวอนซี ในแชมเปี้ยนชิพ และจากนั้นก็ ไบรท์ตัน ในลีกสูงสุด ก่อนจะทำให้เขาได้งานใหญ่กับ เชลซี

"มันยากที่จะนึกถึงการเกิดขึ้นที่โดดเด่นในโลกฟุตบอล" ฮ็อพคัตต์ กล่าวเพิ่ม

"จาก ออสเตอร์ซุนด์ส สู่พรีเมียร์ลีก ก้าวที่ยิ่งใหญ่ แต่คุณสามารถเห็นได้เลยว่าเขามีคุณสมบัติที่จะเดินหน้าต่อไป และได้คุมทีมใหญ่"

คินด์เบิร์ก เองก็ไม่เคยสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของผู้จัดการทีมชาวอังกฤษรายนี้ และตอนนี้เขาก็เชื่อว่า พ็อตเตอร์ จะร่ายเวทย์มนต์ของเขาในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

"สำหรับผม มันเป็นเรื่องของเวลาจนกว่าหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปจะพยายามคว้าตัวเขา" คินด์เบิร์ก กล่าวเสริม

"ผมเคยพูดไว้ในปี 2014 ว่าเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในสแกนดิเนเวีย เมื่อเรายังอยู่ในลีกระดับสอง และผู้คนก็หัวเราะ"

"ในปี 2017 ผมคาดการณ์ว่าเขาจะได้คุมทีมระดับท็อปของยุโรป และตอนนี้ผมสามารถพูดได้เลยว่า เกรแฮม เป็นหนึ่งใน 5 โค้ชที่ดีที่สุดในโลก"

"อย่างน้อยเจ้าของทีม เชลซี ก็ฉลาดพอๆ กับผม เพราะถ้าเขาสามารถจ้าง เกรแฮม พ็อตเตอร์ ได้ เขาก็เป็นคนที่ฉลาดมาก"

"กับ เกรแฮม สโมสรจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำมาก่อนทั้งในและนอกสนาม"

"เขาจะเริ่มต้นยุคใหม่ในโลกฟุตบอล"


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})