:::     :::

ไหวป่ะ...พาเลซ

วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
213
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจาก คริสตัล พาเลซ ถล่ม แอสตัน วิลล่า 5-0 ในวันสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว แม้แต่ผู้จัดการทีมอย่าง โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ยังบอกว่าซัมเมอร์อาจมาถึงในช่วงเวลาที่ผิดไปหน่อย

พวกเขายังไม่ชนะใครเลยในพรีเมียร์ลีกนับจากนั้นเป็นต้นมา

ในช่วง 155 วันหลังจากชัยชนะครั้งนั้น ซึ่งเป็นชัยชนะนัดที่ 6 จาก 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาลอันน่าจดจำ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ พาเลซ

- ขายตัวรุกและหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของทีมออกไป

- ทำได้เพียง 5 ประตู น้อยที่สุดในลีก

- ไมชนะเลยแม้แต่เกมเดียว ทำให้พวกเขาออกสตาร์ทฤดูกาลแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1992-93

- จมอยู่ในโซนตกชั้น

คำถามคืออะไรที่เปลี่ยนแปลงไป?

การได้ 19 จาก 21 คะแนนที่เป็นไปได้เมื่อจบฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงชัยชนะที่น่าจับตามองเหนือ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า แน่นอนว่าความแตกต่างในซีซั่นนี้ชัดเจนมาก

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน พวกเขามีโอกาสยิงเข้ากรอบต่อเกมน้อยลง, สร้างสรรค์โอกาสสำคัญน้อยลง และสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งน้อยลง

ในทางกลับกัน พวกเขาเผชิญหน้ากับการถูกยิงตรงกรอบต่อเกมมากขึ้น, ก่อความผิดพลาดจนนำไปสู่การถูกยิงมากขึ้น และก็ไม่ชนะในการดวลเยอะขึ้น

มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยเมื่อทั้งอย่างช่วงเวลาถูกนำมาเปรียบเทียบกัน

ดูเหมือนว่า พาเลซ จะมีการเพรสซิ่งที่ดุดันน้อยลงในฤดูกาล 2024-25 โดยเฉลี่ยเพียง 10.4 ครั้งต่อเกม เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้วช่วงที่ กลาสเนอร์ เข้ามาคุม 15.1 ครั้งต่อเกม มันส่งผลให้การฉกฉวยบอลกลับมาลดลงจาก 10.3 เหลือแค่ 5.3 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ค่า xG ของพวกเขา ในแต่ละเกมก็แสดงให้เห็นว่าผลงานของพวกเขาในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้วไม่ได้สอดคล้องกับฟอร์มอันยอดเยี่ยมเสมอไป

ในทางกลับกัน สถิติยังแสดงให้เห็นว่าผลงานของพวกเขาในซีซั่นนี้สมควรได้รับอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่

ใน 13 เกมภายใต้การคุมทีมของ กลาสเนอร์ ในฤดูกาล 2023-24 พวกเขามีผลงานที่ดีเกินค่า xG ถึง 7.85 ขณะที่ซีซั่นนี้พวกเขามีผลงานต่ำกว่าค่า xG 4.32

ตลอดทั้งฤดูกาล แฟนบอล พาเลซ หวังว่าค่าเฉลี่ยจะออกมาดี ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะเริ่มเก็บชัยชนะที่สมควรได้รับเพื่อก้าวข้ามจากปัญหาที่เป็นอยู่

แน่นอนว่ามันมีคำถามตามมาว่าการเสียทั้ง ไมเคิ่ล โอลิเซ่  และ โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ทำให้เกิดความแตกต่างใช่ไหม?

พาเลซ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ปัดเป่าความสนใจในตัวนักเตะที่ดีที่สุดของพวกเขา แต่ในขณะที่ เอเบเรชี่ เอเซ่ และ มาร์ค เกฮี ยังอยู่กับทีม พวกเขาไม่สามารถรั้ง โอลเซ่ ไว้ได้

บาเยิร์น มิวนิค ทุ่มเงินราว 50 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขาไปจากลอนดอนใต้ และมันก็พิสูจน์ว่าไม่มีใครแทนที่เขาได้

ปีกวัย 22 ปี ทำไป 10 ประตู จากการลงเล่น 19 นัดในลีกให้ พาเลซ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมจบฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง อันที่จริง กลาสเนอร์ คุมทีมโดยไม่มี โอลิเซ่ เอาชนะได้แค่เกมเดียว คือนัดถล่ม เบิร์นลี่ย์ ที่เหลือ 10 คน 3-0

"โอลิเซ่ คือการสูญเสียครั้งใหญ่ ดูสิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ที่ บาเยิร์น มิวนิค และคุณภาพที่เขามีสิ" อารอน แรมซี่ย์ อดีตกองกลาง อาร์เซน่อล กล่าวกับ สกาย สปอร์ต

"เขาอาจจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่ออกมาจาก พาเลซ"

"ผลกระทบที่เขามีต่อทีมเมื่อปีที่แล้วนั้นน่าทึ่งมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคนมาแทนที่เขา"

แม้การจากไปของ อันเดอร์เซ่น ผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กที่ย้ายซบ ฟูแล่ม จะไม่ได้รับความสนใจเท่ากับการย้ายของ โอลิเซ่ แต่ก็ถือว่าส่งผลกระทบใหญ่หลวงพอๆ กัน

พวกเขาเสียเพียง 14 ประตู จาก 13 นัด ภายใต้การคุมทีมของ กลาสเนอร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยดาวเตะวัย 28 ปี ถือเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับอันเหนียวแน่นของ ดิ อีเกิ้ลส์ ขณะที่ซีซั่นนี้พวกเขาเสียไปแล้วถึง 11 ประตู

ในทั้งสองด้านของสนาม พาเลซ ไม่ได้เป็นทีมที่เหมือนกับเมื่อ 6 เดือนก่อน

"เมื่อคุณเสียกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งและกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งออกไป ไม่ว่าคุณจะจัดระบบอย่างไรในฐานะผู้จัดการทีม มันก็ยากที่จะหาคนมาแทนที่คนที่มีคุณภาพเหล่านี้" เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล กล่าวเสริม

มันชัดเจนแล้วในตอนนี้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากสุดๆ ของพวกเขา

หลังจากแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1 ซึ่งมาจากความผิดพลาดของ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูที่ปล่อยให้ลูกยิงไกลของ คริส วู้ด เข้้าประตูไป กลาสเนอร์ กล่าวว่า "มันเป็นเวลาที่ต้องกอดนักเตะ ไม่ใช่เตะพวกเขา"

อดีตกุนซือ โวล์ฟสบวร์ก และ แฟร้งค์เฟิร์ต ปฏิเสธที่จะโทษ เฮนเดอร์สัน สำหรับความผิดพลาดในครึ่งหลังของเขา โดยกล่าวเสริมว่า "เราต้องการความมั่นใจ"

"บอกตามตรง มันยากมากในตอนนี้" เขากล่าวกับ บีบีซี

"เราเคยมีช่วงเวลาที่ดีกว่านี้ในชีวิตร่วมกัน เราต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อสู้ต่อไป และเตรียมพร้อมสำหรับเกมถัดไป"

"มันไม่ใช่เรื่องของแท็คติกเพียเท่านั้น ผมไม่เห็นปัญหาเกี่ยวกับแท็คติกเลย บ่อยครั้งที่เราอยู่ในพื้นที่สุดท้ายและตัดสินใจผิดพลาด นี่เป็นเพราะการขาดความมั่นใจ"

"เราเองก็เป็นมนุษย์"

คำถามสำคัญก็คือ พาเลซ จะเอาตัวรอดจากการตกชั้นได้หรือไม่?

นี่เป็นเพียงครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร คริสตัล พาเลซ ที่พวกเขาไม่ชนะเลยจาก 8 เกมแรกในลีก โดยครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1992-93 ซึ่ง พาเลซ ตกชั้นในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายจนโลกแตกของ ดิ อีเกิ้ลส์ เพราะมีทีมอื่นๆ ที่เคยอยู่ในจุดนี้มาก่อนและอยู่รอดได้

มีถึง 10 ครั้งของทีมที่ไม่สามารถคว้าชัยได้เลยจาก 8 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก และรอดพ้นการตกชั้นมาได้

บอร์นมัธ มีสถิติที่เหมือนกับ พาเลซ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของฤดูกาลที่แล้ว นั่นคือไม่ชนะเลย เสมอ 3 แพ้ 5 แต่พวกเขาจบซีซั่นด้วยอันดับที่ 12

นั่นยังเป็นหนึ่งใน 13 ครั้งของทีมที่สามารถหลีกเลี่ยงการตกชั้นได้ หลังจากเก็บได้เพียง 3 คะแนน จาก 8 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก

พาเลซ เองก็มีสถิติทำแบบนั้นได้ถึง 2 ครั้งมาแล้ว ในปี 2014 และ 2018


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด