6 ม้าท้าชิงใครจะมาวินท็อปโฟร์
การแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยเหลือเรื่องเงินสำหรับการใช้จ่ายในปีถัดไป ดังนั้นการได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้จึงถือเป็นกำไรอย่างมาก
สำหรับสโมสรอย่าง นิวคาสเซิ่ล ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า การทำแบบนั้นจะช่วยให้พวกเขาเติบโตแบบก้าวกระโดดมากขึ้น ส่วนกับ สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด การผ่านเข้าไปลุยถ้วยใหญ่ที่สุดของยุโรปจะทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่ต้องมีสถานะตามหลังใคร
กับวันนี้ มันเหลือเวลาอีก 2 เดือนครึ่งของฤดูกาล โดยมี 2 ทีมที่น่าจะการันตีแล้ว ซึ่งก็คือ อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้
ยังมีอีก 6 ทีมที่ระยะห่างกัน 11 แต้ม เพื่อแย่งชิงพื้นที่ดังกล่าว เราจะมาดูกันถึงโอกาสของพวกเขาเหล่านั้นกัน
แมนฯ ยูไนเต็ด
แข่ง : 25 นัด
คะแนน : 49 แต้ม
5 โปรแกรมสำคัญ : นิวคาสเซิ่ล (เยือน), เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า), ฟอเรสต์ (เยือน), เชลซี (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน)
เมื่อมองจากภายนอกแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีคะแนนนำหน้า ลิเวอร์พูล ถึง 7 คะแนน ตอนนี้พวกเขาน่าจะเป็นทีมที่มีโอกาสดีที่สุด ด้วยเกมเหย้าที่ดี และถ้าพวกเขาเอาชนะได้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นส่วนใหญ่ การกลับสู่แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลแรกของ เอริก เทน ฮาก ก็จะอยู่ในกำมือของพวกเขา และนั่นคือเป้าหมายจากช่วงต้นฤดูกาล
แม้ว่าผลการแข่งขันที่แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจะถือเป็นหายนะ เป็นเรื่องน่าอาย มันอาจทำให้พวกเขาทรุดต่อ หรือไม่ก็อาจเป็นแรงผลักดันที่อาจชัดเจนขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แน่นอนว่าเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในสุดสัปดาห์นี้จะตอบคำถามเหล่านั้นเอง
สเปอร์ส
แข่ง : 26 นัด
คะแนน : 45 แต้ม
5 โปรแกรมสำคัญ : เอฟเวอร์ตัน (เยือน), ไบรท์ตัน (เหย้า), นิวคาสเซิ่ล (เยือน), แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า), ลิเวอร์พูล (เยือน)
ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิ่ล ต่างก็มีเกมในมืออยู่ สเปอร์ส เองก็มีแนวคิดเดียวเท่านั้นคือการจบท็อปโฟร์ในเดือนพฤษภาคม มันจะเป็นวันกำหนดอนาคต ซึ่งอาจจะมีผลกับ แฮร์รี่ เคน และ อันโตนิโอ คอนเต้ เลยก็ว่าได้
คอนเต้ กลับมาที่ลอนดอนแล้วหลังจากฟื้นตัวจากการผ่าตัดถุงน้ำดีที่อิตาลี และการมีเขากลับมาทำงานอีกครั้งก็น่าจะทำให้ ไก่เดือยทอง มีแรงกระตุ้นใหม่หลังความวุ่นวายในเดือนก่อนที่ชัยชนะหายไปพร้อมกับความพ่ายแพ้อย่างน่าอับอายในเอฟเอ คัพ จากนั้นก็แพ้ วูล์ฟส์ และตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยน้ำมือ เอซี มิลาน
ลิเวอร์พูล
แข่ง : 25 นัด
คะแนน : 42 แต้ม
5 โปรแกรมสำคัญ : แมนฯ ซิตี้ (เยือน), เชลซี (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), สเปอร์ส (เหย้า), เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)
พวกเขาไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีก มาตลอด 5 นัดหลังสุด พร้อมกับถล่มคู่แค้นตัวฉกาจของพวกเขา และตอนนี้ก็กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองอีกครั้งในการแข่งขันนี้
โปรแกรมที่เหลือมีความยากในระดับหนึ่งกับการต้องเดินทางไปยังเอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 1 เมษายน ต่อด้วยการเปิดบ้านรับมือ อาร์เซน่อล ในอีกไม่กี่เกมถัดมา แต่ ลิเวอร์พูล มักเป็นทีมที่มีโมเมนตัม และตอนนี้ผู้เล่นคนสำคัญของพวกเขาก็กำลังฟื้นคืนฟอร์มในช่วงเวลาที่เหมาะสม
พวกเขาเคยเร่งเครื่องมาจบในท็อปโฟร์ได้ในช่วงท้ายของ 2 ฤดูกาลที่แล้ว และตอนนี้มันก็ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กัน
นิวคาสเซิ่ล
แข่ง : 24 นัด
คะแนน : 41 แต้ม
5 โปรแกรมสำคัญ : แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า), สเปอร์ส (เหย้า), เอฟเวอร์ตัน (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)
ตอนนี้มันมีคำถามว่าบอลลูนของพวกเขากำลังรั่วรึเปล่า? พวกเขาไม่ชนะใครมา 5 นัด และทำได้เพียง 3 ประตู จาก 8 เกมหลังสุด แต่จากเกมแพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 แบบมีทรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มันก็เป็นสัญญาณว่า สาลิกาดง เมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็ไม่ได้อยู่ไกลจากเดิมสักเท่าไหร่
พวกเขามีแผงมิดฟิลด์ที่เป็นจุดเด่น และก็สร้างโอกาสระหว่างเกมได้หลายต่อหลายครั้ง มันอาจเป็น คัลลั่ม วิลสัน ที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว กลับมาบินสูงอีกครั้ง พวกเขาต้องเอาชนะ วูล์ฟส์ ให้ได้ในเกมเหย้าสุดสัปดาห์นี้
ฟูแล่ม
แข่ง : 25 นัด
คะแนน : 39 แต้ม
5 โปรแกรมสำคัญ : อาร์เซน่อล (เหย้า), แอสตัน วิลล่า (เยือน), เวสต์แฮม (เหย้า), แมนฯ ซิตี้ (เหย้า), แมนฯ ยูไนเต็ด (เยือน)
ทุกสิ่งต่อจากนี้ถือเป็นโบนัสสำหรับทีมของ มาร์โก ซิลวา แล้ว และเขาก็อยู่ในข่ายผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีด้วย แม้ความพ่ายแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อคืนวันจันทร์จะเป็นความสูญเสียที่น่าสยดสยอง แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่พวกเขาจะหมดหวังโดยสิ้นเชิง
ไม่ว่า ฟูแล่ม จะอยู่ในฤดูกาลที่ปั่นป่วนของฟอร์มการเล่น แต่การได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปก็เป็นไปได้จริง ปัจจัยด้านความรู้สึกกลับมายังถิ่นคราเวน ค็อทเทจ และพวกเขาก็อยู่ในระดับของทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ไม่ว่ามันจะจบลงอย่างไร พวกเขาก็ยังถือว่าทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์ได้
ไบรท์ตัน
แข่ง : 23 นัด
คะแนน : 38 แต้ม
5 โปรแกรมสำคัญ : คริสตัล พาเลซ (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน), เชลซี (เยือน), แมนฯ ซิตี้ (เหย้า), อาร์เซน่อล (เยือน)
ไบรท์ตัน มีเกมค้างในมืออยู่ 3 นัด ด้วยสถานการณ์ตามหลัง สเปอร์ส แค่ 7 แต้ม จุดแข็งของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ คือวิธีการที่พวกเขาพลิกกลับมาจากความพ่ายแพ้ ฟูแล่ม ไปสู่การผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ และจากนั้นก็เอาชนะ เวสต์แฮม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เด แซร์บี้ ไม่ได้มองข้างโอกาสในการจบ 6 อันดับแรก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี และหากพวกเขาต้องผิดหวัง มันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าพอใจอยู่
อัตราต่อรองทีมที่จะจบท็อปโฟร์ในพรีเมียร์ลีกจาก แพ็ดดี้ เพาเวอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด : 1/14 (แทง 14 จ่าย 1 ไม่รวมทุน)
ลิเวอร์พูล : 4/5 (แทง 5 จ่าย 4 ไม่รวมทุน)
สเปอร์ส : 23/10 (แทง 10 จ่าย 23 ไม่รวมทุน)
นิวคาสเซิ่ล : 11/4 (แทง 4 จ่าย 11 ไม่รวมทุน)
ไบรท์ตัน : 5/1 (แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน)
ฟูแล่ม : 50/1 (แทง 1 จ่าย 50 ไม่รวมทุน)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT