หายนะในหายนะของ มาเน่
กองหน้าชาวเซเนกัลไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับ ลิเวอร์พูล อีกแล้วเมื่อร่วมคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก และพรีเมียร์ลีก โดยเขาพร้อมสำหรับความท้าทายครั้งใหม่
บาเยิร์น ต้องการดาวยิงที่ได้รับการพิสูจน์ตัวเองมาแล้วเพื่อช่วยชดเชยการจากไป บาร์เซโลน่า ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และด้วยค่าตัว 27.4 ล้านปอนด์ ที่อาจเพิ่มไปสูงสุดถึง 35 ล้านปอนด์ ก็เป็นมูลค่าที่ยอดเยี่ยม
นี่คือคนที่ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ สามารถเลือกใช้เกมรุกได้อย่างหลากหลาย ด้วยเป้าหมายในการประสบความสำเร็จในเยอรมัน และแชมเปี้ยนส์ลีก
แต่ทุกสิ่งกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ช่วงเวลาของ มาเน่ ในแคว้นบาวาเรียจนถึงตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นหายนะ และบรรยากาศร้อนระอุที่ปกคลุมทั่วแคมป์ เสือใต้ ในสัปดาห์ที่แล้ว
มาเน่ ที่เป็นคนนิ่งๆ และยิ้มง่ายทะเลาะกับ ลีรอย ซาเน่ ในห้องแต่งตัวของ บาเยิร์น หลังแพ้ แมนฯ ซิตี้ ขาดลอยในแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันอังคารของสัปดาห์ก่อน
หมัดที่สาวเข้าใส่ ซาเน่ ทำให้ริมฝีปากล่างของเขาเลือดออก และทั้งคู่ก็ต้องถูกแยกออกจากกันโดยเพื่อนร่วมทีม
ผลทื่ตามมาก็คือ มาเน่ ถูกแบนในเกมวันเสาร์ที่ผ่านมากับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ และก็ถูกปรับเงินด้วย
โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ใหม่ บาเยิร์น ยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่ากองหน้ารายนี้จะถูกลงโทษแบนแค่เกมเดียว ซึ่งหมายความว่าเขาจะกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือกในเกมกับ ซิตี้ คืนวันพุธ
เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นในสนาม เมื่อ ซาเน่ บอกให้ มาเน่ ลงต่ำมาเพื่อเล่นกับบอลหน่อย
ทั้งหมดนั้นมันพูดถึงภาพรวมมุมกว้างของ มาเน่ ได้ตั้งแต่ที่เขาเปลี่ยนจากเมอร์ซี่ย์ไซด์มายังเมืองมิวนิค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟอร์มการเล่น, บทบาของเขาในทีม และการต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ ซึ่งความกลัวบางอย่างได้บั่นทอนพรสวรรค์ของเขา
มาเน่ วัย 31 ปี ทำไป 11 ประตูในสีเสื้อ บาเยิร์น แต่ทั้งหมดก็เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่เขาจะบาดเจ็บกระดูกน่องขาขวาซึ่งทำให้ต้องพลาดไปลุยฟุตบอลโลกที่กาตาร์กับทีมชาติเซเนกัล
ใน 9 เกมของ เสือใต้ นับตั้งแต่ที่เขาฟิตกลับคืนสู่ทีมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ มาเน่ หาตาข่ายไม่เจอเลย และการเล่นภายใต้การคุมทีมของทั้ง นาเกลส์มันน์ และ ทูเคิ่ล ที่เข้ามาแทนที่ ฟอร์มการเล่นของเขายังคงห่างจากความมั่นใจที่เคยมี
ในเกมที่ใหญ่ที่สุดของ บาเยิร์น ซึ่งพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา และทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง และ แมนฯ ซิตี้ ในแชมเปี้ยนส์ลีก มาเน่ ต้องเริ่มต้นที่ม้านั่งสำรองทั้งหมด
ที่แย่กว่านั้นคือมีการกล่าววาอาการบาดเจ็บได้ขโมยจังหวะที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเขาไป และทำให้ มาเน่ มีความมุ่งมั่นที่น้อยลงในการดวลคู่แข่งแบบตัวต่อตัว
รายงานช่วงปลายเดือนที่แล้วพูดถึงความกังวลภายในทีมงานโค้ชของ บาเยิร์น เกี่ยวกับระดับความฟิตของเาข
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ปรากฎว่า มาเน่ ได้มีปากเสียงกับ นาเกลส์มันน์ ด้วยความโกรธที่เขาไม่ค่อยได้โอกาสลงสนามต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมที่ต่างพากันตกตะลึง
ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ลงเล่นเพียง 8 นาทีจากม้านั่งสำรองในเกมชนะ เปแอสเช 2-0 และไม่นานจากนั้น นาเกลส์มันน์ ก็ถูกไล่ออกแบบสุดเซอร์ไพรส์
ไม่น่าแปลกใจที่ในแคมป์ บาเยิร์น จะแตกออกเป็นสองฟากว่า นาเกลส์มันน์ ควรได้อยู่ต่อหรือไม่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า มาเน่ อยู่ในกลุ่มที่ไล่เขา
การเปลี่ยนเจ้านายจาก คล็อปป์ ที่มีความประนีประนอมไปยัง นาเกลส์มันน์ ที่ไม่รู้จักมากกว่าพิสูจน์ให้เห็นถึงการปรับตัวที่ยากลำบาก โดย มาเน่ เหมือนต้องเริ่มต้นใหม่หมดหลังจากไม่รู้สึกสบายใจกับบทบาทของเขาในถิ่นแอนฟิลด์
มีการกล่าวกันว่า นาเกลส์มันน์ ไม่ได้รู้สึกถึงภาระหน้าที่ที่จะต้องอธิบายให้ผู้เล่นฟังว่าทำไมพวกเขาถึงถูกตัดออกจากทีม หรือทำไมแท็คติกของเขาจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง
แม้จะเปลี่ยนมาเป็น ทูเคิ่ล แล้ว สิ่งต่างๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะดีขึ้นเลย
มาเน่ ออกสตาร์ทกับทีมใหม่ในเชิงบวก โดยทำประตูได้ในการเล่นกองหน้าคู่ของ นาเกลส์มันน์ ในระบบ 4-2-2-2
แต่ นาเกลส์มันน์ ได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ในเดือนตุลาคม โดยให้ เอริก มักซิม ชูโป-โมติง เล่นเป็นกองหน้าตัวเดียว และขยับ มาเน่ ไปเล่นปีกซ้าย
เขายังคงทำประตู และสร้างสรรค์เกมได้อยู่ แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเขาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสุดช็อกในช่วง 20 นาทีแรกของเกมที่ถล่ม แวร์เดอร์ เบรเมน 6-1
มันเป็นการทำลายความฝันของ มาเน่ ที่จะไปลุยฟุตบอลโลกเพียงไม่กี่วันก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น
กับสโมสรที่ทรัพยากรชั้นเยี่ยมอย่าง บาเยิร์น การเสียตำแหน่งในทีมไม่ได้รับประกันว่าคุณจะสามารถทวงคืนได้จากผู้เล่นอย่าง คิงสเล่ย์ โกมัส หรือ ซาเน่ หรือแม้กระทั่ง อัลฟอนโซ่ เดวิส ที่สามารถเล่นในตำแหน่งของ มาเน่ ได้
หลังจาก มาเน่ หายเจ็บกลับมา เขาไม่สามารถทำประตูเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้เลย บางทีเขาอาจจะพยายามมากเกินไปในบางครั้ง
อีกปัจจัยก็คือความคาดหวังที่หนักหน่วงของสโมสระดับ บาเยิร์น ไม่ว่าจะบาดเจ็บหรือไม่ก็ตาม บาเยิร์น คาดหวังว่าจะได้อะไรจากเขามากกว่านี้ในฐานะตัวแทนของ เลวานดอฟสกี้ และนั่นอาจเป็นช่องว่างที่ใหญ่มากสำหรับการเติมเต็ม
ในการปกป้อง มาเน่ สถิติแสดงให้เห็นเพียงอัตราการทำประตูต่อเกม และค่า xG ที่ลดลงจากฤดูกาลที่แล้วกับ ลิเวอร์พูล แต่อย่างอื่นเขากลับมีค่าเฉลี่ยที่ดีกว่า
เขายิงได้แม่นยำกว่า และมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์โอกาสมากกว่าตอนที่อยู่แอนฟิลด์ในปี 2021-22 เสียอีก
นี่อาจเป็นภาพสะท้อนของธรรมชาติที่ยากกว่าของพรีเมียร์ลีก หรือไม่ก็อาจเป็นการเหนือกว่าในเกมของ บาเยิร์น
ดังนั้นการที่ มาเน่ ต่อย ซาเน่ จึงเป็นเพียงสิ่งล่าสุดที่เกิดขึ้นในฤดูกาลแสนปั่นป่วนในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า ของเขา
แม้ผู้เล่นทั้งสองรายจะกลับมาซ้อมร่วมกันแล้วหลังมีการเคลียร์ของบอร์ดบริหาร และ บาเยิร์น ก็สั่งแบน มาเน่ ซึ่งผ่านพ้นไปแล้วรวมถึงการปรับเงิน
ตอนนี้ยังคงต้องรอดูว่าอนาคตของเขากับ บาเยิร์น จะเป็นอย่างไรต่อไป และเขาจะสามารถรื้อฟื้นฟอร์มอันสุดยอดเหมือนกับที่ทำให้ ลิเวอร์พูล กลับมาได้หรือไม่ หรือบางทีโอกาสนั้นอาจไม่มีเหลือแล้วก็ได้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT