'ฟาน ไดค์'เลือกคู่
แนวรับของหงส์แดงก็ดูเป็นผู้เป็นคนรับแต่นั้น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการลงทุนด้วยวงเงินพลังช้างสารครั้งนี้ฟีดแบคที่ได้รับกลับมานั้นดีเลิศ
ความเยือกเย็น, ความเป็นผู้นำในแนวรับ, การออกบอลอย่างแม่นยำจากแนวลึก สิ่งเหล่านี้เป็นอิทธิพลของ ฟาน ไดค์ ที่ทำให้คนเก่าก่อนอย่าง โฌแอล มาติป กับ เดยัน ลอฟเรน กลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้เยอะ
แต่!!!
มันคงจะดีกว่านี้แน่ ถ้า...เขาได้คู่ขาที่เก่งกาจ และดูดีกว่าที่มีอยู่
และทั้งหมดนี้คือคู่พาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจสำหรับ ฟาน ไดค์
ไม่แน่ว่าใครคนใดคนหนึ่งในนี้อาจกลายเป็นขุลพลหลักข้างกายของเซนเตอร์แบ็กชาวดัตช์ในฤดูกาลหน้าก็เป็นได้
สเตฟาน เดอ ฟราย (ลาซิโอ)
แม้กองหลังชาวดัตช์จะตกเป็นข่าวกับ อินเตอร์ อย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้จนมีรายงานเล็ดลอดมาว่าเจ้าตัวบรรลุข้อตกลงดูดปากกับทีมงูใหญ่ล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้วหลังกำลังจะหมดสัญญากับ ลาซิโอ ในช่วงซัมเมอร์นี้
แต่ล่าสุดทั้งงูใหญ่ รวมถึงนักเตะได้ออกมาปฏิเสธว่านั่นไม่ใช่เรื่องจริง มันเลยทำให้เหล่าสโมสรอื่นๆ ยังคงมีความหวังสำหรับการล่าลายเซ็นต์ของ เดอ ฟราย มาแบบฟรีๆ
แม้เขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นกองหลังอาชีพ และเป็นคู่ขาของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในนามทีมชาติ แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือเขาสามารถเล่นเป็นมิดฟิลด์ได้ด้วย ซึ่งก็ทำแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่สมัยอยู่ในทีมเยาวชนของ วีวี สปิริต แล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่านอกจากการป้องกันอันเป็นจุดแข็ง เดอ ฟราย ยังพาบอลขึ้นมาเล่นเกมรุกได้ดีอีกด้วย
เขาก็คล้ายๆ กับเคสของ มาติป เมื่อปี 2016 ที่ย้ายมาแบบไร้ค่าตัว และหากหงส์แดงได้มาจริงๆ นี่จะเป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งนึงเลยก็ว่าได้
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ (อาแจ็กซ์)
ในขณะที่ใครหลายคนเบนเป้าไปโฟกัสที่ฟอร์มอันร้อนแรงของ เฟรงกี้ เดอ ยองก์ แต่เราอาจลืมไปว่าคู่ขาของเขาอย่าง เดอ ลิกท์ นั้นเพิ่งจะมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น และนี่คือหนึ่งในขุนพลหลักที่พาทีมทะลุถึงรอบชิงดำยูโรปา ลีก ซีซั่นที่แล้ว
ความเก่งกาจของเขามันชัดเจนถึงขนาดที่ บาร์เซโลน่า ยังล็อกเป้าให้ความสนใจ หลังจากที่โดน ดาวินซอน ซานเชซ หักอกด้วยการย้ายไปเล่นกับ สเปอร์ส ในฤดูกาลนี้แทน
แม้ผลงานในปีนี้ของ เดอ ลิกท์ จะเงียบไปหน่อย แต่สำหรับนักเตะอายุเพียงเท่านี้ เขายังสามารถเก่งได้มากกว่าอีกในอนาคต และอะคาเดมี่ของ อาแจ็กซ์ ก็ขึ้นชื่อเรื่องการปั้นดาวรุ่งเจ๋งๆ มาประดับวงการอยู่แล้ว
จุดที่เขายังต้องปรับปรุงคือเรื่องความเร็ว และความแข็งแกร่งสำหรับการเข้าปะทะ ดังนั้นหากลองได้ประสบการณ์จากการเผชิญหน้ากับพวกถึกๆ อาทิ โรเมลู ลูกากู, แอชลี่ย์ บาร์นส์ หรือ ซาโลมอน รอนดอน น่าจะทำให้เขาไปได้ไกลแน่
เขาสามารถเล่นได้ทั้งสองฝั่งของตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ และเป็นแนวรับที่เล่นสไตล์ตัวรองดักทางบอลได้เก่งเข้าขั้นเลย แต่ปัญหาคือ ลิเวอร์พูล คงไม่เจองานง่ายแน่ถ้าอยากได้ตัวไอ้หนูรายนี้มาร่วมทีม
โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (สเปอร์ส)
ดาวเตะไก่เดือยทองเป็นหนึ่งในกองหลังที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนนึงในพรีเมียร์ลีก จริงๆ เขาก็เก่งตั้งแต่สมัยที่ เซาธ์แฮมป์ตัน ยืมตัวมาจาก แอต. มาดริด เมื่อปี 2014 แล้วล่ะ
แม้จะลืมตาดูโลกที่เบลเยียม แต่เขาก็เติบโตมากับโรงเรียนที่ฮอลแลนด์ ก่อนจะก้าวมาเป็นนักเตะอาชีพกับ อาแจ็กซ์ และลงเล่นไปถึง 100 นัดเลยทีเดียว
เขามีทักษะเล่นบอลบนพื้นที่ดี และเล่นเกมรับได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งที่ สเปอร์ส นี่แหละที่ทำให้เราได้รู้ถึงความเก่งกาจของเขา
ปัจจุบันบนวัย 29 ปีเขายังคงมีปัญหาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับทีม และนั่นทำให้อนาคตกับทีมในลอนดอนเหนือยังอยู่บนความไม่แน่นอน
กับศักยภาพที่มีทำให้เขาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคนหนึ่งเลยที่หงส์แดงกำลังตามหาตัวอยู่ แต่ก็คงต้องกระอักเลือดไม่น้อยเลยกับค่าเหนื่อยที่บานเบอะ แม้ค่าตัวจะไม่สูงเท่ากับ ฟาน ไดค์ ก็ตามที
โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น)
นี่คือกองหลังที่ถูกจับตามองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมชาติเยอรมันในอนาคตมากที่สุดแล้วในตอนนี้
ถ้าจะให้มองง่ายๆ ก็คล้ายกับ จอห์น สโตนส์ ที่เป็นอนาคตของทีมชาติอังกฤษ หรือไม่ว่า ราฟาแอล วาราน กับฝรั่งเศส ด้วยรูปร่างอันสูงใหญ่ถึง 6 ฟุต 4 นิ้วนั้นเหมาะสำหรับการเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างมาก
แม้อาจจะยังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้าง แต่ด้วยพรสวรรค์รวมถึงระดับการเล่นก็น่าจะทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าทั้ง มาติป และ ลอฟเรน แน่
เบนฌาแม็ง ปาวาร์ (สตุ๊ตการ์ท)
ดาวรุ่งจากทีมม้าขาวก็อยู่ในกรณีคล้ายๆ กับ โกเมซ เนื่องจากเขาสามารถเล่นได้ทั้งแบ็กขวา และทำได้ดีในระบบเซนเตอร์ฮาล์ฟสามคนอีกด้วย
ดาวเตะวัย 21 เป็นกองหลังที่มีทักษะดี โดยจุดเด่นของเขาเมื่อสามารถแย่งบอลมาได้ก็จะพยายามผ่านขึ้นหน้าเพื่อเล่นเกมรุกอย่างรวดเร็ว
สไตล์การเล่นของเขาก็ออกแนว เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ของ เชลซี และอดีตแข้งหงส์อย่าง อัลบาโร่ อาร์เบลัว แต่ด้วยความสูงถึง 6 ฟุต 1 นิ้ว ก็ทำให้เขาเหมาะแก่การเล่นปราการหลังตัวกลางมากกว่าแข้งสเปนทั้งสองรายที่เอ่ยถึง
ถ้าหาก ลิเวอร์พูล คว้าตัวเขามาได้จริงๆ เขาก็อาจต้องใช้เวลาในการเป็นตัวสำรองมากกว่าที่จะมายืนคู่หลักของ ฟาน ไดค์ เลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็อาจจะกลายมาเป็นขุนพลหลักในแผงหลังให้กับทีมได้
โจ โกเมซ
ถ้าหงส์แดงมีการทุ่มเงินก้อนโตลากหัว วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ มาจาก เลสเตอร์ ได้จริงๆ นั่นหมายความว่าเงินทุนอาจไม่เหลือพอลงแรงกับกองหลังตัวใหม่
แต่บางทีเราอาจไม่ต้องมองทางไหนไกลในเมื่อของดีมีกับตัวอยู่แล้ว นั่นก็คือ โจ โกเมซ
โอเค ซีซั่นนี้เขาอาจประจำการเป็นแบ็กขวา แต่กับทีมชาติอังกฤษเขาเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแผงหลังสามตัว และก็ทำได้ดีมาตั้งแต่เบรกทีมชาติหนก่อนแล้วด้วย
ในสมัยที่เติบโตขึ้นมากับ ชาร์ลตัน ดาวรุ่งรายนี้ก็สร้างชื่อมาจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก และหากสั่งสมประสบการณ์มากขึ้นอีกสักหน่อยก็เชื่อว่าเขาน่าจะได้กลับมาประจำการในพื้นที่ๆ คุ้นเคยได้อย่างไม่ขัดเขิน
เจอร์เก้น คล็อปป์ เองก็คงรู้ถึงศักยภาพของเจ้าตัวอยู่แล้ว หวังว่าเขาจะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลพอที่จะสามารถยึดตัวจริงได้ในซีซั่นหน้า เหล่าเดอะ ค็อปเองก็ภาวนาให้มันเป็นแบบนั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT