เจ้าป่า...มาได้ไง?

เดี๋ยวก่อน...รอดูก่อน...

- ฟอเรสต์ รั้งอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกก่อนเข้าแมตช์เดย์นี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงที่สุดของพวกเขาตั้งแต่ปี 1998 หลังชนะ 3 นัดติดในลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1999

- 10 เกมแรกของพวกเขาสะท้อนให้เห็นการเริ่มต้นฤดูกาล 2015-16 ของ เลสเตอร์ เมื่อพลพรรค จิ้งจอก สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับวงการด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในอัตราต่อรอง 5,000-1

- ชัยชนะ 5 เสมอ 4 และแพ้ 1 ของ ฟอเรสต์ นั้นเหมือนกับสถิติของ เลสเตอร์ แม้ว่าพวกเขาจะเก็บคลีนชีตได้มากกว่าทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เมื่อเกือบ 9 ปีก่อนอยู่ 3 ครั้ง และมีผลต่างประตูที่ดีกว่า 7 ลูก

- คริส วู้ด ดูไม่มีอะไรที่เหมือนกับ เจมี่ วาร์ดี้ เลย แต่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน โดยทำไป 8 ประตู และพวกเขามีเกมรับดีที่สุดเป็นอันดับสองของลีก ทั้งที่รอดพ้นการตกชั้นได้เพียง 4 แต้มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ความมหัศจรรย์ของ วู้ด และความน่าอัศจรรย์ของ มิเลนโควิช

การค้นหากองหน้าคนใหม่ของ ฟอเรสต์ เพื่อสนับสนุนและท้าทาย วู้ด ไม่สมหวัง เมื่อ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ย้ายจาก อาร์เซน่อล ไป คริสตัล พาเลซ ขณะที่ ซานติอาโก คีเมเนซ ยังคงอยู่ในถิ่นเดอ ไคป์

"ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ เรามองหาตัวเลือกมากมายที่จะช่วยเราได้ สิ่งสำคัญคือเรามองหาใครสักคนที่จะช่วยเราให้ดีขึ้น และใครสักคนที่อยากอยู่กับเรา สองสิ่งนี้มีความสำคัญมาก" นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต กล่าวอย่างตรงไปตรงมาเมื่อเดือนกันยายน

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะขาดผผู้เล่นแนวรุก แต่การเริ่มต้นอันยอดเยี่ยมของ วู้ด ทำให้ความกลัวเหล่านั้นหายไป

- ดาวเตะทีมชาตินิวซีแลนด์วัย 32 ปี ทำประตูได้มากกว่าครึ่งจาก 14 ลูกของ ฟอเรสต์ ในฤดูกาลนี้ และทำไป 22 ประตู จาก 30 นัดที่ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ย้ายมาจาก นิวคาสเซิ่ล แบบถาวรเมื่อเดือนมกราคม ปี 2023

- 19 ประตูในลีกนั้นเกิดขึ้นภายใต้การคุมทีมของ นูโน่ ตั้งแต่กุนซือชาวโปรตุเกสเข้ามาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

- มีเพียง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ของ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นที่ทำประตูรวมรวมจุดโทษได้มากกว่า วู้ด ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม ปี 2023

- วู้ด มีอัตราการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูดีที่สุดอันดับสี่ (32.8%) ในพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ นูโน่ เข้ามา

แม้ วู้ด จะทำประตูได้เยอะ แต่ในการจัดการนั้นเน้นย้ำเสมอว่ารากฐานของพวกเขาเริ่มต้นมาจากเกมรับ

มัตซ์ เซลส์ ที่เข้ามาเป็นมือหนึ่งมีคลีนชีตมากที่สุดร่วมกับ อ็องเดร โอนาน่า ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ของ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

การมาถึงของ นิโกล่า มิเลนโควิช จาก ฟิออเรนติน่า ด้วยค่าตัวที่น้อยกว่า 12 ล้านปอนด์ ถือเป็นการทำธุรกิจที่ดี และเขาได้จับคู่อย่างน่าประทับใจกับ มูรีลโล่ เซนเตอร์แบ็กชาวบราซิล

- ฤดูกาลที่แล้ว ฟอเรสต์ เสียประตูจากลูกตั้งเตะถึง 23 ลูก จากทั้งหมด 68 ประตู มากกว่า ลูตัน และ เชฟฯ ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นถึง 4 ลูก แต่ซีซั่นนี้เพิ่งจะเสียเพียงประตูเดียวเท่านั้น

- ฤดูกาลที่แล้วพวกเขามีสถิติค่า xG ที่จะเสียประตูจากลูกตั้งเตะถึง 12.25 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางจากลูกเตะมุมและฟรีคิก

- ในฤดูกาลนี้ ฟอเรสต์ มีค่า xG ที่จะเสียประตูจากลูกตั้งเตะเพียง 1.23 ดีที่สุดในลีก

แม้การพูดว่าการมีบิ๊กแมนในแนวรับและบิ๊กแมนในแดนหน้าทำให้ ฟอเรสต์ มีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนั้นดูง่ายเกินไป แต่แน่นอนว่ามันได้ผล

การเปลี่ยนแปลงทีมจากซัมเมอร์ ปี 2022

ดูเหมือนว่า ฟอเรสต์ จะพัฒนาอย่างรวดเร็วจากทีมที่จบอันดับ 17 ในฤดูกาลที่แล้ว หลังโดนหัก 4 แต้ม แต่ผู้เล่น 7 คนจากเกมที่ชนะ เวสต์แฮม 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว คือตัวจริงในเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ ในวันสุดท้ายเมื่อซีซั่นก่อน

นูโน่ มีช่วงปรีซีซั่นที่สวยหรูในปีนี้ และแม้ว่าสโมสรจะได้ผู้เล่นใหม่มาเพียง 6 คนในช่วงซัมเมอร์ แต่ มิเลนโควิช และ เอลเลียต แอนเดอร์สัน ก็ยกระดับคุณภาพทีมชุดใหญ่ได้ในทันที

ช่วงเวลาที่ใจเย็นนั้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากซัมเมอร์ ปี 2022 เมื่อ ฟอเรสต์ เซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่ถึง 22 คน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในขณะนั้น หลังจากเลื่อนชั้นขึ้นมา

ที่ซิตี้ กราวด์ มันถือเป็นวิวัฒนาการ ไม่ใช่การปฏิวัติ แต่แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ นูโน่ เข้ามาแทนที่ สตีฟ คูเปอร์ พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วจากเมื่อ 2 ปีก่อน

ในเกมที่ ฟอเรสต์ เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 เมื่อเดือนที่แล้ว โดยที่ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ถูกแบน นัดนั้นในสนามมีเพียงผู้เล่นคนเดียวที่เซ็นสัญญาเข้ามาในช่วงที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในปี 2022 ซึ่งก็คือผู้รักษาประตู ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ย้ายไปเล่นให้กับทีมตรงข้ามแทนแล้ว

เมื่อตอนเริ่มฤดูกาล สโมสรมีการคุยกันว่าจะต้องรักษาพื้นที่โซนกลางตารางเพื่อหลีกเลี่ยงการหนีตาย หลังจากสองซีซั่นแห่งความยากลำบาก ความขัดแย้ง และความวุ่นวาย

พวกเขาโดนหักแต้มในเดือนมีนาคม เนื่องจากละเมิดกฎควบคุมการเงิน ก่อนที่จะมีการโพสต์บนโซเชียลมีเดียโจมตี สจ๊วร์ต แอ็ตต์เวลล์ ซึ่งทำหน้าที่วีเออาร์ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วสโมสรโดนปรับเงิน 750,000 ปอนด์ในซีซั่นนี้

ในขณะเดียวกัน เอวานเจลอส มารินาคิส เจ้าของทีมถูกแบน 5 เกมหลังถ่มน้ำลายใส่ผู้ตัดสิน ซึ่งเขาแพ้การอุทธรณ์เมื่อวันจันทร์ของสัปดาห์ก่อน แน่นอนว่า ฟอเรสต์ เงียบขรึมกับชีวิตที่ต้องเผชิญอยู่อีกครั้ง แต่ในสนามพวกเขากำลังส่งเสียงดังที่สุดในฤดูกาลนี้

การกลับมาของ นูโน่ ในพรีเมียร์ลีก

นูโน่ กลับมายังพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย และมีหลายคนที่ไม่เชื่อมือเขาตอนเข้ามาแทนที่ สตีฟ คูเปอร์ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

เขาเคยคว้าแชมป์โปรลีก ซาอุดีอาระเบีย และซูเปอร์ คัพ กับ อัล อิตติฮัด แต่หลังจากช่วงเวลาอันสั้นและยากลำบากกับ สเปอร์ส แฟนๆ ฟอเรสต์ ก็ไม่ได้ดีใจอะไรตอนแต่งตั้งเขา

ช่วงเวลา 4 ปีของเขากับ วูล์ฟส์ สิ้นสุดลงเมื่อทุกอย่างเริ่มซบเซาที่โมลินิวซ์ และทีมไม่สามารถรักษาระดับการเติบโตอันน่าทึ่งจากแชมเปี้ยนชิพไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโรปา ลีก ได้

แต่ก่อนที่สถานการณ์จะตกต่ำลง เขาได้สร้างทีมขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์ชื่อดัง ซึ่งรวมถึงพรสวรรค์ของดาวรุ่งในเวลานั้นอย่าง รูเบน เนเวส ร่วมกับประสบการณ์จาก ชูเอา มูตินโญ่

เขากำลังทำแบบเดียยวกันที่ซิตี้ กราวด์ ด้วยการมาถึงของแข้งซีเนียร์ 6 ราย รวมถึงกองหลังอย่าง มิเลนโควิช ที่ช่วยให้ ฟอเรสต์ มีแนวรับที่แข็งแกร่งขึ้นและเสียไปเพียง 7 ประตูเท่านั้น มีเพียง ลิเวอร์พูล ที่เสียน้อยกว่าที่ 6 ลูก

สื่อที่คุ้นเคยกับ นูโน่ ตั้งแต่สมัย วูล์ฟส์, สเปอร์ส หรือกับ ฟอเรสต์ ในปัจจุบันต่างทราบดีว่าเขาไม่ใช่คนที่แสดงออกชัดเจนในการแถลงข่าว

เขาวางแผนอย่างรอบคอบว่าอะไรจะเกิดขึ้นในสนาม ซึ่งตลอดระยะเวลาหนึ่งปีนั้นทำให้โอกาสของ ฟอเรสต์ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเขายังคงได้รับประโยชน์จากรากฐานที่ คูเปอร์ สร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ตาม

อิทธิพลและความสัมพันธ์ของ คูเปอร์ นั้นมีความสำคัญอย่างมากในการเซ็นสัญญากับ กิ๊บบ์ส-ไวท์ ซึ่งเคยร่วมกันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ยู-17 ในขณะที่เขาเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชน ขณะที่กุนซือ เลสเตอร์ คนปัจุบันก็เป็นผู้ที่พา วู้ด มายังสโมสร และทำให้พวกเขายังอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป

นูโน่ ต่อยอดจากความสำเร็จนั้น แม้ว่าเขาจะปล่อยให้ความรู้สึกครอบงำที่ข้างสนามบ้างก็ตาม โดยเขาสัญญาว่าจะควบคุมการวิจารณ์ผู้ตัดสิน ซึ่งในเดือนสิงหาคม เขาถูกปรับเงิน 40,000 ปอนด์ และถูกแบน 1 เกม หลังแสดงความคิดเห็นของเขาหลังเกมแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

การแบนดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อเขาถูกไล่ออกจากการประท้วงใบแดงของ กิ๊บบ์ส-ไวท์ ในเกมเสมอ ไบรท์ตัน เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งหมายความว่าเขาต้องคุมทีม ฟอเรสต์ 3 เกมล่าสุดจากอัฒจันทร์

ฟอร์มของ ฟอเรสต์ จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน?

แม้จะมีปัญหาเรื่องวินัยของทั้ง นูโน่ และ มารินาคิส เจ้าของทีมอยู่บ้าง แต่ ฟอเรสต์ ก็ชนะมา 3 นัดติดแล้ว ซึ่งทำให้เขาขึ้นมาอยู่อันดับ 3

การไปเยือน อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเกิดขึ้นหลังช่วงเบรกทีมชาติ ซึ่งจะเริ่มต้นจากเกมลีกกับ นิวคาสเซิ่ล วันอาทิตย์ นอกจากนี้พวกเขายังจะต้องพบกับ แอสตัน วิลล่า และ สเปอร์ส ในช่วงสิ้นปีอีกด้วย

ผู้ที่ยังไม่มั่นใจกับโอกาสของพวกเขาจะชี้ให้เห็นถึงความจริงที่ว่า 5 ใน 10 เกมของพวกเขาเป็นการเจอกับทีม 7 อันดับสุดท้าย ส่วน 3 เกมหลังสุดก็เป็นการเจอกับ คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ และ เวสต์แฮม ซึ่งไม่มีทีมไหนเลยที่ออกสตาร์ทซีซั่นดี

แต่ ฟอเรสต์ ก็ไปเยือนแอนฟิลด์ พร้อมโค่น ลิเวอร์พูล ซึ่งนั่นเป็นความพ่ายแพ้คร้ังในฤดูกาลนี้ของ หงส์แดง และยังเสมอกับ เชลซี และ ไบรท์ตัน อีกด้วย

- จากแบบจำลองคะแนนที่คาดหวังของ อ็อปต้า พบว่า ฟอเรสต์ อยู่อันดับที่ 5 และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำผลงานได้เกินสถิติเกมของตัวเองถึง 2.23 คะแนน

- เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว ฟอเรสต์ เปลี่ยนจากความพ่ายแพ้ ลิเวอร์พูล เป็นชัยชนะ และเป็นจากที่แพ้ บอร์นมัธ (เหย้า) และ ไบรท์ตัน (เยือน) เป็นผลเสมอ 

- ฟอเรสต์ มีโปรแกรมที่ง่ายเป็นอันดับสี่จาก 10 เกมแรก แต่ตอนนี้พวกเขาจะต้องพบกับโปรแกรมที่ยากเป็นอันดับสี่ในอีก 10 นัดถัดไป

เกมวันอาทิตย์กับ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งบุกมาเอาชนะที่ซิตี้ กราวด์ ในถ้วยคาราบาว คัพ เมื่อเดือนสิงหาคม จะเป็นจุดเริ่มต้นบททดสอบความอดทนของ ฟอเรสต์ และเมื่อถึงช่วงคริสต์มาสก็จะชัดเจนขึ้นว่าพวกเขาจะรักษาฟอร์มการเล่นนี้ไว้ได้หรือไม่