หมดยุคทองหงส์?
คุณรู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่แปลกมาก เมื่อได้เห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ คล้อยไปในทางเดียวกับคำวิจารณ์ของนักข่าว กุนซือ ลิเวอร์พูล มักหัวเสียอยู่ตลอดเมื่อคนอื่นพยายามจะชี้นิ้ว หรือสรุปอะไรในทีมของเขา แต่เขาทำได้เพียงพยักหน้าเมื่อมีคนพูดถึงความวุ่ยวายระหว่างเกมที่เสมอ ไบรท์ตัน 3-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
"คุณพูดถูก และถ้าจะให้บอกตามตรงแบบไม่โกหก นี่ไม่ใช่ครั้งแรก" คล็อปป์ กล่าว
คล็อปป์ กำลังจะครบรอบ 7 ปี ในฐานะผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ช่วงสัปดาห์หน้า แต่การที่เขาจะรู้สึกอยากฉลองกับมันมากแค่ไหนก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แม้ช่วงเวลาส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม แต่นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการทดสอบที่แอนฟิลด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย หรืออะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น คล็อปป์ ก็คงมีเรื่องให้คิดมากมาย และมีหลายอย่างจะต้องจัดการ
หลายครั้งที่พบ ไบรท์ตัน เขาบอกว่าเขาเหมือนถูกนำกลับไปอยู่ในช่วงวันแรกที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ เมื่อความมั่นใจตกต่ำ ผลการแข่งขันก็สะเปะสะปะ และเขาก็จำได้ดีว่าไม่มีใครที่ชอบทีมเลย แม้กระทั่งทีมตัวเอง
ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาชี้ให้เห็นว่าการนำหนึ่งประตูก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดอาการหัวใจวายรอบแอนฟิลด์ คล็อปป์ เล่าว่า 'เราแค่ไม่มีความเชื่อมั่น' และมันก็คงทำให้เขาต้องเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อเทียบกับทีมในปัจจุบันซึ่งผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีในระดับที่สูง พร้อมกับเหรียญแชมป์ที่แสดงถึงความพยายามของพวกเขา กับทีมที่ยุ่งเหยิงในปี 2015
9 เกมในฤดูกาลใหม่นี้ ชัยชนะเกิดขึ้นเพียง 3 ครั้งเท่านั้น และ 2 เกมก็มาจากการทำประตูชัยช่วงท้ายด้วย พวกเขารั้งอันดับ 9 ในพรีเมียร์ลีก โดยมีคะแนนตามหลังทีมจ่าฝูงถึง 11 แต้ม และอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงกับ เอฟเวอร์ตัน, เบรนท์ฟอร์ด และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มากกว่า แมนฯ ซิตี้ เสียอีก โอเคมันอาจเร็วไปหน่อย และความคิดเห็นที่คล้ายกันนี้ก็ทำให้กลายเป็นเรื่องงี่เง่าในฤดูกาลที่แล้ว แต่ความคิดเรื่องการลุ้นแชมป์ลีกในเวลานี้ดูจะเป็นเรื่องเพ้อฝันอย่างไม่ต้องสงสัย
พูดตามตรง ดีที่สุดของพวกเขาคือการจบในท็อปโฟร์หากยังเล่นได้แค่นี้ ในขณะที่บรรดาคู่แข่งของพวกเขาใส่เกียร์เดินหน้า ลิเวอร์พูล กลับพบว่าตัวเองติดหล่มอย่างน่าหงุดหงิด พวกเขารู้ดีว่าต้องทำอะไร และผู้จัดการทีมคาดหวังอะไรจากพวกเขา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ล้อของพวกเขาก็ไม่ได้หมุนเหมือนเดิมแล้ว
ปัญหาของพวกเขามีมากมายนับไม่ถ้วน ผู้เล่นแกนหลักกำลังดิ้นรนกับฟอร์มของตัวเอง พลังงานขาดหายไป รากฐานอ่อนแอลง และความสงสัยที่้เพิ่มขึ้นก็คือหากนี่ไม่ใช่ทีมที่กำลังเปลี่ยนเลือดใหม่ก็แสดงว่าพวกเขากำลังตกต่ำลง
แน่นอนมันเหมือนกับความรู้สึกว่ามีอาการเมาค้างมาจากซีซั่นที่แล้วเมื่อทีมของ คล็อปป์ มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้า 4 แชมป์ ค่าเสียหายในภารกิจนั้นดูดกลืนไปทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจซึ่งสามารถเห็นได้จากผลงานของ หงส์แดง ในช่วงสัปดาห์แรกของฤดูกาล พวกเขาต่อสู้อย่างหนักหน่วงมายาวนาน แต่ดูเหมือนว่ามันอาจพรากทุกอย่างไปจากพวกเขา
คุณสามารถอธิบายความจริงที่ว่าผู้เล่นสำคัญของ ลิเวอร์พูล เกือบทุกคนนัดกันฟอร์มตกได้ยังไง มันไม่ใช่แค่เกี่ยวกับการเล่นเกมรับของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือการพังประตูของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เท่านั้น แต่นี่คือกลุ่มนักเตะที่สูญเสียความพิเศษ และความมั่นใจไป ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, ซาลาห์ หรือ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่มาตรฐานต่ำลง
คุณสามารถเห็นมันได้จากความข้มข้นที่ลดลง เกมเพรสซิ่งทั้งหมดที่เคยเป็นจุดเด่นมายาวนานของ หงส์แดง ก็ไม่เหมือนเดิม
คล็อปป์ กล่าวถึงความสบายที่ ไบรท์ตัน เจาะเข้าทำพวกเขาแบบง่ายๆ ว่า 'น่าสยดสยอง' มันเผยให้เห็นถึงการขาดการจัดระเบียบทีม ทีมของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ไม่ใช่สโมสรแรกที่ทำได้แบบนั้นในฤดูกาลนี้ และทั้ง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้ ก็คือสองคู่แข่งถัดไปในลีกของพวกเขา ซึ่งอาจทำให้นักเตะอย่าง กาเบรียล เชซุส, เควิน เดอ บรอยน์, บูคาโย่ ซาก้า และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ พากันลูบปากรอเลย
"เราอยู่ภายใต้แรงกดดัน" คล็อปป์ ยอมรับ
"เราไม่ได้พยายามเพิ่มมันในแต่ละวัน แต่มันอยู่ที่นั่น เราต้องปรับปรุง แต่มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราแสดงมันออกมาเท่านั้น"
เขาจะแก้ไขสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร? เขาพูดเรื่องการเริ่มใหม่หลังความพ่ายแพ้ต่อ นาโปลี ในแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเดือนที่แล้ว และทีมของเขาก็ตอบสนองด้วยการเล่นอันน่าประทับใจบนชัยชนะเหนือ อาแจ็กซ์ แต่เกมในวันเสาร์มันก็ดูจะวนลูปกลับมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มที่ไม่ปะติดปะต่อ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความผิดพลาด และถูกลงโทษจนเสียแต้มมากขึ้น พวกเขาเดินหน้าหนึ่งก้าวแต่ดันถอยหลังสองก้าว มันน่าผิดหวังสำหรับผู้จัดการทีม และแฟนๆ ของพวกเขา
คล็อปป์ ไม่ได้มีความกดดันอะไรในเก้าอี้ผู้จัดการทีมของเขา นี่ไม่ใช่ เชลซี ที่ซึ่งกุนซือจะโดนไล่ออกเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก แถม คล็อปป์ เองก็มีเครดิตติดตัวมากมาย และใช่แล้ว สิ่งที่เขาทำให้สโมสรนี้มันสุดยอดมาก
เขาจะมีเวลาในการพลิกสถานการณ์ และคุณเองก็จะต้องกล้าเดิมพันกับเขาด้วยเช่นกัน แต่ถ้า เอฟเอสจี (เจ้าของทีม) ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาจะตระหนักดีว่าเวลาก็เป็นเรื่องหนึ่ง การสนับสนุนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และ คล็อปป์ ต้องการมันทั้งหมดในตลาดที่จะมาถึง
เขาไม่ได้รับมันมากพอในช่วงซัมเมอร์ ทั้งที่ตำแหน่งกองกลางคนใหม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ลิเวอร์พูล อาจดีกว่ากับฟอร์มที่พวกเขากำลังแสดงอยู่ แต่พวกเขาก็ต้องการการผ่าตัดเล็กน้อยในเร็วๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่กำลังจะหมดลง นักเตะคีย์แมนอายุมากขึ้น และคู่แข่งที่มีการเสริมทัพครั้งใหญ่
ในระหว่างนี้ สิ่งที่พวกเขาจะทำได้คือพยายมทำงาน และเล่นตามฟอร์มของตัวเอง เรนเจอร์ส จะมาเยือนแอนฟิลด์ ในคืนวันอังคาร จากนั้นก็จะเป็น อาร์เซน่อล และ ซิตี้ เกมใหญ่เหล่านี้คือสิ่งที่ คล็อปป์ หวังจะดึงการตอบสนองครั้งใหญ่จากทีมของเขา
ทีมนี้ยังไม่ตาย แต่ก็มีไฟกระพริบเตือนขึ้นมาแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาได้รับตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกที่ ฟูแล่ม เมื่อเดือนสิงหาคม
คำถามก็คือ ตอนนี้มันจะต้องเสียหายไปอีกมากแค่ไหนกว่าที่พวกเขาจะสตาร์ทเครื่องใหม่ได้อีกครั้ง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT