เธอเปลี่ยนไป
คล็อปป์ กำลังรู้สึกว่าเขากำลังพบเจอกับช่วงเวลาอันน่าผิดหวังอยู่ในตอนนี้
นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล กุนซือ ลิเวอร์พูล ต้องหมกมุ่นกับการแก้ปัญหาหนึ่งเพื่อมาเจออีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งพร้อมที่จะขัดขวางแผนการของเขา และทดสอบความอดทนของเขาด้วย
ฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความหวังมากมายจนถึงตอนนี้ได้มอบสิ่งที่มีค่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งความไม่คงเส้นคงวาดังกล่าวทำใหิ้พวกเขาสามารถเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ และก็แพ้ต่อ ฟอเรสต์ ในนัดถัดมา
ในขณะที่ยังหาจังหวะในพรีเมียร์ลีกไม่เจอ โดยพวกเขาแพ้มากกว่าที่ทำมาตลอดทั้งซีซั่นก่อน อย่างน้อยทีมของ คล็อปป์ ก็สามารถพาตัวเองเข้ารอบน็อคเอาต์ถ้วยแชมเเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
ชัยชนะสุดสวยเหนือ อาแจ็กซ์ เมื่อคืนวันพุธเพียงพอที่จะส่ง ลิเวอร์พูล เข้ารอบตามหลัง นาโปลี ก่อนที่ทั้งสองทีมจะพบกันในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่ คล็อปป์ พบว่าตัวเองกำลังมองหาคำตอบจากทีมของเขา
หงส์แดง แพ้ ฟอเรสต์ เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ซึ่งทำให้โมเมนตัมที่คว้าชัยเหนือ เรนเจอร์ส และ เวสต์แฮม ถูกโยนลงชักโครกแล้วกดน้ำตามทันที
คล็อปป์ รู้สึกว่าทีมของตนโชคไม่ดี และเป็นความจริงที่พวกเขามีโอกาสที่จะเก็บ 3 คะแนน แต่ผู้สังเกตุการณ์ส่วนใหญ่บอกว่า หงส์แดง ได้รับสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับแล้วจากฟอร์มที่ห่วยแตก และเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดกับการเล่นนอกบ้าน
ปัญหาของ คล็อปป์ มีอยู่มากมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก, การหาสมดุล และรูปแบบการเล่นที่ลงตัว, ความข้มข้นของเกมเพรสซิ่งที่ลดลง และการไม่สามารถทำประตูแรกของเกม ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลออกมาอย่างที่เห็น
แม้สิ่งที่น่ากังวลไม่ว่าจะเรื่องใดๆ ก็ตาม อาจเป็นภาพของกลุ่มแกนหลักที่ไว้ใจได้กำลังดิ้นรนกับเรื่องฟอร์มการเล่น และจังหวะของตัวเอง
มันเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะกรณีของ ฟาบินโญ่ ที่เป็นสาเหตุของความกังวล หากคุณทำการสำรวจในช่วงต้นฤดูกาลเพื่อค้นหานักเตะที่สำคัญที่สุดของ ลิเวอร์พูล อย่างน้อยในเรื่องแท็คติกก็มีแนวโน้มว่าผู้เล่นชาวบราซิเลี่ยนจะอยู่ในระดับสูงของรายชื่อ
แต่เขากลับดูเป็นเงาของตัวเองในอดีตสำหรับฤดูกาลนี้ และมันก็ดำเนินต่อมาจนถึงเกมกับ ฟอเรสต์ ซึ่งเขาดูเก้งก้าง และเซื่องซึม
ในช่วงที่ดีที่สุด ฟาบินโญ่ ถือเป็นศูนย์กลางในการเล่นของ ลิเวอร์พูล เลยทีเดียว ทั้งตอนมี และไม่มีบอล
'ประภาคาร' นี่คือคำที่ เป๊ป ไลน์เดอร์ส ผู้เล่นของ คล็อปป์ เรียกเขา ซึ่งหมายถึงผู้ที่ชี้นำ อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเสมอ อ่านเกมอยู่เสมอ และปัดเป่าความอันตรายทั้งหมดให้หายไป
'ไดสัน' เป็นชื่อเล่นที่ คล็อปป์ เลือกให้เขา เนื่องมาจากวิธีที่เขาทำความสะอาดสิ่งที่วุ่นวายรอบตัวเขา
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซีซั่นนี้สิ่งต่างๆ ได้ดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่น และมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ก็มีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น และ ฟาบินโญ่ ก็ไม่สามารถพาตัวเองออกมาจากอาการป่วยไข้ได้
เขาเสียบอลบ่อยกว่าที่เขาทำเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แย่งบอลกลับมาได้น้อยลง และถึงแม้จะมีการสัมผัสบอล และจ่ายบอลมากขึ้น มันก็ยังทำให้เขาดิ้นรนที่จะนำการควบคุม และความมั่นคงมาสู่เกมของตัวเอง
มีการพูดกันว่าเขาที่ไม่ได้ลงตัวจริงในเกมใหญ่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ อาร์เซน่อล นั้น บางทีมีเพียงอาการติดเชื้อที่หูของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า เท่านั้นที่ป้องกันไม่ให้เขาไปอยู่บนม้านั่งสำรองที่กรุงอัมสเตอร์ดัม
แม้ ฟาบินโญ่ จะมีฟอร์มที่แย่อย่างน่าใจหาย แต่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นซีเนียร์ที่ยังไม่เจอฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาเอง
การดิ้นรนของทั้ง 2 คนนี้ บวกกับปัญหาความพร้อมต่อเนื่องของ ติอาโก้ ทำให้เกิดภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริงสำหรับ ลิเวอร์พูล ทั้งในระยะสั้น และระยะต่อๆ ไป
พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับการต้องสร้างแผงกลางขึ้นมาใหม่ โดย เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กำลังจะหมดสัญญาในซัมเมอร์หน้า ขณะที่ อาร์ตูร์ เมโล่ ก็น่าจะถูกส่งตัวคืน ยูเวนตุส เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
เคอร์ติส โจนส์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพสูง ด้าน สเตฟาน บายเซติช ก็เช่นกัน แต่ก็ไม่สมเหตุสมผลที่จะบอกว่า หงส์แดง จำเป็นต้องเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ และยกเครื่องระบบใหม่ทั้งหมด
เมื่อพิจารณาถึงวิธีที่สโมสรดำเนินการในตลาดซื้อขายผู้เล่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นเป็นโอกาสที่น่ากลัว
จนถึงฤดูกาลนี้ (ยกเว้นเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์) คล็อปป์ สามารถใช้งาน 3 ทหารเสือของเขาอย่าง เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และ ติอาโก้ พร้อมกันเพียง 110 นาทีเท่านั้น และในทั้ง 2 เกมที่พวกเขาได้ออกสตาร์ทร่วมกันทั้ง 3 รายก็ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของพวกเขา และผู้จัดการทีม
ฟูแล่ม เขย่าพวกเขาตั้งแต่สัปดาห์แรก ขณะที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ ก็มีพื้นที่ขนาดใหญ่จนทำแฮตทริกให้ ไบรท์ตัน บุกมาแชร์แต้มที่แอนฟิลด์ เมื่อเดือนตุลาคม
คำตอบของ คล็อปป์ ก็คือการเปลี่ยนระบบเพื่อเพิ่มผู้เล่นเกมรุก และขยับไปเป็น 4-4-2 หรือ 4-2-4
ฟาบินโญ่ ยังคงดูเฉื่อยชา และขาดความมั่นใจ และความจริงก็คือ ลิเวอร์พูล ไม่มีตัวแทนที่คล้ายคลึงกับเขาเลย
เฮนเดอร์สัน คือผู้เล่นหมายเลข 6 ที่แตกต่างออกไป และคงไม่ยุติธรรมที่จะคาดหวังกับ บายเซติช วัย 17 ปี หรือ มิลเนอร์ ที่อายุ 36 ปี แล้ว
สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการคือการให้ ฟาบินโญา จำได้ว่าเขาคือใคร และเขาเก่งแค่ไหน
อย่าลือว่านี่คือผู้เล่นอันดับ 14 ในลิสต์บัลลงดอร์ ครั้งล่าสุด เหนือกว่าทั้ง กาเซมีโร่, โยชัว คิมมิช และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เสียอีก ในบรรดานักเตะมิดฟิลด์มีเพียง เควิน เดอ บรอยน์ และ ลูก้า โมดริช ที่อันดับเหนือกว่าเขา ซึ่งนั่นพิสูจน์ถึงความยอดเยี่ยมของเขาในขณะที่ ลิเวอร์พูล ลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว ก่อนจะลงเอยด้วยการได้เพียง 2 แชมป์บอลถ้วยในประเทศ
แม้ คล็อปป์ และผู้เล่นของเขาจะปฏิเสธถึงอาการเมาค้างจากการลุ้น 4 แชมป์อย่างเหน็ดเหนื่อย และหัวใจสลายในท้ายที่สุด แต่ดูเหมือนว่ามันยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ แอนฟิลด์ ในช่วงนี้
มันอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่นกับฟอร์มของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รูปแบบที่ไม่น่าประทับใจของ เฮนเดอร์สัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ในจำนวนนั้นเองก็มี ฟาบินโญ่ อยู่ด้วย โดยที่ คล็อปป์ คงหวังว่าเขาจะสลัดปัญหาออกไปในเร็วๆ นี้ เพราะหากไม่มี 'ประภาคาร' ของพวกเขาที่คอยนำทาง ลิเวอร์พูล ของเขาก็คงจะหลงทางต่อไป
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT