โค้งสุดท้ายชี้ชะตากลุ่มเลื่อนชั้นแชมเปี้ยนชิพ
มีคะแนนห่างกันแค่ 16 แต้มที่แยก มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมอันดับ 3 และ บริสตอล ซิตี้ ในอันดับ 13 ซึ่งเน้นย้ำว่าการต่อสู้เพื่อพื้นที่เพลย์ออฟสูสีเพียงใดในฤดูกาลนี้
เบิร์นลี่ย์ เป็นจ่าฝูงของลีกตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม แต่ เชฟฯ ยูไนเต็ด ก็เริ่มสะดุดให้เห็นอยู่บ่อยๆ จนทีมของ ไมเคิ่ล คาร์ริค มีโอกาสที่จะแซงคว้าตั๋วเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ โดยตอนนี้ทำแต้มมาจ่อตูดแล้ว
ปัจจุบัน ลูตัน, แบล็คเบิร์น และ มิลล์วอลล์ อยู่ในโซนเพลย์ออฟที่เหลืออีก 3 ทีม แต่ทีมเหล่านั้นก็กำลังถูกกดดันจากผู้ที่ตามมาอย่าง นอริช, เวสต์บรอมวิช, โคเวนทรี, ซันเดอร์แลนด์, วัตฟอร์ด, เปรสตัน หรือ บริสตอล ซิตี้
เราจะมาดูกันว่าการต่อสู้เพื่อลุ้นเลื่อนชั้นจาก 10 เกมสุดท้ายในแชมเปี้ยนชิพจะมีโอกาสเป็นไปในทิศทางใด
กลุ่มที่กำลังลุ้นเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติ - 1.เบิร์นลี่ย์ (83 แต้ม), 2.เชฟฯ ยูไนเต็ด (70 แต้ม), 3.มิดเดิ้ลสโบรช์ (64 แต้ม)
ในฤดูกาลที่ผ่านมาเกินครึ่งแทางแล้ว หนึ่งในสิ่งที่ถูกจับตามองคือการที่ เบิร์นลี่ย์ ลุ้นคืนสู่พรีเมียร์ลีกในทันที แว็งซ็องต์ ก็องปานี ได้เปลี่ยน เดอะ คลาเร็ตส์ ให้กลายเป็นทีมที่แทบไม่มีใครรู้จักในปี 2022-23 โดยนำฟุตบอลสมัยใหม่ และไหลลื่นมายังถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ เพื่อสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่
เบิร์นลี่ย์ ไม่แพ้ใครในบ้าน ทำประตูได้มากกว่าทุกทีม และมีเกมรับที่ดีที่สุดอีกด้วย ก็องปานี ดูเหมือนจะถูกกำหนดให้ก้าวไปเป็นโค้ชระดับพรีเมียร์ลีก หลังทำงานบริหารในอังกฤษได้แค่ซีซั่นเดียว
เชฟฯ ยูไนเต็ด มีแต้มห่าง เบิร์นลี่ย์ 3 คะแนนในช่วงเปลี่ยนปี แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ฟอร์มดร็อปด้วยการชนะเพียง 2 จาก 6 นัดหลังสุด โดยแพ้ให้กับคู่แข่งลุ้นเลื่อนชั้นด้วยกันอย่าง โบโร่ (1-3), มิลล์วอลล์ (2-3), แบล็คเบิร์น (0-1) และ ลูตัน (0-1) พวกเขาอาจทะลุถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ แต่ผลงานในลีกกลับเหือดแห้งไป
ข่าวร้ายของ ดาบคู่ ก็คือ 6 จาก 9 เกมสุดท้ายของพวกเขาจะต้องเจอกับทีมที่ลุ้นเลื่อนชั้นด้วยกัน นั่นหมายความว่าทีมของ พอล เฮคกิ้งบ็อทท่อม มีงานหนักรออยู่
มิดเดิ้ลสโบรช์ ลดช่องว่างมาเหลือแค่ 6 แต้ม ทั้งที่เคยตามหลังทีมจากยอร์คเชียร์ถึง 14 คะแนนในวันที่ 1 มกราคม แต่ เชฟฯ ยูไนเต็ด ก็หวังจะใช้ความทรงจำอันน่าผิดหวังที่แพ้ ฟอเรสต์ ในรอบเพลย์ออฟช่วงดวลจุดโทษซีซั่นที่แล้ว ด้วยการรักษาอันดับสองเอาไว้ให้ได้
โบโร่ ถือเป็นทีมที่น่าเซอร์ไพรส์ในแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลนี้ และถ้า แว็งซ็องต์ ก็องปานี ไม่ได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งอันที่จริงเขาควรจะได้ มันก็คงไม่มีใครดีไปกว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค
ตอนอดีตสตาร์ทีมชาติอังกฤษเข้ามาทำทีม สโมสรรั้งอันดับ 21 และเสี่ยงต่อการตกชั้นสู่ลีก วัน กรอเทปมาข้างหน้าไม่ถึง 5 เดือน พวกเขากำลังลุ้นเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2016-17 ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะมีข่าวกับ เวสต์แฮม เพื่อแทนที่ เดวิด มอยส์
โปรแกรม 9 เกมสุดท้าย
1.เบิร์นลี่ย์ : ซันเดอร์แลนด์ (เหย้า), มิดเดิ้ลสโบรช์ (เยือน), เชฟฯ ยูไนเต็ด (เหย้า), เร้ดดิ้ง (เยือน), ร็อตเธอร์แฮม (เยือน), ควีนส์ปาร์ค (เหย้า), แบล็คเบิร์น (เยือน), บริสตอล ซิตี้ (เยือน), คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า)
2.เชฟฯ ยูไนเต็ด : วีแกน (เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (เยือน), คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า), บริสตอล ซิตี้ (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เยือน), เวสต์บรอมวิช (เหย้า), เปรสตัน (เหย้า), เบอร์มิงแฮม (เยือน)
3.มิดเดิ้ลสโบรช์ : เปรสตัน (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เยือน), เบิร์นลี่ย์ (เหย้า), บริสตอล ซิตี้ (เยือน), นอริช (เหย้า), ฮัลล์ (เยือน), ลูตัน (เยือน), ร็อตเธอร์แฮม (เยือน), โคเวนทรี (เหย้า)
กลุ่มลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ - 4.ลูตัน (63 แต้ม), 5.แบล็คเบิร์น (61 แต้ม), 6.มิลล์วอลล์ (60 แต้ม), 7.นอริช (56 แต้ม), 8.เวสต์บรอมวิช (55 แต้ม)
การเปลี่ยนแปลงของ ลูตัน ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมาทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาจากเนชันแนลลีกสู่การลุ้นเลื่อนชั้นไปยังลีกสูงสุดเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน แน่นอนว่าจากฟอร์มปัจจุบันพวกเขาถูกคาดหมายว่าจะอยู่ใน 4 อันดับแรกเป็นอย่างน้อย
ไม่มีทีมไหนที่เสียประตูเกมเยือน (15) น้อยกว่าทีมของ ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ แต่พวกเขาก็ยังมีปัญหากับเกมเหย้าที่เคนนิลเวิร์ธ โร้ด ที่เก็บชัยได้เพียง 7 เกม จาก 19 นัดในฤดูกาลนี้
แบล็คเบิร์น ตามหลัง ลูตัน เพียง 2 คะแนน โดยจะเผชิญหน้ากับ ลูตัน ในเกมรองสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งอาจเป็นเกมแห่งชีวิตสำหรับทั้งสองทีม ขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น มิดเดิ้ลสโบรช์ ก็จะบุกไปเยือนถิ่นเคนนิลเวิร์ธ โร้ด ซึ่งเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับ ลูตัน ขณะที่ กุหลาบไฟ เองก็อยู่ในฟอร์มที่ดีเช่นกัน โดยแพ้เพียง 2 เกมเท่านั้นตั้งแต่เข้าสู่ปี 2023
แต่ทีมของ ยอน ดาห์ล โทมัสสัน นั้นมีสถิติเกมเหย้า และเยือนแตกต่างกันแบบสิ้นเชิง โดยพวกเขามีเกมรับในบ้านดีที่สุดอันดับสอง (เสีย 14 ประตู) ทว่าก็มีเพียง 4 ทีมเท่าน้ันที่แพ้มากกว่าพวกเขาจากการเล่นนอกบ้าน (แพ้ 10) ขณะที่ เบน เบรเรตัน ดิอาซ ก็ทำได้เพียง 3 ประตูตั้งแต่เดือนตุลาคม กระนั้นการกลับสู่ฟอร์มเก่งก็สามารถพิสูจน์ถึงความแตกต่างสำหรับทีมของเขาได้
สิ่งสำคัญคือพวกเขาจะปิดฤดูกาลด้วยเกมเหย้ากับ เบิร์นลี่ย์ และ ลูตัน ก่อนจะเล่นนัดสุดท้ายด้วยการไปเยือน มิลล์วอลล์ ซึ่งตอนนี้ตามหลังพวกเขาเพียงแค่แต้มเดียว
หลังจากออกสตาร์ทซีซั่นแบบช้าๆ ด้วยการชนะ 4 จาก 10 เกม มิลล์วอลล์ พยายามไต่เต้าเพื่อโอกาสขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก ด้วยผลงาน 26 ประตูรวมกันจาก ทอม แบรดชอว์ และ เซียน เฟลมมิ่ง
ส่วนทีมที่อยู่ถัดจากพื้นที่เพลย์ออฟก็คือ นอริช และ เวสต์บรอมวิช โดยทาง นกขมิ้นเหลืองอ่อน ฟอร์มหลุดไปใน 2 เกมหลัง พร้อมกับสถิติชนะ 16 จาก 36 เกม ในขณะที่ เดอะ แบ็กกี้ส์ ก็ต้องดิ้นรนในการเก็บสามแต้มนอกถิ่นเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ โดยเอาชนะนอกบ้านได้แค่ 5 เกมเท่านั้น น้อยกว่า ลูตัน ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ทั้งสองทีมมีคิวพบกันในเกมรองสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งเป็นเกมที่อาจเห็นทีมใดทีมหนึ่งเขี่ยอีกทีมออกจากพื้นที่เพลย์ออฟเลยทีเดียว แต่ทั้งสองสโมสรก็ยังคงต้องกดดันทีมที่อันดับเหนือกว่าพวกเขาต่อไป โดยเวลานี้มี 9 คะแนนที่แยก เวสต์บรอมวิช ซึ่งรั้งอันดับ 8 กับ โบโร่ ที่อยู่อันดับสาม
โปรแกรม 9 เกมสุดท้าย
4.ลูตัน : ซันเดอร์แลนด์ (เยือน), วัตฟอร์ด (เหย้า)ม มิลล์วอลล์ (เยือน), แบล็คพูล (เหย้า), ร็อตเธอร์แฮม (เยือน), เร้ดดิ้ง (เยือน), โบโร่ (เหย้า), แบล็คเบิร์น (เยือน), ฮัลล์ (เหย้า)
5.แบล็คเบิร์น : เบอร์มิงแฮม (เยือน), นอริช (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เยือน), ฮัลล์ (เหย้า), โคเวนทรี (เหย้า), เปรสตัน (เยือน), เบิร์นลี่ย์ (เหย้า), ลูตัน (เหย้า), มิลล์วอลล์ (เยือน)
6.มิลล์วอลล์ : ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า), เวสต์บรอมวิช (เยือน), ลูตัน (เหย้า), ฮัลล์ (เยือน), เปรสตัน (เหย้า), เบอร์มิงแฮม (เหย้า), วีแกน (เยือน), แบล็คพูล (เยือน), แบล็คเบิร์น (เหย้า)
7.นอริช : สโต๊ค (เยือน), เชฟฯ ยูไนเต็ด (เหย้า), แบล็คเบิร์น (เยือน), ร็อตเธอร์แฮม (เหย้า), โบโร่ (เยือน), ควีนส์ปาร์ค (เยือน), สวอนซี (เหย้า), เวสต์บรอมวิช (เยือน), แบล็คพูล (เหย้า)
8.เวสต์บรอมวิช : มิลล์วอลล์ (เหย้า), ร็อตเธอร์แฮม (เยือน), ควีนส์ปาร์ค (เหย้า), สโต๊ค (เยือน), แบล็คพูล (เยือน), ซันเดอร์แลนด์ (เหย้า), เชฟฯ ยูไนเต็ด (เยือน), นอริช (เหย้า), สวอนซี (เยือน)
กลุ่มนอกพื้นที่เพลย์ออฟที่ยังพอมีลุ้น - 9.โคเวนทรี (54 แต้ม), 10.วัตฟอร์ด (54 แต้ม), 11.เปรสตัน (53 แต้ม), 12.ซันเดอร์แลนด์ (52 แต้ม), 13.บริสตอล ซิตี้ (48 แต้ม)
นอกจากทีมข้างบนเหล่านั้น ยังวมีสโมสรที่มีโอกาสในการทะลุเข้าพื้นที่เพลย์ออฟเหมือนกัน โดยมีเพียง 6 แต้มเท่าน้ันที่แยกระหว่าง โคเวนทรี อันดับ 9 กับ บริสตอล ซิตี้ ที่รั้งอันดับ 13 ซึ่งอยู่ห่างจากอันดับสุดท้ายของพื้นที่เพลย์ออฟแค่ 12 คะแนน
โคเวนทรี อยู่ในตำแหน่งแข็งแกร่งที่สุดในการก้าวกระโดดไปในสถานะเดียวกับ นอริช และ เวสต์บรอมวิช โดย ช้างกระทืบโรง ของ มาร์ค โรบินส์ ไม่แพ้ใครมาตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ และมี 18 ประตูจาก วิคเตอร์ กียอเคเรส พร้อมกับอีก 7 แอสซิสต์ แต่ด้วยฟอร์มนอกบ้านอันย่ำแย่ แถมยังเสมอไปถึง 12 จาก 37 นัดก็ทำให้ยังเป็นงานยากสำหรับพวกเขาในการลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ
ตามหลัง โคเวนทรี มาคือ วัตฟอร์ด และ เปรสตัน โดย แตนอาละวาด นำหน้า 1 แต้ม จากชัยชนะ 14 เกม แต่ในขณะที่ วัตฟอร์ด เอาชนะแค่ 2 เกมจาก 5 นัดหลังสุด เปรสตัน ก็ไม่แพ้ใครเลยในช่วงเวลาเดียวกัน
เปรสตัน มีลูกได้เสียแย่ที่สุดในทีมกลุ่มเดียวกันคือ -5 ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจหลอกหลอนพวกเขา
ถัดลงมาคือ ซันเดอร์แลนด์ ที่เพิ่งกลับมายังแชมเปี้ยนชิพหลังชนะในศึกเพลย์ออฟ ลีก วัน เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะได้เล่นเพลย์ออฟ 2 ซีซั่นติดต่อกัน หลังจากเอาชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 6 นัดหลังสุด (แพ้ 4) แม้ว่า อาหมัด ดิยัลโล่ ที่ยืมมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะโชว์ฟอร์มได้ดีก็ตาม
ทีมสุดท้ายที่ยังพอมีลุ้นคือ บริสตอล ซิตี้ ที่อยู่ห่างจาก มิลล์วอลล์ 12 แต้ม โดยต้องใช้ความพยายามอย่างมากในขณะที่เหลืออีก 9 เกมสุดท้าย ขณะเดียวกันก็ต้องลุ้นอีก 6 ทีมนำหน้าพวกเขาให้ทำแต้มหลุดมือด้วย ซึ่งมันก็มีทั้งความเป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้พอๆ กัน
นาห์กี้ เวลล์ส เป็นดาวยิงสูงสุดอันดับ 9 ร่วมในลีก และ อเล็กซ์ สกอตต์ ดาวรุ่งก็กำลังฉายแววใน 11 ตัวจริง ดังนั้น ไนเจล เพียร์สัน จึงมีตัวเลือกมากมาย แต่พวกเขาก็เสมอรวมถึง 12 นัด และเอาชนะได้แค่ 4 เกมเยือนในฤดูกาล 2022-23
โปรแกรม 9 เกมสุดท้าย
9.โคเวนทรี : แบล็คพูล (เยือน), สโต๊ค (เหย้า), สวอนซี (เยือน), วัตฟอร์ด (เหย้า), ควีนส์ปาร์ค (เยือน), แบล็คเบิร์น (เยือน), เร้ดดิ้ง (เหย้า), เบอร์มิงแฮม (เหย้า), โบโร่ (เยือน)
10.วัตฟอร์ด : วีแกน (เหย้า), ลูตัน (เยือน), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า), โคเวนทรี (เยือน), บริสตอล ซิตี้ (เหย้า), คาร์ดิฟฟ์ (เหย้า), ฮัลล์ (เยือน), ซันเดอร์แลนด์ (เยือน), สโต๊ค (เหย้า)
11.เปรสตัน : โบโร่ (เยือน), แบล็คพูล (เหย้า), ควีนส์ปาร์ค (เยือน), เร้ดดิ้ง (เหย้า), มิลล์วอลล์ (เยือน), สวอนซี (เยือน), แบล็คเบิร์น (เหย้า), เชฟฯ ยูไนเต็ด (เยือน), ซันเดอร์แลนด์ (เหย้า)
12.ซันเดอร์แลนด์ : ลูตัน (เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (เยือน), ฮัลล์ (เหย้า), คาร์ดิฟฟ์ (เยือน), เบอร์มิงแฮม (เหย้า), ฮัดเดอร์สฟิลด์ (เหย้า), เวสต์บรอมวิช (เยือน), วัตฟอร์ด (เหย้า), เปรสตัน (เยือน)
13.บริสตอล ซิตี้ : สวอนซี (เยือน), เร้ดดิ้ง (เหย้า), สโต๊ค (เยือน), โบโร่ (เหย้า), วัตฟอร์ด (เยือน), เชฟฯ ยูไนเต็ด (เยือน), ร็อตเธอร์แฮม (เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (เหย้า), ควีนส์ปาร์ค (เยือน)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT