ไม่ใหญ่พอ
ถึงจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระดับดาร์บี้แมตช์ แต่ก็เข้าใจถึงความสำคัญของความหวังเดียวที่เหลืออยู่ก็คือแชมเปี้ยนส์ลีกคืนวันอังคารนี้
เราไม่มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
เราตกรอบลีก คัพ ตั้งแต่หัววัน
เราไม่มีลุ้นแชมป์เอฟเอ คัพ
ทว่าเรายังมีลุ้นถ้วยบิ๊กเอียร์
เสียงหัวเราะเย้ยหยันตอน อังเดร เชฟเชนโก้ จับสลากให้ ลิเวอร์พูล ต้องชนกับ แมนฯ ซิตี้
ทุกคนต่างก็รู้ถึงความร้ายกาจของทีมเรือใบอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะยัดเยียความปราชัยคาถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่หงส์แดงหรอกหรือที่เป็นหนึ่งเดียวในลีกผู้ดีที่ตบทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้สบายหายห่วง
ผลจากเกมในเลกแรกยิ่งย้ำชัดว่าโอกาสผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกนั้นมีเกินครึ่ง
คล็อปป์ทำให้เมืองลิเวอร์พูลเต็มไปด้วยสีแดงแห่งความฮึกเหิมอีกครั้ง
แนวรุกอันจัดจ้านของทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทำงานกันอย่างร้อนแรง
แดนกลางที่มี อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ฉายแสงขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น
ส่วนแนวรับก็ถูกทดสอบตลอด 45 นาทีหลังด้วยการป้องกันอย่างแข็งแกร่งจน แมนฯ ซิตี้ ถูกบันทึกสถิติว่ายิงไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรที่เดอะ ค็อป จะฝันถึงอดีตในปี 2005 กันบ้าง
วกกลับมายังเกมลีกนัดล่าสุด หงส์แดงบุกเสมอ เอฟเวอร์ตัน ได้แบบไร้สกอร์ ในสภาพที่ต้องบอกว่ามีคะแนนติดมือก็บุญแล้ว
คล็อปป์ ปรับทีมยกใหญ่ นักเตะอย่าง เนธาเนียล ไคลน์, รักนาร์ คลาวาน, แดนนี่ อิงก์ส และ โดมินิก โซลันกี้ ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง สวนทางกับพวกดาราดังอย่าง ซาลาห์ ที่เดี้ยงเล็กน้อย, ฟีร์มีโน่ ซึ่งมีชื่อบนม้านั่ง รวมถึงฟูลแบ็กสองฝั่งก็เปลี่ยนหน้า
เห็นชื่อแล้วต้องบอกว่าขอเอามือกุมหัวแป๊บ...
แต่วัดกันจากภาพรวมตลอดเกม หงส์แดงชุดนี้ก็ไม่ได้เป็นรองทอฟฟี่ที่มาเต็มอะไรเลย เว้นแต่ว่าโอกาสเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายแทบไม่มีให้เห็นก็เท่านั้น
ว่ากันถึง ไคลน์ นี่คือเกมแรกในซีซั่นนี้ของเจ้าตัวหลังเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่แผ่นหลัง
แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษไม่ได้สัมผัสเกมการแข่งขันตั้งแต่นัดปรีซีซั่นแรกของ ลิเวอร์พูล ที่เจอ เปรสตัน เขามีโอกาสลงเล่นเกมนั้นในช่วง 45 นาทีแรก และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เราก็เพิ่งจะได้เห็นเขาวิ่งเล่นบอลบนฟลอร์หญ้าก็เกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้เมื่อวันเสาร์นี่แหละ
อย่าได้แปลกใจถ้าฟอร์มจะน่าขัดหูขัดตาเหลือเกิน คนที่เจ็บไปนานกว่า 9 เดือนมันไม่มีใครหรอกที่จะใช้เวลาเพียง 90 นาทีในการงัดผลงานระดับเทพให้เห็นได้
มันก็คล้ายๆ กับ อิงก์ส ที่จริงๆ ก็หายเจ็บมาตั้งแต่เปิดฤดูกาลแล้ว แต่เขาก็เพิ่งจะมีโอกาสลงเล่นตัวจริงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี
ก่อนหน้านี้ ในตอนที่หัวหอกวัย 25 กะรัตลงเล่นตัวจริงครั้งสุดท้ายคือหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ คล็อปป์ จะถูกแต่งตั้งเข้ามาเป็นกุนซือของ ลิเวอร์พูล เพราะหลังจากนั้นเขาก็โดนโรคเดี้ยงเล่นงานมาโดยตลอด และแม้จะกลับมาได้ก็ไปเจ็บซ้ำพักยาวต่อ พอถึงฤดูกาลนี้ที่ไม่มีปัญหารบกวน ความเก่งกาจของ อิงก์ส เหมือนโดนลักพาตัวไปไกลแล้ว
บางคนบอก อิงก์ส เคยเก่งเหรอ
???
ใช่ครับ เคย เพราะก่อนย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์ เจ้าตัวยิงระเบิดกับทีมเล็กๆ อย่าง เบิร์นลี่ย์ จนมีโอกาสถึงขั้นติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่มาแล้ว
จะว่าไปพวกตัวสำรองที่ได้โอกาสในนัดนี้ทั้ง 4 คน ดูจะมี คลาวาน ที่เล่นแบบเสมอตัวแค่คนเดียวกับตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่ที่เหลือต้องบอกว่ายังไม่ผ่าน และไม่น่าจะหวังพึ่งพาได้ถ้าเหล่าตัวหลักจำต้องไปพบหมอศิริราช
รายของ โซลันกี้ ที่ทรงดี มีแววเด่นตอนเล่นเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดซีซั่น จนถึงตอนนี้เกือบจะจบฤดูกาลแล้วเขาก็ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกในสีเสื้อหงส์แดงได้เลย การเป็นกองหน้าต่อให้เล่นดีแค่ไหน ถ้าไม่มีประตูแล้วใครจะจำ
แต่ คล็อปป์ เองก็ค่อนข้างเข้าใจถึงสิ่งที่ได้เห็นหลังพวกแข้งกลุ่มนี้ไม่ค่อยได้ลงเล่นร่วมกันเท่าที่ควร
"พวกเขาไม่ได้เล่นด้วยกันบ่อยนัก" กุนซือเมืองเบียร์กล่าวหลังเกม
"ดังนั้นมันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะรู้อย่างแน่นอน - เมื่อฉันไปทางซ้าย นายจะไปทางขวา - หรืออะไรก็ตาม นั่นมันยาก"
"ผมมีความสุขมากนะ อิงซี่อาจเริ่มต้นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของเกมมากไปหน่อยในการโตเถียงกับโคลแมน แต่ภาพรวมเขาผ่านมาได้อย่างดี มันทำให้ผมก็สบายใจกับเรื่องนั้น"
"จริงอยู่วันนี้ไม่ใช่เกมที่ดีที่สุดของแดนนี่ แต่สิ่งที่เห็นคือพัฒนาการสภาพร่างกาย เขาสามารถเล่นเกมระดับสูงได้"
"เป็นเรื่องดีที่มีเนธาเนียลกลับมาหลังจาก 9 เดือน มันแสดงถึงคุณภาพตามธรรมชาติของเขาในตำแหน่งนั้น ผมก็มีความสุขจริงๆ กับฟอร์มการเล่น มันรู้สึกดี เซนเตอร์ฮาล์ฟก็แข็งแกร่ง"
"ส่วนคลาวานนั้นนานแค่ไหนแล้วที่เขาเล่นแบ็กซ้าย? ผมไม่ทราบเลย มันนานมาแล้ว ก่อนที่เขาจะย้ายมาเยอรมันซะอีก"
เอาเป็นว่าหงส์แดงของเราตอนนี้หากตัวหลักพร้อมหน้าจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก เกมรุกจัดจ้านไม่ต้องพูดถึง ส่วนหลังบ้านพัฒนาขึ้นเยอะนับแต่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลายเป็นแข้งค่าตัว 75 ล้านปอนด์
แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าขุมกำลังของหงส์แดงยังไม่ใหญ่พอ ตัวสำรองไม่สามารถทดแทนตัวจริงได้เลยแม้แต่น้อย เพราะนอกจาก 4 คนที่ออกสตาร์ทในนัดล่าสุดแล้ว ที่ม้านั่งสำรองปรากฎชื่อของ เคอร์ติส โจนส์, คอเนอร์ มาสเตอร์สัน และ ราฟาเอล กามาโช่
ใครวะ!!!
นี่คือจุดที่ คล็อปป์ จะต้องแก้ไข และพัฒนาขึ้นหากฤดูกาลหน้าวาดฝันว่าจะไปต่อตีกับพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด ในการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก
แต่กว่าจะถึงตอนนั้น
อังคารนี้ช่วย 'โล้สำเภา' ให้กูเฮดังๆ ก่อนนะโว้ยยย...
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT