'ไอ้รถถัง' จากทาชเคนต์
ในแง่นั้น การที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญากับ อับดูโคดีร์ คูซานอฟ กองหลังทีมชาติอุซเบกิสถาน เหมือนเป็นการย้อนเวลากลับไปยังยุคเก่าอีกครั้ง
คูซานอฟ วัย 20 ปี ย้ายจาก ล็องส์ มาด้วยค่าตัว 33.6 ล้านปอนด์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และเตรียมเป็นนักเตะคนแรกจากชาติดังกล่าวที่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก
แม้เซนเตอร์แบ็กรายนี้จะยังมีอนาคตในอาชีพค้าแข้งอีกมากรออยู่ข้างหน้า แต่การย้ายทีมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ในเวลาไม่ถึง 4 ปี กองหลังหนุ่มรายนี้สามารถเอาชนะการปฏิเสธในบ้านเกิดของเขาและกลายมาเป็นผู้เล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนัง
'ไม่มีใครรู้จักเขา'
คูซานอฟ เริ่มเส้นทางฟุตบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ โดยเข้าร่วมอะคาเดมี่ของ บุนยอดกอร์ ในเมืองทาชเคนต์ เขาเริ่มเล่นในทันทีกับเด็กอายุมากกว่า 2 ปี พรสวรรค์และความสามารถในการเล่นทุกพื้นที่ของสนามแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงอายุ 17 ปี สโมสรตัดสินใจว่าเขาไม่มีความแข็งแกร่งหรือร่างกายที่แข็งแรงมากพอที่จะได้รับอะไรมากกว่าตำแหน่งในทีมสำรองซึ่งอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 ฮุคมัต โฮชิมอฟ อดีตดาวเตะทีมชาติอุซเบกิสถาน พ่อของ คูซานอฟ ตัดสินใจมองหาทางเลือกอื่น
ทางเลือกนั้นคือ เอเนอร์เกติก-บีจียู ในเบลารุส ซึ่งเป็นสโมสรเล็กๆ ในเมืองมินส์ค
สโมสรโน้มน้าวให้ คูซานอฟ ย้ายมาร่วมทีม แม้ว่าความเป็นจริงแล้วเขาจะต้องรอถึงหนึ่งปีกว่าจะได้ประเดิมสนาม ในเบลารุส นักเตะจะไม่สามารถเซ็นสัญญาระดับอาชีพได้จนกว่าจะถึงอายุ 18 ปี
เมื่อ คูซานอฟ มีสิทธิ์ลงเล่น เขาก็สร้างผลกระทบได้ทันที กับที่นี่ คูซานอฟ เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเท่านั้น และช่วยให้ เอเนอร์เกติก-บีจียู จบอันดับสองในลีกสูงสุดเบลารุสอย่างน่าเหลือเชื่อในปี 2022
แม้แฟนบอลในบ้านเกิดจะแทบไม่ได้สังเกตเห็นพัฒนาการของ คูซานอฟ แต่การย้ายทีมครั้งถัดไปของเขาทำให้ก้าวไปเป็นผู้เล่นระดับทีมชาติ คูซานอฟ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติในรายการเอเชียน คัพ ยู-20 ในเดือนมีนาคม ปี 2023 และลงเล่นทุกนาทีช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ครั้งประวัติศาสตร์
อุซเบกิสถาน ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก ยู-20 ในเดือนพฤษภาคม ปี 2023 ซึ่ง บัปติสต์ ฟาเวียร์ ผู้จัดการฝ่ายแมวมองของ ล็องส์ เฝ้าดูเขาในขณะที่ อุซเบกิสถาน เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเดือนกรกฎาคมของปีนั้น ล็องส์ เซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาด้วยราคาเพียง 84,000 ปอนด์
"ไม่มีใครรู้จักเขาเลยตอนที่เขามายัง ล็องส์" ลุค เอนทวิสเซิ่ล บรรณาธิการบริหารของ Get French Football News กล่าว
"เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่มีใครรู้จักมากนัก เขาไม่ได้ลงเล่นมากนักในฤดูกาลแรกของเขา แต่เมื่อเขาได้รับโอกาสลงเล่นในสามเซนเตอร์แบ็ก คุณก็ได้เห็นบางอย่างที่พิเศษในตัวเขาอย่างทันที"
ในฤดูกาลนี้ คูซานอฟ ได้เบียดแย่งตำแหน่งกับทั้ง โชนาต็อง กราดีต์, เควิน ดานโซ่ และ ฟากุนโด้ เมดิน่า จนได้ลงเล่นไป 13 นัดในลีก เอิง ซึ่ง 11 เกมเป็นตัวจริง
"ถ้า คูซานอฟ มาจากลีกระดับท็อป เขาคงมีค่าตัวถึง 100 ล้านยูโร" ดานโซ่ กล่าว ในขณะที่ บรีซ ซ็องบ้า ผู้รักษาประตูของ ล็องส์ กล่าวว่า "เขาเข้ามาเขย่าแนวรับของเรา เขามีอนาคตที่สดใส"
ด้วยความมั่นใจเช่นนี้ คูซานอฟ จะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ล็องส์ จึงเก็บเสื้อของเขาที่เซ็นชื่อไว้เพื่อสะสมในคอลเลคชั่นของสโมสรเพื่อเป็นการสงวนไว้สำหรับผู้เล่นที่ดีที่สุดของสโมสรนี้เท่านั้น
รถถัง, รถไฟ และอสุรกาย
มีเหตุผลว่าทำไม ซ็อมบ้า ถึงเรียก คูซานอฟ ว่า 'มอนสเตอร์' วิล สติลล์ กุนซือ ล็องส์ เรียกเขาว่า 'รถถัง' และทำไมเขาถึงได้รับฉายาว่า 'รถไฟ' ในบ้านเกิด
"เขาเป็นกองหลังทรงพลังซึ่งเป็นที่รู้จักจากการสกัดบอลที่แข็งแกร่งของเขา, ความสามารถในการเล่นลูกกลางอากาศ และสไตล์ที่ดุดัน" โธมัส บูลล็อค นักข่าวและนักวิจัยชาวเอเชียกลางของ ฟุตบอล เมเนเจอร์ กล่าว
"เขามีความมั่นคงกับบอล แต่ความเร็วคือคุณสมบัติที่โดดเด่นของเขา ทำให้เขาฟื้นคืนได้อย่างรวดเร็วและติดตามตัวรุกได้เร็ว"
เอนทวิสเซิ่ล กล่าวเสริมว่า "เขาชอบที่จะลุยขึ้นสูงมากดดันตรงพื้นที่มิดฟิลด์ เขาแข็งแกร่งในการดวล เขาไม่เคยยอมแพ้ง่ายๆ เขาเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถทางกีฬาสูงมาก"
ในภาษา อุซเบ อับดูโคดีร์ หมายความว่า 'ผู้ยิ่งใหญ่' ไม่ว่าจะเป็นการมองการณ์ไกลอันน่าทึ่งของพ่อแม่ของเขาหรือเพียงแค่เรื่องบังเอิญ แต่ชื่อนี้ก็เหมาะสมที่สุดแล้ว
กระนั้น คูซานอฟ ก็อาจจะไม่ได้เป็นทางออกที่รวดเร็วสำหรับการแก้ปัญหาแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้
"เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์และยังต้องปรับปรุง" เอนทวิสเซิ่ล กล่าว
"เขาเป็นเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถปรับปรุงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และความเข้าใจในแท็คติกได้ 40 ล้านยูโร อาจเหมือนเศษเงินในอีกหนึ่งทศวรรษ"
นักข่าวจาก French football อย่าง ฌูเลียง โลร็องส์ กล่าวว่า "เขามีความสามารถมาก แต่ แมนฯ ซิตี้ กำลังซื้อศักยภาพของเขา เขายังไม่พร้อมลงเล่นทุกสัปดาห์ แมนฯ ซิตี้ หวังว่าพวกเขาจะได้เซนเตอร์แบ็กแห่งอนาคต"
การเติบโตของฟุตบอลอุซเบกิสถาน
แม้จะเป็นเรื่องโรแมนติกหากจะบอกว่า คูซานอฟ กำลังสร้างเส้นทางให้ชาวอุซเบกิสถานในลีกระดับท็อปของยุโรปมากขึ้น แต่กระบวนการนั้นได้ดำเนินมานานแล้วในอดีตประเทศโซเวียต
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา "มีการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานด้านฟุตบอล รวมถึงสนามหญ้าที่ดีกว่า, สนามกีฬาที่ดีกว่า และข้อกำหนดให้กับทีมต่างๆ มีอะคาเดมี่เยาวชน" คอเนอร์ โบเวอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลอุซเบกิสถานกล่าว
บุนยอดกอร์ ซึ่งเป็นสโมสรที่ผลิต คูซานอฟ ขึ้นมา ได้รับประโยชน์อย่างมากจากเงินทุนของ กุลนาร่า คาริโมว่า ลูกสาวของ อิสลาม คาริมอฟ อดีตเผด็จการของอุซเบกิสถาน หลังจากที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งลีกและบอลถ้วยในเวลาเพียง 3 ปีที่ก่อตั้ง สโมสรก็เริ่มดึงดูดเยาวชนที่ดีที่สุดของประเทศได้ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมูลค่าหลายล้านปอนด์
ในปี 2021 สโมสรใหม่ชื่อ โอลิมปิก ทอชเคนต์ ก่อตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวในการเตรียมผู้เล่นสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ทีมรุ่นยู-23 เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ เอเชียน คัพ ยู-23 ในปี 2024 จากนั้นพวกเขาก็แพ้ สเปน และ อียิปต์ 1-2 และ 0-1 ตามลำดับในโอลิมปิก
"การก้าวขึ้นมาของ คูซานอฟ เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น" เดซ คอร์กฮิลล์ ผู้ประกาศข่าวฟุตบอลเอเชียกล่าว
"เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในบรรดาทั้งหมด แต่ก็คาดว่ามันจะมากขึ้นไปอีกด้วย"
ด้วยนักเตะอายุน้อยอย่าง คูซานอฟ และ อับบอส ฟายซูลลาเยฟ จาก ซีเอสเคเอ มอสโก รวมถึง มูฮัมหมัดลี อูรินโบเยฟ ซึ่งเคยอยู่ในทีมเยาวชนของ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และ ลาซิซเบ็ค มีร์ซาเซฟ จาก เลกาเนส ในลา ลีกา ที่สร้างความประทับใจให้กับทีมเยาวชน มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ อุซเบกิสถาน จะรั้งอันดับสองของกลุ่มในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2026 และมีลุ้นมุ่งหน้าไปสู่รอบสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก
"เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันเป็นความฝันของชาวอุซเบกิสถาน" ซูห์ร็อบ โซลเบคอฟ นักข่าวของ SPORTS.uz กล่าวถึงผู้เล่นอุซเบกิสถานที่สามารถก้าวไปเล่นในพรีเมียร์ลีก
"มันอาจมีเสียงหัวเราะเยาะกับความฝันนั้นของฟุตบอลอุซเบกิสถาน แต่ตอนนี้ คูซานอฟ ได้ลำลายมันลงแล้ว"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT