เกิดอะไรขึ้นกับ ซานโช่

แมนฯ ยูไนเต็ด ประชาสัมพันธ์ว่าการยืมตัวครั้งนี้รวมข้อผูกมัดที่ เชลซี จะต้องเซ็นสัญญาถาวรกับ ซานโช่ ด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะต้องจบอย่างน้อยอันดับที่ 14 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่ว่าไม่มีการจ่ายค่าตัวการยืมและ เชลซี รับผิดชอบค่าจ้างเพียงครึ่งเดียว ซึ่ง เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เปิดเผยในการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เน้นย้ำถึงความต้องการที่ ผีแดง จะตัดความสัมพันธ์กับปีกชาวอังกฤษรายนี้

ซานโช่ เพิ่งเซ็นสัญญาย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ เมื่อ 3 ปีกอ่น แต่โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเขาที่ "อวยพรให้ทุกคนโชคดีในอนาคต" ไม่ได้หมายความว่าเขากำลังคิดที่จะย้ายกลับไปยังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

เชลซี เป็นทีมที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เด็ก สำหรับ ซานโช่ ซึ่งเกิดที่เคนนิงตัน และเข้าร่วมทีม วัตฟอร์ด ตั้งแต่เด็กย้ายไปยัง แมนฯ ซิตี้ เมื่ออายุ 14 ปี จากนั้นก็ย้ายไปเยอรมัน ซึ่งเขาได้กลายมาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่และติดทีมชาติอังกฤษ และ เชลซี ถือเป็นเหมือนการกลับ "บ้าน"

สำหรับ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เขาถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกแนวรุกที่ทรงคุณค่าในทีมที่กำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่เพื่อลุ้นทั้ง 4 รายการ

เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในอาชีพค้าแข้งของ ซานโช่ มีการสร้างความประทับใจในช่วงแรกๆ ที่น่าตื่นเต้น แต่ตอนนี้มีการพูดคุยถึงเงินชดเชย 5 ล้านปอนด์ ที่ เชลซี ต้องจ่ายเพื่อส่งเขากลับไปยังทีมเก่า

ซานโช่ ซึ่งจะอายุครบ 25 ปี ในวันอังคารนี้ กำลังมุ่งหน้าสู่ซัมเมอร์โดยต้องเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน

ทำไมมันถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกแล้วล่ะ?

เชลซี จะซื้อขาดเขาหรือส่งกลับทีมเก่า?

ประการแรก เชลซี ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพวกเขายังคงตั้งใจที่จะเก็บ ซานโช่ ไว้ นั่นคือสิ่งที่ ยูไนเต็ด คิดเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแน่นอนแล้ว ทำไมข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชย 5 ล้านปอนด์ จึงถูกเปิดเผยออกมาสู่สาธารณะล่ะ?

ไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาคำตอบว่าทำไม เชลซี ถึงต้องทำเช่นนั้น

ผลงานเริ่มแรกของ ซานโช่ นั้นน่าประทับใจมาก เขาสร้างชัยชนะในช่วงท้ายเกมให้กับทีมในนัดประเดิมพรีเมียร์ลีกกับ บอร์นมัธ เมื่อวันที่ 14 กันยายน จากนั้นก็ทำแอสซิสต์ในอีก 2 เกมถัดมา

ซานโช่ ทำประตูได้ในเกมที่เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน และ สเปอร์ส 2 นัดติดต่อกันในเดือนธันวาคม โดยมีส่วนร่วมในการทำประตูถึง 5 จาก 9 เกมลีก ช่วยให้ สิงห์บลูส์ ขยับขึ้นมารั้งอันดับสอง ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล แค่ 4 แต้มในเวลานั้น

"ในการซ้อมเมื่อเร็วๆ นี้ ผมฝึกการยิงให้มากขึ้น โดยเฉพาะการยิงเสาไกล" ซานโช่ กล่าวหลังจากทำประตูในเกมกับ สเปอร์ส

"ทีมงานและนักเตะบอกผมว่าต้องเห็นแก่ตัวให้มากกว่านี้เมื่ออยู่หน้าประตู ผมรู้ว่ามีคนมากมายที่ผมต้องพิสูจน์ให้เห็น และผมกำลังซ้อมอย่างหนักทุกวัน"

นับจากนั้นเป็นต้นมา ใน 18 เกมจากทุกรายการ ซานโช่ ยังไม่สามารถทำประตูได้อีกเลย และยังมีแอสซิสต์ให้ โคล พาลเมอร์ เพียงครั้งเดียวในเกมเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 เมื่อวันที่ 4 มกราคม จากจำนวน 18 เกมเหล่านี้ เขามีโอกาสยิง 13 ครั้ง และมีแค่ 2 ครั้งที่เข้ากรอบ

ดาวเตะวัย 24 ปี สะท้อนถึงสถานการณ์ของเขาเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้จากชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม

"ผมรู้ว่าผมทำได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะกับหน้าปากประตู มันน่ารำคาญนิดหน่อยเมื่อทำประตูไม่ได้ แต่มันจะมาแน่"

คนในทีมเน้นย้ำว่าทัศนคติเบื้องหลังของ ซานโช่ นั้นดีเยี่ยม พวกเขาบอกว่าเขาซ้อมพิเศษเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น และรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมที่จะวิเคราะห์ความพยายามของเขาโดยพิจารณาจากจำนวนประตูหรือแอสซิสต์เพียงอย่างเดียว เพราะเขาทำงานหนักมากในตอนที่ไม่มีบอล

แต่นับจากเกมกับ สเปอร์ส เชลซี เก็บได้แค่ 18 คะแนน จาก 14 เกมลีก สถานการณ์ดูจะเลวร้ายกว่านี้มากหากไม่ชนะในบ้านเหนือสองทีมที่กำลังลำบากอย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน และ เลสเตอร์ ในช่วง 10 วันตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ สิ่งที่ดูเหมือนเป็นการผลักดันเพื่อลุ้นแชมป์กลับกลายเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก ขณะที่ เชลซี ยังตกรอบเอฟเอ คัพ ด้วย

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความคิดจะเปลี่ยนมาเป็นเรื่องว่าทีมของ มาเรสก้า จะสามารถปรับปรุงได้อย่างไร

ก่อนหน้านี้ บีบีซี เคยรายงานว่า เชลซี ต้องการเซ็นสัญญากับกองหน้าและปีก และได้พิจารณาปีกซ้ายที่ถนัดเท้าขวาหลายคนในเดือนมกราคม รวมถึง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เจมี่ กิตเทนส์ ของ ดอร์ทมุนด์

ทั้งคู่อายุน้อยกว่า และถือเป็นตัวเลือกที่รวดเร็วและทะลุทะลวงมากกว่า เชลซี ต้องดิ้นรนตั้งแต่กองหน้าตัวหลักอย่าง นิโกลัส แจ็คสัน ได้รับบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจากเกมกับ เวสต์แฮม เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ขณะที่ ซานโช่ ลงเล่นครบ 90 นาทีเพียงครั้งเดียวจาก 8 นัดนับตั้งแต่นั้นมา

ปัญหาอะไรจะเกิดกับ ยูไนเต็ด?

หากสุดท้าย เชลซี ตัดสินใจว่า ซานโช่ ไม่เหมาะกับพวกเขา มันจะสร้างปัญหาที่ยากจะแก้ไขให้ ยูไนเต็ด

ในแง่หนึ่ง เขาจะเริ่มต้นด้วยการเริ่มใหม่ ปัญหาของ ซานโช่ ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คือ เอริก เทน ฮาก

เขาปฏิเสธที่จะยอมและขอโทษกุนซือชาวดัตช์หลังจากที่กล่าวหาเจ้านายเก่าของเขาว่าให้เขาเป็นแพะรับบาปด้วยการวิจารณ์อย่างรุนแรงเกี่ยวกับผลงานในการซ้อมของเขา เทน ฮาก อ้างว่าเรื่องนี้เป็นสาเหตุที่ ซานโช่ ไม่ได้มีส่วนร่วมในเกมพรีเมียร์ลีกกับ อาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 3 กันยายน ปี 2023

มันเป็นครั้งที่สองที่ เทน ฮาก ปะทะกับ ซานโช่ เกี่ยวกับผลงานของเขา ในเดือนตุลาคม ปี 2022 เขาส่ง ซานโช่ เข้าโปรแกรมซ้อมส่วนตัวเป็นเวลา 3 เดือน หลังตรวจพบว่าผลงานของเขาตกลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักเตะหลุดโผทีมชาติอังกฤษเมื่อเดือนก่อนหน้า

เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ อดีตโค้ชกองหน้าของ ยูไนเต็ด กล่าวกับสถานีวิทยุในแอฟริกาใต้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า "หากคุณมาจากท้องถนน ไม่มีใครอยากจะขอโทษหรอก"

"การทำแบบนั้นหมายความว่าคุณยอมรับว่าคุณไม่ได้ซ้อมอย่างดี คุณขี้เกียจและทุกสิ่งที่คุณถูกกล่าวหา เจดอน จะไม่ทำแบบนั้น ผู้จัดการทีมมีนิสัยที่แข็งกร้าวและเพียงแค่บอกว่าเขาต้องการแค่คำขอโทษ เจดอน คิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด"

"เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขอโทษ บางครั้งคุณก็ต้องขอโทษ เพราะนักเตะจะไม่มีวันเอาชนะผู้จัดการทีมได้ ผมได้คุยกับ เจดอน ในฐานะโค้ช ในฐานะที่ปรึกษา ในฐานะเพื่อน และฐานะคนที่เติบโตมาบนท้องถนนและรู้จักกฎเกณฑ์ แต่ เจดอน ไม่เห็นด้วย"

ซานโช่ ไม่เคยซ้อมภายใต้การทำงานของ รูเบน อาโมริม ที่เข้ามาแทนที่ เทน ฮาก เลย

ถึงแม้จะไม่มี ซานโช่ แต่ อาโมริม ก็ยังมีทีมที่เหล่าตัวรุกริมเส้นมากเกินไป อดีตกุนซือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน วางตัวเป็นกลางเมื่อเขาแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะครั้งเดียวเกี่ยวกับนักเตะเมื่อเดือนที่แล้ว

"ผมแค่โฟกัสไปที่ผู้เล่นของผมและปัญหาของผม" เขากล่าว

"ซานโช่ ไม่ใช่ปัญหาของผม เราต้องชนะเกมเหล่านี้ให้ได้ และเราจะได้เห็นกันในฤดูกาลหน้า"

อาโมริม ถูกถามถึงเขา เพราะ ซานโช่ ตอบสนองต่อการย้ายทีมแบบยืมตัวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปยัง แอสตัน วิลล่า ด้วยการแสดงความคิดเห็นว่า "อิสระ" ในโพสต์อินสตาแกรมของกองหน้ารายนี้ ซึ่งเป็นความเกี่ยวข้องกับปัญหาของอดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

นี่ไม่ใช่การตอบสนองที่จะได้รับปฏิกิริยาเห็นใจจากคนในสโมสรแต่อย่างใด

ดูเหมือนว่าคนสำคัญๆ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มอง ซานโช่ ในด้านบวกอยู่แล้ว เพราะนอกจากความเห็นเรื่องเงินแล้ว แรตคลิฟฟ์ ยังบอกกับ บีบีซี ว่า "เราจะจ่ายเงิน 17 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อเขาในช่วงซัมเมอร์" ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่าตัวที่ยังคงค้างอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่ที่เขาย้ายทีมครั้งแรกเมื่อปี 2021

เนื่องจากสัญญาของเขาจะหมดลงในปลายฤดูกาลหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด จึงรู้ว่าการกลับมาของ ซานโช่ จะเป็นต้องขายเขาในซัมเมอร์นี้ทันที หรือไม่ก็ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ว่าจะมีการต่อสัญญาเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันสัญญาจะหมดลงในปี 2026 และเขาจะสามารถออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว

"ค่าเหนื่อยแพงเกินไปและไม่ดีพอ" นั่นเป็นคำกล่าวกกว้างๆ ของ แรตคลิฟฟ์ ที่พูดถึงผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนในช่วงต้นเดือน คงมีเพียงไม่กี่คนที่แย้งเรื่องนั้น

ความยากคือการกำจัดพวกเขาออกไปโดยที่จะไม่ต้องประสบกับปัญหาทางการเงินเพิ่มมากขึ้น

แมนฯ ยูไนเต็ด คิดว่าการที่ ซานโช่ ย้ายไป เชลซี มันเรียบร้อยดีแล้ว ตอนนี้พวกเขาอาจจะคิดผิดก็ได้