ปืนใหญ่ กลายเป็น หงส์ ไปแล้ว
มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่สิ่งต่างๆ ในโลกฟุตบอลสามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วขนาดนี้
อาร์เซน่อล จบฤดูกาลที่แล้วด้วยการตามหลัง ลิเวอร์พูล 23 คะแนนในพรีเมียร์ลีก และยังดูห่างไกลอีกหลายล้านไมล์ที่จะเทียบระดับกับทีมของ คล็อปป์
แต่เพียง 5 เดือนถัดมา ทั้งสองทีมที่ผ่านการสู้กันมาเมื่อวันอาทิตย์มีคะแนนห่างกันอย่างมาก โดย ปืนใหญ่ รั้งจ่าฝูงด้วยการมีแต้มทิ้ง หงส์แดง ไปไกลถถึง 14 คะแนน หลังจากผ่านไปเพียง 9 เกมในพรีเมียร์ลีก
การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างน่าทึ่ง และน่าจะยังมีอะไรให้เห็นอีกมากกับตำแหน่งที่ อาร์เซน่อล ยืนอยู่ในปัจจุบัน
มิเกล อาร์เตต้า กำลังใช้ประโยชน์จากการออกสตาร์ทซีซั่นที่น่าตื่นเต้นสร้างความสนุก และมั่นใจภายในทีมของเขาเอง
นี่คือกลุ่มผู้เล่นที่ตอนนี้มีความเชื่อกันว่าสามารถทำอะไรบางอย่างที่พิเศษได้ การพูดถึงเรื่องแชมป์ลีกไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ในสโมสรลอนดอนเหนือเวลานี้ แต่ความมุ่งมั่นที่อยากจะปรับปรุงอย่างต่อเนื่องนั้นทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ สัปดาห์
"เราทุกคนต่างมีไฟลุกโชนอยู่ข้างใน" อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตู อาร์เซน่อล กล่าว
"เราเป็นทีมอายุน้อย และเราจะลงเล่นทุกเกมเพื่อพยายามทำให้ตัวเองสนุก เราจะมาดูกันว่ามันจะพาเราไปอยู่ตรงไหน"
จนถึงตอนนี้ อาร์เซน่อล ก็ยังคงเป็นทีมที่อยู่อันดับ 1 ของตารางลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
มันเริ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเอาชนะ สเปอร์ส 3-1 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ทั้งที่ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเปิดซีซั่นหลายคนมีการตั้งคำถามทีมของ อาร์เตต้า ว่าจะทำอะไรได้บ้างในฤดูกาลนี้
แม้การเอาชนะ สเปอร์ส ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ อาร์เซน่อล ซึ่งอันที่จริงพวกเขาทำมันมาได้ถึง 5 ครั้งจาก 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่การที่พวกเขาเอาชนะ ลิเวอร์พูล นั้นเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปจากเดินอย่างสิ้นเชิง
ทีมของ คล็อปป์ นั้นเหมือนข่ม ปืนใหญ่ มาแล้วระยะหนึ่ง โดยก่อนหน้านั้นเอาชนะได้ถึง 6 จาก 7 ครั้งในพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสองทีมพบกัน 4 ครั้งในทุกรายการ ซึ่ง หงส์แดง ก็เอาชนะได้ 3 และเสมอ 1 โดยทำไปถึง 9 ประตู แบบที่ไม่โดนยิงคืนเลย
ช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมดูกว้างใหญ่มาก แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าช่องว่างเหล่านั้นจะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันไปแล้ว
แมนฯ ซิตี้ อาจเป็นทีมที่ดีที่สุดในอังกฤษ แต่ตอนนี้ อาร์เซน่อล กำลังพยายามอย่างหนักที่จะก้าวนำหน้า ลิเวอร์พูล และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่ใกล้เคียงกับ เรือใบ มากที่สุด
ชัยชนะเมื่อวันอาทิตย์ก็ทำให้ข้อโต้แย้งนั้นแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
อันที่จริง การเอาชนะ สเปอร์ส ของ เดอะ กันเนอร์ส ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่แล้วนะ แต่การสอย หงส์แดง นั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างชัดเจน
"เราต้องการแสดงให้เห็นว่าเราได้ยกระดับ และพร้อมที่จะแข่งขันกับพวกเขาแล้ว" อาร์เตต้า กล่าว
"ในการเอาชนะการแข่งขันเหล่านี้ คุณต้องเชื่อว่าคุณสามารถเอาชนะทีมเหล่านี้ได้ หากคุณไม่มีองค์ประกอบนั้นในทีม แสดงว่าคุณมีความกลัว และความกลัวคือศัตรูตัวฉกาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมระดับท็อป เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อเอาชนะในเกมฟุตบอล"
ตอนนี้เป็น ลิเวอร์พูล เองนี่แหละที่กำลังถูกตั้งคำถามเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
การออกสตาร์ทซีซั่นที่ไม่ได้เรื่องได้ราวทำให้พวกเขาดูตกต่ำแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ชัยชนะเพียง 2 จาก 8 นัดแรกในลีกทำให้พวกเขารั้งอันดับกลางตารางในพรีเมียร์ลีก คะแนนตามหลังทีมจ่าฝูงไปไกลถึง 14 แต้มแล้ว แม้ว่าจะเล่นน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม
ไม่น่าเชื่อว่าทีมที่พร้อมต่อยตีแย่งความสำเร็จกับ แมนฯ ซิตี้ มาตลอด 5 ฤดูกาลที่ผ่านมาจะดูอ่อนแอลงอย่างกระทันหัน
ในขณะเดียวกัน อาร์เซน่อล กลับมีความหิวกระหาย และมีชีวิตชีวา
มีความคล้ายคลึงกันมากมายระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นในทีม อาร์เซน่อล ตอนนี้ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล เมื่อ คล็อปป์ เข้ามาถึงสโมสรครั้งแรกในปี 2015
การสร้างในถิ่นแอนฟิลด์ไม่ได้เกิดขึ้นทันที อันที่จริงถ้วยแชมป์แรกของพวกเขาต้องใช้เวลา 3 ปีกว่าจะมาถึง
แต่ในช่วงเวลานั้นก็มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ทุกคนสามารถเห็นได้เลยว่า ลิเวอร์พูล กำลังกลับมาสู่ความสำเร็จ และตอนนี้มันก็รู้สึกแบบเดียวกันที่ อาร์เซน่อล
อาร์เตต้า ได้สร้างทีมอายุน้อยที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ และศักยภาพ
ฐานแฟนบอลก็ถูกฟื้นฟูด้วยบรรยากาศที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในตอนนี้ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับเมื่อ 2-3 ปีก่อน
เกือบ 18 เดือนแล้วที่ อาร์เตต้า ได้ต่อเติมโปรเจ็คท์ของ อาร์เซน่อล ที่พร้อมจะ 'พัง' มาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้
ชัยชนะเหนือ สเปอร์ส อาจทำให้เกิดแสงสว่างสำหรับสาวก ปืนโต แต่ชัยชนะเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนเป็นการทิ้งระเบิดลูกใหญ่ของพวกเขาเลย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT