เสน่ห์ที่มาพร้อมยาขม

อดีตผู้จัดการทีม เชลซี, บาเยิร์น มิวนิค และ เปแอสเช ตกเป็นที่จะเป็นกุนซือคนถาวรคนใหม่ของทีมชาติอังกฤษ

ทูเคิ่ล ชาวเยอรมันจะกลายเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษคนที่สามต่อจาก สเวน-โกรัน อีริคส์สัน และ ฟาบิโอ คาเปลโล่

ตอนนี้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการพยายามเป็นโค้ชต่างชาติคนที่สองที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหรือยูโร ต่อจาก อ็อตโต้ เรห์ฮาเกล กับ กรีซ

ทูเคิ่ล วัย 51 ปี ถูกบรรยายว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์ เป็นโค้ชที่น่าเหลือเชื่อ แต่ก็สร้างความแตกแยกได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยคือ ทูเคิ่ล เป็นผู้ชนะ โดยเขาคว้าแชมป์ลีกในเยอรมันและฝรั่งเศส และถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เชลซี

เขาอยากกลับมายังอังกฤษนานแล้ว หลังจากคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ระหว่างเดือนมกราคม ปี 2021 ถึงกันยายน ปี 2022 กับสโมสรในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

ทูเคิ่ล เชื่อว่า อังกฤษ ปฏิบัติต่อเขาด้วยความอบอุ่นและความเสน่หามากกว่าในเยอรมันบ้านเกิดของเขา

เมื่อเขาตอบโต้กับนักข่าวอังกฤษ แม้กระทั่งในช่วงดำรงตกำแหน่งล่าสุดในฐานะกุนซือ บาเยิร์น เขามักจะดูเป็นมิตรมากกว่า บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่ค่อยกังวลเรื่องการหาคำพูดที่ถูกต้องเมื่อต้องพูดภาษาที่สองของเขา

ไม่ว่าจะอย่างไร ความปรารถนาของ ทูเคิ่ล ที่จะกลับไปอังกฤษเกิดขึ้นจริงแล้ว หลังจากสมาคมฟุตบอลหันไปหาเขาเพื่อนำมาแทนที่ ลี คาร์สลี่ย์ กุนซือชั่วคราว

เมื่อพูดถึงความโดดเด่นในสายตาสื่อและความเป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ

ด้วยความมุ่งมั่นของสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่จะเซ็นสัญญากับผู้จัดการทีมระดับท็อปของวงการ ทูเคิ่ล จึงถูกมองว่าเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจ

หลายคนในอังกฤษจำวิธีที่เขาพา เชลซี คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2021 ได้ ซึ่งเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในรอบชิงชนะเลิศ เพียง 4 เดือนหลังจากรับช่วงต่อทีมที่มีปัญหาจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน เมื่อ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมคนก่อนต้องยุติอำนาจควบคุมสโมสรเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทูเคิ่ล ก็พบว่าตัวเองอยู่ในบทบาทกึ่งโฆษกของ สิงห์บลูส์ ทันที และเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างน่าชื่นชม

"ในช่วงเวลาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทูเคิ่ล ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมกับสื่ออังกฤษ ทำงานร่วมกับพรสวรรค์จากทีมอะคาเดมี่ของสโมสรได้ดี และเป็นที่นิยมในหมู่แฟนๆ" นิซาร์ คินเซลล่า ผู้สื่อข่าวฟุตบอลของ บีบีซี กล่าว

"อดีตนักเตะหลายคนยังคงภักดีและเป็นมิตรกับ ทูเคิ่ล แต่สไตล์การเล่นที่เน้นปฏิบัติจริง บางครั้งก็ทำให้ถูกเสียงวิจารณ์เยอะ"

ในทางกลับกัน ความพยายามล่าสุดของ ทูเคิ่ล ที่ บาเยิร์น กลับไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

เขาและผู้เล่นหลายคนในทีมดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดระยะเวลา 14 เดือนที่คุมทีม

เรื่องนี้ได้รับการตอกย้ำอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ โดย แว็งซ็องต์ ก็องปานี นายใหญ่คนใหม่ของ เสือใต้ และผู้สืบทอดของ ทูเคิ่ล ได้รับการยกย่องอย่างมากจากวิธีการจัดการห้องแต่งตัวและจุดประกายไฟใหม่ในมิวนิค

ไม่ว่าความล้มเหลวเล็กน้อยของ บาเยิร์น ในฤดูกาลที่แล้วซึ่งจบลงด้วยการไร้ถ้วยรางวัลครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ จะเป็นความผิดของ ทูเคิ่ล หรือไม่ แน่นอนว่าผู้จัดการทีมชาวเยอรมันผู้นี้อาจเป็นบุคคลที่สร้างความแตกแยกได้

บางคนว่า ทูเคิ่ล เป็นนักคิดชั้นยอด แต่ดันหงุดหงิดง่าย

เขาสร้างความประทับใจด้วยวิธีการที่เขาวิเคราะห์ฟุตบอลและคิดเกี่ยวกับเกม แต่บางครั้งก็ดูหงุดหงิดง่าย

การนำเสนอในปี 2012 ซึ่งต่อมากลายเป็นวิดีโอไวรัลเรื่อง "Rule Breaker" แสดงให้เห็นว่า ทูเคิ่ล อธิบายถึงวิธีที่เขาและทีมงานของเขาทำงานเพื่อเปลี่ยน ไมนซ์ สโมสรในบุนเดสลีกา ให้กลายเป็นทีมที่เน้นเกมรุกน่ากลัว

เขาอธิบายว่าเขาและผู้ช่วยของเขาจะวิเคราะห์คู่แข่งแล้วปรับแนวทางการเล่นของทีมจากสัปดาห์หน้าไปสู่อีกสัปดาห์

ไมนซ์ ประสบความสำเร็จอย่างน่าเหลือเชื่อและน่าตื่นเต้นมาก โดยผ่านเข้าไปเล่นยูโรปา ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมมสรหลังจากซีซั่น 2010-11 ที่น่าประทับใจ แต่ไม่กี่ปีต่อมา ทูเคิ่ล และสโมสรก็เกิดความขัดแย้งกัน

"เขาไม่ใช่คนง่ายๆ หรือจัดการอะไรง่ายๆ แต่ผมเชื่อว่าโค้ชที่ดีที่สุดทุกคนมีความซับซ้อน" คริสเตียน ไฮเดิล ผู้บริหารและผู้อำนวยการกีฬาของ ไมนซ์ กล่าวกับ บีบีซี เมื่อปี 2021

"ความซับซ้อนหมายความว่าพวกเขายังแข็งแกร่งอีกด้วย พวกเขาเรียกร้องจากคนรอบข้าง เรียกร้องจากนักเตะตั้งแต่เข้าจรดค่ำ และด้วยเหตุผลนั้น พวกเขาจึงเป็นโค้ชที่น่าเหลือเชื่อ"

ทูเคิ่ล อาจจะเหมาะกับฟุตบอลทีมชาติมากกว่ารึเปล่า

???

สิ่งที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของเขาในฐานะโค้ชบางครั้งอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่เคยไปถึงจุดพีคในฐานะนักเตะ

ที่จริงแล้ว ทูเคิ่ล ต้องรีไทร์ตัวเองตั้งแต่อายุเพียง 24 ปี

จากนั้นเขาก็เข้าเรียนหลักสูตรบริหารธุรกิจและทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์เพื่อหารายได้เสริม

เขาเริ่มเข้ารับงานโค้ชและได้รับโอกาสสำคัญจาก ราล์ฟ รังนิก ในการเป็นโค้ชระดับเยาวชนให้กับ สตุ๊ตการ์ท

ต่อมา เขาก็ช่วยเหลือ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ นายใหญ่ทีมชาติเยอรมันคนปัจจุบัน ซึ่งเคยเล่นในทีมสำรองของ เอาก์สบวร์ก ภายใต้การคุมทีมของ ทูเคิ่ล และจำต้องแขวนสตั๊ดตั้งแต่อายุยังน้อย พร้อมการสนับสนุนให้เขากลายเป็นโค้ช

"โธมัส เป็นคนที่โดดเด่น และเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในสนาม เขาทุ่มเทสุดตัว แต่บางครั้งเขาก็มีเพื่อนแค่ไม่กี่คนในหมู่เพื่อนร่วมทีม เพราะเขาเข้มงวดและเรียกร้องมากเกินไป ซึ่งไม่ถูกใจผู้เล่นบางคน" ไฮเนอร์ ชูห์มันน์ อดีตโค้ชเยาวชนของ เอาก์สบวร์ก กล่าว

"ใช่...แต่" นี่อาจเป็นคำที่อธิบาย ทูเคิ่ล ได้ดีที่สุด

เขาประสบความสำเร็จและมีความสุขในช่วงเวลาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวางแผนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ถึงขนาดถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนึ่งในไอดอลเมื่ออดีตของเขาอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แต่ในขณะเดียวกัน ทูเคิ่ล ก็มักจะทะเลาะกับผู้เล่นและผู้บริหารระดับสูง หรือพูดจาเรียกร้องจากผู้บริหารในลักษณะที่ไม่ค่อยสุภาพ

"ทูเคิ่ล เป็นคนที่มีเสน่ห์ และเป็นนักวางแผนที่ยอดเยี่ยมมาก สามารถสร้างความบันเทิงและอารมณ์ขันได้" ราฟาเอล โฮนิกสไตน์

"ในขณะเดียวกัน เขาอาจจะเข้มงวดกับผู้เล่นของเขานิดหน่อย ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกใจเสมอไป"

บางทีโลกของฟุตบอลทีมชาติที่วุ่นวายน้อยกว่า ซึ่ง ทูเคิ่ล จะไม่ต้องตอบกับสื่อในทุกๆ วัน และไม่ต้องติดต่อกับนักเตะตลอดเวลา แต่สามารถวิเคราะห์นักเตะและแนวทางการเล่นได้ดีกว่า อาจเหมาะกับบุคลิกของเขามากกว่า

แต่ตอนนี้เขาถูกจ้างแล้ว เอฟเอ ต้องยอมรับว่า ทูเคิ่ล อาจมีความต้องการบางอย่างแม้แต่ความแปลกประหลาดบางอย่าง และยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็นด้วย