มหาเทพเกิดใหม่

มันเป็น 5 ปี ที่ดูเหมือนว่าอาชีพของ แดนนี่ เวลเบ็ค จะค่อยๆ หมดลง แต่ดาวเตะวัย 34 ปี รายนี้เพิ่มส่ง เดอะ ซีกัลล์ส เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ

ย้อนกลับไปตอนที่ เวลเบ็ค ลงเล่นไป 18 นัด และทำได้เพียง 2 ประตู ให้กับ วัตฟอรืด ในฤดูกาลที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก ดูเหมือนว่าวันดีๆ ได้หมดลงไปแล้ว

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ออกจาก แตนอาละวาด แบบไม่มีค่าตัว และย้ายไป ไบรท์ตัน หลังจากตลาดซื้อขายนักเตะปิดตัวลงในเดือนตุลาคม ปี 2020

การเซ็นสัญญาที่ไม่คุ้นเคยของ ไบรท์ตัน กองหน้าวัย 29 ปี ในตอนนั้นที่ประวัติอาการบาดเจ็บติดตัวเพียบ น่าจะเป็นเพียงทางเลือกสำรองเท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น ดาวเตะเจ้าของดีกรีแชมป์เอฟเอ คัพ สองสมัยกับ อาร์เซน่อล ก็มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในซัสเซ็กซ์

ในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมเอฟเอ คัพ รอบห้า ที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล เขาหาพื้นที่ว่างวิ่งไปรับบอลทะลุจาก ซอลลี่ มาร์ช ก่อนจะชิพผ่าน มาร์ติน ดูบราฟก้า เสียบมุมบนไปอย่างเฉียบขาดทำให้สกอร์เป็น 2-1

นั่นคือประตูที่ 8 ของเขาในฤดูกาลนี้ ตามหลังเพียง 2 ลูกจากฤดูกาลที่เขาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด และลูกเดียวที่ อาร์เซน่อล เขาขาดอีกเพียง 4 ประตูก็จะเท่ากับสถิติที่เคยทำไว้ดีที่สุด 12 ลูก กับ ยูไนเต็ด ในปี 2011-12

จุดสูงสุดและต่ำสุดของ เวลเบ็ค (และการกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง)

เวลเบค เป็นชาวเมืองแมนเชสเตอร์ที่มีพ่อแม่เป็นชาวกานา เขาผ่านอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และทำไป 29 ประตู จาก 142 เกมให้กับสโมสร

ช่วงเวลาที่ไปเล่นยืมตัวกับ เปรสตัน และ ซันเดอร์แลนด์ ต้องจบลงก่อนกำหนดเนื่องจากอาการบาดเจ็บ

หลังจากอยู่กับสโมสรตั้งแต่อายุ 8 ขวบจนถึง 23 ปี เขาก็ย้ายไป อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ โดย ยูไนเต็ด เซ็นสัญญายืมตัว ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้ามาจาก โมนาโก แทน

อาการบาดเจ็บของเขาตามมาถึง อาร์เซน่อล ซึ่งทำให้ยิงได้เพียง 32 ประตู จาก 126 เกม ตลอดระยะเวลา 5 ปี

เขาพลาดนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ในปี 2015 จากนั้นก็พักไป 8 เดือนในปี 2016 ทำให้เสียโอกาสไปเล่นยูโร 2016 และเกมสุดทายของเขากับสโมสรก็เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 เมื่อเขาข้อเท้าหัก

ในฤดูกาลถัดมา เขาลงเล่นให้ วัตฟอรืด เพียงครั้งเดียวจากจำนวนเกมทั้งหมดขณะที่ทีมตกชั้น

แล้วจากนั้นเขาก็ย้ายไป ไบรท์ตัน

บ้านใหม่แสนสุขที่ อัลเบี้ยน

ด้วยการที่สโมสรเก่าอย่าง ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ที่ดิ้นรนหากองหน้าตัวเป้า พวกเขาทั้งคู่อยากได้ เวลเบ็ค กลับไปเหมือนกัน

หลังจากทำไป 26 ประตู จาก 4 ฤดูกาลแรกกับ ไบรท์ตัน เวลเบ็ค ก็ทำไปแล้ว 8 ประตู จาก 25 เกมในฤดูกาลนี้

ใน 8 ประตูนั้นมีหลายลูกที่เป็นประตูสำคัญ

เขาทำประตูได้ในเกมที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อเดือนสิงหาคม จากนั้นก็ทำสองประตูชัยที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในฤดูกาลนี้ และยังยิงประตูชัยเหนือ สเปอร์ส และ บอร์นมัธ อีกด้วย

"เป็นเรื่องดีที่ยิงประตูชัยได้" เขากล่าวหลังจากชนะ นิวคาสเซิ่ล ในถ้วยใบนี้ โดยเจ้าตัวลงเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 80

"ผมรู้สึกดีมาก รู้สึกฟิตและแข็งแรง ขอบคุณแม่และพ่อที่ทำให้ผมมียีนที่ดี"

เขากล่าวเสริมว่า "เมื่อคุณอยู่บนม้านั่งสำรอง คุณต้องวิเคราะห์เกมและดูว่าคุณสามารถสร้างความแตกต่างได้ที่ใด และวันนี้เราก็ทำได้สำเร็จ"

"อาจจะเป็นไปได้" หรือไม่ที่ เวลเบ็ค จะกลับไปติดทีมชาติอังกฤษ?

มันอาจดูเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่บางคนก็สงสัยว่าฟอร์มของ เวลเบ็ค จะทำให้เขาถูกเรียกตัวกลับไปติดทีมชาติหรือไม่

เวลเบ็ค ยิงไป 16 ประตู จาก 42 เกมให้กับทีมชาติอังกฤษ โดยประเดิมสนามครั้งแรกในปี 2011 พบกับ กานา ชาติบ้านเกิดพ่อกับแม่ของเขา เขาทำประตูได้ในเกมกับ สวีเดน ในยูโร 2012 และลงเล่นในฟุตบอลโลก 2 สมัย

แต่การติดทีมชาติครั้งล่าสุดของเขาต้องย้อนไปถึงปี 2018 ตอนที่ยังอยู่กับ อาร์เซน่อล

โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมชาติจะประกาศรายชื่อผู้เล่นทีมชุดใหญ่เร็วๆ นี้ โดยจะทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับ แอลเบเนีย และ ลัตเวีย

ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ กุนซือ ไบรท์ตัน ถูกถามถึงเรื่องนี้โดย ไอทีวี หลังจบเกม

"คุณมีโค้ชที่ดีอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล ดังนั้นเขาจะเป็นคนตัดสินใจ" เฮอร์เซเลอร์ ที่ชาติเดียวกับ ทูเคิ่ล กล่าว

"มันอาจจะเป็นไปได้ แต่มันไม่ใช่การตัดสินใจของผม สิ่งเดียวที่ผมพูดได้คือ ผมมีความสุขที่ได้ร่วมงานกับเขา เขาเป็นผู้นำที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นนักเตะที่ดี"