:::     :::

ยังไหวมั้ย...แอนจ์

วันอาทิตย์ที่ 05 มกราคม 2568 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
722
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อะไรคือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ของ แอนจ์ พอสเตโคกลู?

ทีมจอมเอนเตอร์เทนในพรีเมียร์ลีก?

ทีมที่เล่นแต่เกมรุกจนไม่สนความสำเร็จ?

หรือว่าทั้งสองอย่างที่ว่ามา?

เกมที่ สเปอร์ส แพ้ต่อ นิวคาสเซิ่ล 1-2 คาบ้านเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ ไก่เดือยทอง รั้งอันดับ 12 ในพรีเมียร์ลีก ตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงถึง 21 แต้ม และตามหลังกลุ่มท็อปโฟร์ 12 คะแนน

กุนซือชาวออสเตรเลียได้จุดประกายความหวังของแฟนๆ ในการคว้าแชมป์แรกในรอบ 17 ปี โดยกล่าวเมื่อเดือนกันยายนว่าเขามักจะคว้าถ้วยรางวัลในฤดูกาลที่สองที่คุมทีม

แต่ตอนนี้ คำถามคือ การคุมทีม 58 นัดในพรีเมียร์ลีก กับ สเปอร์ส ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับ โชเซ่ มูรินโญ่ ถูกไล่ออกตอนปี 2021 พอสเตโคกลู ทำให้ สเปอร์ส ดีขึ้นจริงเหรอ?

ปัจจุบัน สเปอร์ส มี 24 แต้ม ซึ่งน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของฤดูกาลที่แล้วถึง 15 คะแนน

นอกจากนี้ พวกเขายังกลายเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่รั้งอันดับครึ่งล่างของตารางหลังจาก 20 เกม ทั้งที่มีผลต่างประตูได้เสียบวกสองหลัก นับตั้งแต่ เชลซี ของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ในปี 2000-01

พอสเตโคกลู โกรธมากที่เห็นประตูตีเสมอของ แอนโธนี่ กอร์ดอน ทั้งที่มันควรจะเป็นแฮนด์บอลของ โชลินตอน ที่ใช้แขนดักลูกจิ้มของ ลูคัส เบิร์กวัลล์

เขาใช้สำนวนว่า "ถ้าทุกอย่างเท่าเทียมกัน" ถึง 9 ครั้งในการให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ บีบีซี

"ผมคิดว่ามันชัดเจน" พอสเตโคกลู กล่าวด้วยความโมโหซึ่งเขาคิดว่าประตูตีเสมอของ นิวคาสเซิ่ล ควรเป็นการทำแฮนด์บอลของ โชลินตอน ก่อน

"ผมโกรธมากจริงๆ โกรธมากที่สุดเท่าที่ผมจะโกรธได้ในอาชีพของผม"

เขากล่าวเสริมว่า "ถ้ามองถึงความสมดุลของการเล่นแล้ว ถ้าทุกอย่างเท่าเทียมกัน เราก็จะชนะในวันนี้"

"ยอดเยี่ยมมาก ผมภูมิใจในตัวนักเตะมาก ผมคงขออะไรมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว นี่คือเกมที่เราคงจะชนะได้หากทุกอย่างเท่าเทียมกัน"

"หากทุกอย่างเท่าเทียมกัน เราก็คงจะชนะในวันนี้ แต่ทุกอย่างมันไม่เท่ากัน"


สไตล์ของ พอสเตโคกลู จะนำความสำเร็จมาให้ สเปอร์ส ได้ไหม?

หลังจากการเล่นแบบเพลย์เซฟในยุค มูรินโญ่, อันโตนิโอ คอนเต้ และช่วงสั้นๆ ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต การเน้นเกมรุกและการเล่นฟุตบอลที่เข้มข้นของ พอสเตโคกลู ทำให้ สเปอร์ส กลายเป็นหนึ่งในทีมที่สร้างความบันเทิงได้มากที่สุดในลีก

พวกเขาทำได้ 116 ประตูตั้งแต่ที่เขามาอยู่ที่นี่ และเป็นทีมที่ยิงได้มากที่สุดอันดับสี่ของลีกตั้งแต่ซัมเมอร์ ปี 2023

ฤดูกาลนี้ มีเพียง ลิเวอร์พูล เท่านั้นที่ทำได้มากกว่า 42 ลูกของ สเปอร์ส ในขณะที่พวกเขาก็รั้งอันดับสองในแง่ของจำนวนโอกาสที่สร้างขึ้น

หลังจากที่เข้าไปเล่นยูโรปา ลีก ด้วยการจบอันดับ 5 ในฤดูกาลที่แล้ว เมื่อเทียบกับอันดับ 8 ที่พวกเขาจบซีซั่นก่อนที่ พอสเตโคกลู จะมาถึง พวกเขามีรอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ กับ ลิเวอร์พูล ที่จะมาถึงในวันพุธ และยังอยู่ในเส้นทางผ่านเข้ารอบฟุตบอลยุโรป

แต่สถิติเกมรับกลับตรงกันข้าม

- สเปอร์ส เก็บไป 51 แต้มในพรีเมียร์ลีก ปี 2024 ซึ่งถือเป็นผลงานที่แย่ที่สุดในรอบปีปฏิทินตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งได้ 42 คะแนน

- ตั้งแต่ที่ พอสเตโคกลู เข้ามาคุมทีม สเปอร์ส เสียไป 91 ประตู มากที่สุดอันดับ 7 จากทีมในลีกสูงสุดตั้งแต่ที่เขาเข้ามา

- ฤดูกาลนี้ พวกเขาเสียไป 30 ประตู แย่กว่าทีมในพรีเมียร์ลีกถึง 12 ทีม

- พวกเขาเก็บชัยได้เพียงเกมเดียวจาก 8 นัดหลังสุดในลีก

- สเปอร์ส ไม่ชนะเกมเหย้าในพรีเมียร์ลีกมา 6 นัดติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นผลงานแย่ที่สุดของพวกเขาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2008

กุนซือชาวออสเตรเลีย ยังคงยืนกรานว่าแนวรับของเขายังคงต้องยืนสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นแท็คติกที่ปล่อยให้ทีมมีพื้นที่ว่างด้านหลังมากมาย ปัญหานี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นจากการที่นักเตะแนวรับที่มีความเร็วและเซนเตอร์แบ็กตัวหลักอย่าง คริสเตียน โรเมโร่ และ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน หายหน้าจากอาการบาดเจ็บ

มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลัง อาร์เซน่อล กล่าวว่า "ความดื้อรั้นของ แอนจ์ พอสเตโคกลู อาจทำให้เขาต้องเสียงานที่ ท็อตแน่ม ไปในที่สุด"

"เมื่อพวกเขาเหลือนักเตะ 9 คนในเกมกับ เชลซี จาก 100 โค้ชระดับท็อป 99 คนในนั้นคงจะสั่งให้ทีมถอยไปปักหลักในกรอบเขตโทษ แต่เขาต้องการให้ทีมของเขาอยู่แนวสุดท้ายที่กลางสนาม พวกเขาแพ้ในเกมนั้นแบบสบายๆ ในขณะที่ เชลซี ก็วิ่งกันสนุกเลยด้วย"

"ผมไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมเขาถึงไม่ปรับตัว มันมีปัญหากับระบบของเขา และการที่เขาปรับตัวไม่ได้จะส่งผลเสียในระยะยาว"

แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตกองหน้า สเปอร์ส กล่าวว่า "ผมคิดว่าถ้าพวกเขามี โรเมโร่ และ ฟาน เดอ เฟน เล่นด้วยกัน พวกเขาจะกลายเป็นทีมที่แตกต่างออกไป พวกเขาต้องการความเร็วนั้น"

"มันเป็นรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่กล้าหาญ แต่ผมชอบนะ สเปอร์ส เคยพยายามเล่นฟุตบอลแบบระมัดระวังมากขึ้น แต่แฟนบอลกลับไม่ชอบมันแม้ว่าผลการแข่งขันจะดีขึ้นเล็กน้อยก็ตาม ผมหวังว่าพวกเขาจะยังเล่นให้เขาต่อไป และหวังว่าพวกเขาจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้"


วิธีของ พอสเตโคกลู เสี่ยงที่จะทำให้มีการบาดเจ็บมากขึ้นหรือไม่?

การที่ สเปอร์ส ตกต่ำลงอย่างน่าใจหายในลีกเกิดขึ้นพร้อมกับวิกฤติอาการบาดเจ็บของแนวรับ ซึ่งแย่ลงไปอีกจากการเสีย เดสตินี่ อูโดกี เป็นรายล่าสุด

ก่อนเกมเมื่อวันเสาร์ พวกเขามีนักเตะที่ลงเล่นไม่ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยมีถึง 11 คนที่พลาดลงสนาม และก็มีอาการป่วยในทีมอีก

ผู้จัดการทีม สเปอร์ส ยืนยันว่าฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ของทีมเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บ และก่อนหน้านี้ก็เคยกล่าวว่าอัตราการเกิดอาการบาดเจ็บซ้ำๆ ที่น่าเป็นห่วงกำลังอยู่ในการพิจารณา หลังมีการแต่งตั้งหัวหน้าทีมแพทย์ และหัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาคนใหม่เมื่อช่วงซัมเมอร์

แต่แนวทางการเล่นที่ไม่หยุดยั้งก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีนักเตะบาดเจ็บจำนวนมากรึเปล่า? มันอาจเป็นเช่นนั้น รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น การเล่นมากขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของฤดูกาลที่แล้ว

ก่อนที่ทีมจะแพ้ นิวคาสเซิ่ล มีเพียง บอร์นมัธ และ อิปสวิช เท่านั้นที่วิ่งมากกว่า สเปอร์ส ที่วิ่งไป 2,129.2 กิโลเมตร ในช่วง 19 เกมแรก

เดยัน คูลูเซฟสกี้ วิ่งมากกว่าผู้เล่นทุกคนในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (205.4 กิโลเมตร)

โดมินิก โซลันกี้, คูลูเซฟสกี้, อูโดกี และ ซน ฮึง-มิน ทั้งหมดต่างก็ติด 20 อันดับแรกของลีกในการวิ่งออกตัว ไม่มีสโมสรไหนที่มีนักเตะติด 20 อันดับแรกมากกว่า 2 คนเลย

บิล ริบแบนส์ ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์การกีฬาแห่งมหาวิทยาลัย นอร์ธแฮมป์ตัน กล่าวว่า "หากต้องการเล่นสไตล์ พอสเตโคกลู คุณต้องฟิตสุดๆ และมีความเร็วด้วย"

"ด้วยเหตุนี้จึงเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ พอสเตโคกลู มีอาชีพผู้จัดการทีมที่น่าประทับใจมาก แต่การเป็นผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีกนั้นค่อนข้างเข้มข้นและไม่ลดละ มีหลายเกมที่ เซลติก (สโมสรเก่าของ พอสเตโคกลู) แต่เขาชนะได้ 72% และเขาอาจรู้สึกว่าสามารถหมุนเวียนผู้เล่นได้และยังคงชนะเหมือนเดิม.

"มันแตกต่างกันอย่างมากในพรีเมียร์ลีกที่จะโรเตชั่นและยังคงมาตรฐานเดิมและเอาชนะได้"


เปรียบเทียบ พอสเตโคกลู กับผู้จัดการทีมคนก่อนๆ

เมื่อต้องสร้างความบันเทิง สเปอร์ส ก็เล่นฟุตบอลได้อย่างสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมในแต่ละเกมที่น่าตื่นเต้น

แต่ในแง่ของผลการแข่งขัน สถิติกลับไม่เป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับผู้จัดการทีมคนก่อนๆ แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งทางเท่านั้น และ พอสเตโคกลู ก็ยืนกรานว่าฟอร์มของทีมเขาจะดีขึ้นเมื่อผู้เล่นหายเจ็บกลับมา

มูรินโญ่ ถูกไล่ออกเมื่อทีมรั้งอันดับ 7 คอนเต้ ถูกไล่ออกตอนทีมอยู่อันดับ 4 ในขณะที่แม้แต่การอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือนของ นูโน่ ก็จบลงด้วยการที่ สเปอร์ส รั้งอันดับ 8

พอสเตโคกลู ยังมีการใช้เงินสูงกว่าผู้จัดการทีมถาวรทั้ง 3 คนก่อนหน้า แม้ว่าเขาจะต้องรับมือกับการจากไปของตำนานและดาวซัลโวสูงสุดอย่าง แฮร์รี่ เคน ในช่วงเวลาของเขาก็ตาม

ปอสเตโคกลู ในตอนนี้คุมทีมลงเล่นในลีกเท่ากับ มูรินโญ่ และมากกว่า คอนเต้ 2 เกม ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก

แม้ว่า สเปอร์ส จะทำประตูได้มากกว่าในยุคก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ชนะน้อยกว่า และแพ้มากกว่า


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด