สลักจิต!
ตอนนี้แฟนๆ ต่างรู้สึกโล่งใจขึ้น หลังจากที่หนึ่งในนักเตะที่ไม่มีใครแตะต้องได้ของสโมสรยุติความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเขาด้วยการจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่ระยะยาว
สัญญาฉบับใหม่ของดาวเตะวัย 23 ปี เป็นการแสดงศรัทธาของสโมสรสำหรับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขาในฤดูกาลที่แล้ว และเป็นสัญญาณของความตั้งใจที่จะรักษาทีมไว้โดยมี กอร์ดอน, อเล็กซานเดอร์ อีซัค กองหน้า และ บรูโน่ กีมาไรช์ กองกลางรวมอยู่ด้วย
"ผมแค่คิดว่าสโมสรอยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยม" กอร์ดอน กล่าว
"ตั้งแต่มีการเทคโอเวอร์ ทุกๆ อย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมกับผู้จัดการทีม (เอ็ดดี้ ฮาว) เข้ากันได้อย่างลงตัวในแง่ของสไตล์การเล่น ผมชอบที่นี่"
"ผมมีความสุขมากที่นี่ ผมชอบอยู่ที่นี่ ทีมนี้เหมาะกับผมมาก ผมมาที่นี่เพื่อคว้าถ้วยรางวัล เรื่องราวสั้นๆ ก็คือ เราต้องคว้าถ้วยแชมป์ให้ได้"
"การคว้าถ้วยรางวัลที่นี่คงจะเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมาก เพราะแฟนๆ รอคอยกันมานานมาก การได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ทำได้สำเร็จที่สุดคือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของผม"
แต่...เขาเกือบที่จะย้ายออกจากทีมมาแล้วในช่วงซัมเมอร์
การที่ นิวคาสเซิ่ล ไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลใดๆ ได้เลยถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก โดยหนล่าสุดที่พวกเขามีถ้วยแชมป์ในประเทศต้องย้อนไปเกือบ 70 ปีที่แล้ว เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ โดยชนะ แมนฯ ซิตี้ ในรอบชิงชนะเลิศ ปี 1955
กอร์ดอน ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มายัง สาลิกาดง ด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคม ปี 2023 และทีมก็มีโอกาสได้สร้างความรุ่งโรจน์เพียงแค่เดือนถัดมา แต่กลับต้องแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เขาบอกว่าเขารู้สึกแย่มากจากการที่เขาออกจากถิ่นกูดิสัน พาร์ค แบบจบไม่สวย และ ทอฟฟี่ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องขอบคุณอะไรเขาเลย แถมในช่วงแรกก็ต้องดิ้นรนเรื่องฟอร์มการเล่นกับสโมสรแดนอีสาน โดยทำประตูไม่ได้เลยจาก 16 นัดที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาลนั้น
อย่างไรก็ตาม ทีมของ ฮาว ได้กลับมาเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการจบอันดับที่ 4 ทำให้ กอร์ดอน สามารถแสดงความสามารถของเขาในการแข่งขันชั้นนำระดับยุโรปได้
แม้ว่าพวกเขาจะจบด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม แต่ฤดูกาลนั้นก็ถือเป็นความสำเร็จส่วนบุคคลของเขา โดยเขาทำไป 12 ประตู และ 11 แอสซิสต์ จาก 48 เกม
นับตั้งแต่ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มายัง นิวคาสเซิ่ล ผลงานการทำประตูและแอสซิสต์ของเขาเพิ่มขึ้นจาก 0.27 เป็น 0.44 ต่อเกม ในขณะที่จำนวนโอกาสที่ของสร้างได้ทุกๆ 90 นาที ก็เพิ่มขึ้นจาก 1.25 เป็น 1.65
หลังจากการประกาศข้อตกลงฉบับใหม่ ฮาว กล่าวว่า กอร์ดอน "เติบโตขึ้นทั้งในฐานะผู้เล่นและฐานะบุคคล" ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล และเขายังคง "พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเก่งแค่ไหนบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
แม้ว่าฤดูกาลเต็มซีซั่นแรกของเขาในไทน์ไซด์จะยอดเยี่ยม แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของเขาจะตกอยู่ในความคลุมเครือเมื่อช่วงซัมเมอร์ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า กอร์ดอน อาจจะต้องออกจากทีมเพื่อช่วยให้สโมสรรักษาสมดุลทางการเงิน
ปัญหาของ นิวคาสเซิ่ล กับกฎผลกำไรและความยั่งยืน (พีเอสอาร์) ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องขายนักเตะในทีมก่อนเส้นตายวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาเพื่อให้ตัวเองยังเป็นไปตามกฎ เมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ สโมสรก็พบว่าจำเป็นต้องพิจารณาข้อเสนอสำหรับ อีซัค, กีมาไรช์ หรือ กอร์ดอน
เขาเป็นแฟนบอล ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่เด็กแม้ว่าจะเติบโตมาจากทีมอะคาเดมี่ของ เอฟเวอร์ตัน โดย กอร์ดอน เกือบที่จะฝันเป็นจริง เมื่อ นิวคาสเซิ่ล เรียกร้องข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์ จาก หงส์แดง รวมถึงการแนบ จาเรลล์ ควอนซาห์ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง
แต่ ลิเวอร์พูล ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว และ นิวคาสเซิ่ล ก็กันไปทำธุรกิจกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แทน ด้วยการขาย เอลเลียต แอนเดอร์สัน กองกลางดาวรุ่งวัย 21 ปี ออกไปในราคา 35 ล้านปอนด์ และปล่อยปีกอย่าง ยานคูบา มินเตห์ วัย 20 ปี ไปให้ ไบรท์ตัน ในราคา 30 ล้านปอนด์
แม้พวกเขาจะเสียดาวรุ่งอนาคตไกลสองคนไป แต่ข้อตกลงดังกล่าวก็หมายความว่าพวกเาขสามารถชดเชยส่วนต่างในกฎการเงินได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือยังสามารถรักษา กอร์ดอน ไว้กับทีมต่อไปด้วย
"ความทรงจำที่จะอยู่ในในผมตลอดไป"
มีรายงานว่า กอร์ดอน ดูไม่เป็นปกติเลยจากการที่เขาอาจจะได้ย้ายไปยัง ลิเวอร์พูล แต่สัญญาใหม่จะช่วยปัดเป่าความสนใจจากสโมสรอื่นออกไป
เขาจักรยานล้มขณะอยู่ในแคมป์ทีมชาติอังกฤษที่ลุยยูโร 2024 นั่นทำให้ใบหน้าและมือของเขามีบาดแผลที่หนักเอาการ และมันทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติไม่ประทับใจ
แม้ว่าพลพรรค สิงโตคำราม จะไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่เขาก็ได้ลงเล่นเพียงแค่ 2 นาทีในทัวร์นาเมนต์นั้น แต่กลับได้เป็นตัวจริงทั้ง 3 นัดภายใต้การคุมทีมของ ลี คาร์สลี่ย์ กุนซือชั่วคราว และเขาก็ตั้งเป้าที่จะรักษาตำแหน่งของเขาในทีมตัวจริงของทีมชาติ เมื่อ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทัพต่อในเดือนมกราคม
แฟนบอล นิวคาสเซิ่ล แสดงให้เห็นว่าเขามีความหมายต่อพวกเขามากเพียงใดด้วยการกางธง 'กอร์ดอน 10' ขนาดยักษ์ที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ก่อนเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 28 กันยายน
กอร์ดอน ตอบสนองความรักดังกล่าวด้วยการยิงจุดโทษและเก็บผลเสมอให้กับทีมของเขา
"ผมเกือบที่จะร้องไห้ในสนาม" กอร์ดอน กล่าวหลังเกมนั้น
"ผมไม่คิดว่าแฟนๆ จะเข้าใจดีว่าเรื่องแบบนี้มีความหมายอย่างไร เพราะผมมีครอบครัวและลูกชายตัวน้อยที่เข้ามาชมการแข่งขันในสนาม ดังนั้นความทรงจำเหล่านี้จะอยู่กับผมตลอดไป"
ทันทีที่หนึ่งในนักเตะคนสำคัญต่อสัญญาฉบับใหม่ ฮาว กล่าวว่า "เขาทุ่มเทเพื่อพัฒนาตัวเองและทีม และเมื่อคุณรวมสิ่งนั้นเข้ากับคุณภาพการเล่นของเขาและอัตราการทำงานที่สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ มันก็ชัดเจนว่าทำไมเขาถึงมีความสัมพันธ์พิเศษกับแฟนบอลของเรา"
"แอนโธนี่ ยังมีอะไรอีกมากมายที่จะแสดงให้เห็น และผมก็ตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขาและพวกเรา"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT