เมื่อตำนานกลับมาคุม!
ผู้จัดการทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และตำนาน ลิเวอร์พูล อย่าง ชาบี อลอนโซ่ ได้รับการกล่าวขานว่าจะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ประกาศอำลาถิ่นแอนฟิลด์แบบสุดช็อกหลังจบฤดูกาลนี้
ดาวเตะแชมป์ฟุตบอลโลกชาวสเปนมีความสุขตลอดช่วงเวลากับ หงส์แดง โดยช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 5 ในความทรงจำเมื่อปี 2005 ส่งผลให้เขาเข้าไปอยู่ในสถานะเดียวกับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล
หากเขากลับมายังถิ่นแอนฟิลด์จริง แน่นอนว่าเขาไม่ใช่ตำนานคนแรกที่กลับสู่ทีมที่เคยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาก่อน หลายปีมานี้สโมสรในพรีเมียร์ลีกเลือกที่จะจ้างไอคอนสโมสรเข้ามาคุมทัพ ซึ่งผลงานก็ออกมาแบบหลากหลายมาก
เคนนี่ ดัลกลิช - ลิเวอร์พูล
เคนนี่ ดัลกลิช คือตำนานตลอดกาลในฐานะผู่เล่นและผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล
กองหน้าชาวสกอตแลนด์ ลงสนามไป 515 นัด ทำไป 172 ประตู และร่วมคว้าแชมป์ลีกอังกฤษ 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย และยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย ตลอดระยะเวลา 13 ปี ในเมอร์ซี่ย์ไซด์
เขากลายเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ในปี 1985 และคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ 3 สมัย และเอฟเอ คัพ 2 สมัย ก่อนลาออกในปี 1991
ดัลกลิช กลับมา หงส์แดง หลังห่างหายจากการคุมทีมนานกว่าทศวรรษในเดือนมกราคม ปี 2011 เพื่อแทนที่ รอย ฮ็อดจ์สัน และพาทีมไปสู่ผลงานที่ดีขึ้น จากนั้นก็เซ็นสัญญา 3 ปี ในฐานะผู้จัดการทีมฐาวรเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล
มิเกล อาร์เตต้า - อาร์เซน่อล
มิเกล อาร์เตตา ใช้เวลา 5 ปี กับ อาร์เซน่อล ในฐานะผู้เล่นและเป็นกัปตันทีมตอนสโมสรคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ในปี 2014 ซึ่งนั่นคือแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกของเขาในฟุตบอลอังกฤษ อาร์เตต้า ถูกตั้งให้เป็นกัปตันทีมในปีเดียวกัน และลงเล่นไป 150 นัด ทำไป 16 ประตู ให้ อาร์เซน่อล ก่อนที่จะแขวนสตั๊ด
หลังแขวนเกือกในปี 2016 อาร์เตต้า เข้าสู่งานโค้ชและเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนฯ ซิตี้ กอนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 แทนที่ อูไน เอเมรี่
อาร์เตต้า นำ ปืนใหญ่ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ปี 2020 และนำปรัชญาของเขาไปใช้ที่สโมสร และนำ อาร์เซน่อล ก้าวไปจบรองแชมป์พรีเมียร์ลีก และได้ตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยพวกเขารั้งจ่าฝูงมาเกือบจะทั้งฤดูกาล
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ - เชลซี
ดิ มัตเตโอ ลงเล่นให้ เชลซี 6 ฤดูกาล และทำประตูสำคัญในเกมนัดชิงบอลถ้วย 3 รายการที่ทีมคว้าแชมป์ คือเอฟเอ คัพ ปี 1997 และ 2000 และลีก คัพ ในปี 1998
ดิ มัตเตโอ เป็นกุนซือ มิลตัน คีย์นส์ และ เวสต์บรอมวิช ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยของ อังเดร วิลลาช-โบอาช ที่ เชลซี เมื่อมิถุนายน ปี 2011
เมื่อ วิลลาช-โบอาช ถูกไล่ออกในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 ดิ มัตเตโอ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือชั่วคราวจนกระทั่งจบฤดูกาล
นายใหญ่ชาวอิตาลีสร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้เล่นซีเนียร์ของสโมสรที่รู้สึกว่าถูกด้อยค่าในยุคของ วิลลาช-โบอาช และพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และแชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรก อย่างน่าเหลือเชื่อ
แฟร้งค์ แลมพาร์ด - เชลซี
แฟร้งค์ แลมพาร์ด คือหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ เชลซี โดยลงเล่นไป 648 นัด ทำได้ 211 ประตู ตลอด 13 ปีที่อยู่กับสโมสร เขาร่วมคว้าแชมป์ 13 ครั้ง และเป็นกัปตันทีม สิงห์บลูส์ ชุดโด่งดังที่สุดที่เอาชนะในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2012
หลังประสบความสำเร็จในฐานะกุนซือ ดาร์บี้ ที่พาทีมเข้าถึงนัดชิงเพลย์ออฟเลื่อนชั้นของแชมเปี้ยนชิพ แลมพาร์ด ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม เชลซี ในเดือนกรกฎาคม ปี 2019
ในฤดูกาลแรกที่คุมทีม แลมพาร์ด พา สิงห์บลูส์ จบอันดับ 4 และเข้าถึงรอบชิงเอฟเอ คัพ
ซีซั่นถัดมา แลมพาร์ด ได้นักเตะใหม่ราคาแพงหลายคนในช่วงซัมเมอร์ ปี 2020 แต่ เชลซี หล่นไปรั้งอันดับ 9 ของตารางหลังจากฟอร์มอันย่ำแย่ โดยเขาถูกไล่ออกในเดือนมกราคม ปี 2021
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา - แมนฯ ยูไนเต็ด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเวลา 11 ปี โดยลงสนามไป 366 นัด ทำได้ 126 ประตู
ดาวเตะชาวนอร์เวย์คว้า 11 แชมป์กับ ผีแดง โดยเป็นคนพังประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 1999 พาทีมคว้าเทรเบิลแชมป์ประวัติศาสตร์
หลังจากผ่านการคุมทีม โมลด์ และ คาร์ดิฟฟ์ โซลชา ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมขัดตาทัพในฤดูกาลที่เหลือของ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 หลังการถูกไล่ออกของ โชเซ่ มูรินโญ่
โซลชา นำทีมไปสู่ผลงานที่ยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลตอบแทนด้วยสัญญาฐาวร 3 ปี เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019
เขายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยนำ ผีแดง จบอันดับ 3 และอันดับ 2 ในอีก 2 ซีซั่นถัดมา และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก ปี 2021 ด้วย
อลัน เชียร์เรอร์ - นิวคาสเซิ่ล
อลัน เชียร์เรอร์ ใช้เวลา 10 ซีซั่นกับ นิวคาสเซิ่ล โดยทำไป 206 ประตู จากการลงเล่น 405 นัด และกลายเป็นดาวยิงสูงสุดในพรีเมียร์ลีกที่จำนวน 260 ประตู ซึ่งนับรวมตั้งแต่ที่เล่นกับ เซาธ์แฮมป์ตัน และ แบล็คเบิร์น ด้วย
แม้จะยังไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการคุมทัพ แต่ เชียร์เรอร์ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวของ สาลิกาดง ในเดือนเมษายน ปี 2009 ขณะที่ โจ คินเนียร์ กำลังฟื้นตัวจากการผ่าตัดหัวใจ
กองหน้าระดับตำนานต้องเผชิญหน้ากับงานที่ยากลำบากเพื่อช่วยให้ทีมของเขารอดพ้นการตกชั้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถช่วย เดอะ แม็กพายส์ ได้ และสุดท้ายทีมก็ตกชั้นไปยังแชมเปี้ยนชิพ โดยสโมสรเลือกดึง คริส ฮิวจ์ตัน มาเป็นกุนซือในช่วงซัมเมอร์
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT