เหตุผลสำคัญ...ราชันซื้อเอ็นดริก
ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ปรากฎตัวในศาลเพื่อไปให้การในคดีที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง และคอร์รัปชั่นต่อ เนย์มาร์ และครอบครัวของเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการย้ายจาก ซานโตส ไปยัง บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2013
ในระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งเมื่อต้นสัปดาห์นี้ได้รับการเคลียร์แล้วว่า เนย์มาร์ ไม่ได้มีความผิดใดๆ เปเรซ ยอมรับว่า มาดริด ได้ยื่นข้อเสนอ 45 ล้านยูโร เพื่อที่จะเซ็นสัญญากับดาวเตะบราซิเลี่ยน เมื่อปี 2011 แต่ เนย์มาร์ กลับมีใจให้ บาร์ซ่า เหมือนที่เขาเคยพูดไว้อยู่เสมอ
ใครจะจินตนาการได้ว่า เปเรซ ทำเช่นนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่เต็มใจ บางทีอาจถึงกับกัดฟันอย่างที่เขารู้ว่า 11 ปีต่อมา นักเตะที่เขาเคยต้องการนำมายังถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว ไม่เคยได้สวมเสื้อ มาดริด เลย
ถึงกระนั้น ความเจ็บปวดบางอย่างที่ฝังใจอาจได้รับการบรรเทาลงแล้ว เรอัล มาดริด ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าพวกเขาได้บรรลุข้อตกลง 60 ล้านยูโร ในการเซ็นสัญญาคว้าตัวไอ้หนู เอ็นดริก โดยกองหน้าดาวรุ่งจาก พัลเมรัส ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดในบราซิล พร้อมมีเสียงกระซิบว่าเขาอาจจะเก่งพอๆ กับ เนย์มาร์
บาร์ซ่า เองก็รู้ดี และปรารถนาที่จะนำตัว เอ็นดริก มายังถิ่นคัมป์ นู "เขาเป็นผู้เล่นที่เราต้องการ" ชาบี เอร์นานเดซ เทรนเนอร์ยักษ์กาตาลันกล่าวเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนหลังได้คุยกับพ่อของวัยรุ่นรายนี้ "เขารู้อยู่แล้วว่าเรามีโปรเจ็คท์ที่ บาร์เซโลน่า และเรากำลังคุยกันอยู่ ผมหวังว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นของเรา"
ดังนั้น 11 ปีที่ เนย์มาร์ ปฏิเสธ มาดริด ก่อนจะไปอยู่กับทีมคู่แค้นที่สุดของพวกเขาจึงให้ความรู้สึกเหมือนการล้างแค้นจาก เปเรซ
https://twitter.com/realmadrid/status/1603408403350650880?cxt=HHwWgIC8-dLcucAsAAAA
หลังจากที่ เนย์มาร์ ย้ายไปอยู่กับ บาร์ซ่า นโยบายการสร้างทีมของ มาดริด ก็เป็นไปอย่างช้าๆ 'กาลาคติกอส' ไม่ค่อยลงทุนซื้อซูเปอร์สตาร์เหมือนที่ผ่านมา การเซ็นสัญญากับผู้เล่นบิ๊กเนมอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ, โทนี่ โครส, แกเร็ธ เบล ทั้งหมดยังไม่ได้ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
การเน้นไปที่ดาราวัยรุ่นจึงเริ่มมีขึ้นแทน สโมสรที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ส่งนักเตะเข้าประกวดรางวัลบัลลงดอร์ และเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์รัดับโลก เริ่มมองหานักเตะที่สามารถเติบโตเพื่อเป็นดาวดังในอนาคต
พวกเขานำดาวรุ่งที่ถูกคาดหมายไว้สูงมาฆ่าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ โกเอส, มาร์ติน โอเดการ์ด, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, มาร์โก อาเซนซิโอ, เรเนียร์ และ ทาเคฟุสะ คุโบะ เป็นต้น
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ผลอย่างที่ เปเรซ หวังเอาไว้ โอเดการ์ด ซึ่งได้รับความสนใจจากเหล่าสโมสรใหญ่ในยุโรปเมื่ออายุได้ 15 ปี เป็นผู้เล่นที่หลายคนคิดว่ากำลังก้าวไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในไม่ช้า
มาดริด จ่ายเงิน 4 ล้านยูโร และส่งเขาไปยังทีมเยาวชนทันที แต่เขากลับถูกดร็อปจากทีม เรอัล มาดริด กาสตีย่า ในเดือนมีนาคม ปี 2015 และมีปัญหาเรื่องฟอร์มตก ในที่สุดเขาก็ได้ประเดิมทีมชุดใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 แต่ปีต่อมาเขาก็ถูกปล่อยยืมตัวเป็นครั้งแรก
ที่สุดแล้ว เขาก็ฝากผลงานเพียงประตูเดียวในถิ่นเบร์นาเบว ก่อนย้ายไป อาร์เซน่อล ด้วยสัญญาถาวรในปัจจุบัน
คุโบะ ถือเป็นความล้มเหลวอีกครั้ง บางทีเขาอาจดูน่าสนใจกว่า โอเดการ์ด ด้วยซ้ำ เพราะไอ้หมอนี่เคยเป็นส่วนหนึ่งในอะคาเดมี่ บาร์เซโลน่า ก่อนที่เขาจะถูกบังคับให้กลับไปยังบ้านเกิดที่ญี่ปุ่น หลังฟีฟ่าสั่งห้ามไม่ให้สโมสรกาตาลันลงทะเบียนผู้เล่นใหม่
เมื่อมายัง มาดริด ในซัมเมอร์ ปี 2019 คุโบะ ก็ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ราชันชุดขาว และโชว์ฟอร์มอย่างน่าประทับใจในการทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา แต่ข้อตกลงยืมตัวก็เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา และ 3 ปีถัดมาเขาก็ย้ายออกไปยัง เรอัล โซเซียดาด แบบถาวรหลังล้มเหลวในการหาตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ที่เบร์นาเบว
แต่ก็มีความสำเร็จเกิดขึ้นเหมือนกันเมื่อไม่นานมานี้ โดย วินิซิอุส ที่ถูกดึงมาจาก ฟลาเมงโก ในราคา 46 ล้านยูโร เพียง 10 วัน หลังจากที่เขาประเดิมทีมชุดใหญ่ให้กับสโมสรบราซิล และแม้ว่าเขาจะต้องใช้เวลา 3 ปี กว่าจะตั้งหลักได้กับ มาดริด แต่ตอนนี้ปีกบราซิเลี่ยนก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งของเขาแล้ว
โรดรีโก้ เพื่อนชาวบราซิเลี่ยนก็พบบทบาทของเขาเช่นกัน เขาถูกเซ็นสัญญามาหลังจาก วินิซิอุส หนึ่งปีด้วยค่าตัวที่แพงพอๆ กัน โดยปีกรายนี้ได้โอกาสลงสนามมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ฤดูกาล 2021-22 เขาจะสนุกกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง โดยทำไป 9 ประตู จาก 49 นัดรวมทุกรายการ
แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีผู้เล่นอย่าง เอ็นดริก มาก่อน ตัวเลขสถิติส่วนตัวของเขาน่าเหลือเชื่อสำหรับผู้เล่นอายุน้อย โดยทำไป 170 ประตู จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดที่เล่นให้ทีมเยาวชน และ 3 ประตู จาก 6 นัดแรกในทีมชุดใหญ่ในขณะที่เขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก
เขาเป็นสมาชิกของทีมชาติบราซิลชุดยู-20 โดยที่ผ่านมา บาร์ซ่า หลงรักดาวเตะรายนี้ เช่นเดียวกับ เปแอสเช, เชลซี และอีกหลายทีม
แต่สุดท้ายมันคือ มาดริด ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นว่ามีเส้นทางสำหรับผู้เล่นอายุน้อยในการก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยนั่นเป็นปัจจัยในการทำข้อตกลงกับ เอ็นดริก
เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า มาดริด ได้เซ็นสัญญากับ เนย์มาร์ คนต่อไปหรือไม่ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เอาชนะ บาร์ซ่า จนคว้าตัวเขามาได้
หลังจาก 11 ปี ที่ยาวนาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ทวงแค้นของเขาคืนได้แล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT