ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
คำนี้น่าจะเหมาะกับเดอะ ค็อป ที่สุดแล้วในชั่วโมงนี้ ถึงแม้ช่วงเวลาอันนี้เจ็บปวดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ควันหลงมันตามเขย่าขวัญสั่นประสาทไม่จางหาย
มีชนะ ก็ต้องมีแพ้ มันเป็นเรื่องปกติของโลกใบนี้
ทว่าปัญหาคือความทุกข์กลับเลือกพุ่งหาบรรดาเดอะ ค็อป ทั่วทุกมุมโลก ปล่อยให้ เรอัล มาดริด เถลิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 13 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขาแล้ว
แน่นอนว่าก่อนที่ มิโลราด มาซิช ผู้ตัดสินชาวเซิร์บจะเป่านกหวีดออกสตาร์ทการแข่งขัน ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นรองตามหน้าเสื่อ
แนวรับที่ยังดูไม่น่าไว้วางใจ
แดนกลางที่ตัวเลือกจำกัดจำเขี่ย
จะมีก็เพียงเกมรุกที่เป็นจุดขายเท่านั้น
แต่เอาเข้าจริง ในช่วง 10 ถึง 20 นาทีแรก ลิเวอร์พูล เล่นได้อย่างวูบวาบกว่ามาก โดยเฉพาะกับความเร็วของ ซาดิโอ มาเน่ และการเลี้ยงกินตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้ทีมมีลุ้นได้เฮจากดาวรุ่งมือใหม่ทีมชาติอังกฤษอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
เกมนี้ ผมไปนั่งชมอยู่ที่บ้าน "คุณฉุย" ลูกพี่ที่สนิทกันซึ่งก็เป็นสายหงส์อย่างเต็มขั้น เขาบอกว่าลิเวอร์พูลเล่นแบบช่วงต้นเกมนั่นแหละถูกแล้ว บุกแลกไปเลย โดนก็โดน แต่มั่นใจว่าถ้าทำแบบนั้นมีโอกาสชนะแน่
แต่ใครจะคิด จากเกมที่กำลังดีๆ เรื่องช็อกถึงขั้นสติแตกสุดขั้วโลกก็วิ่งเข้าชนหงส์แดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซาลาห์เจ็บ!!!
"ไอ่ชิบหาย..." เสียงอุทานดังลั่นบ้าน
จังหวะนั้นชัดเจนว่าเป็นอุบัติเหตุนะครับ
...
...
อุบัติเหตุก็เห้ละ!
จากที่ดูท่วงท่าไม่ว่าจะมุมไหน คิดได้อย่างเดียวเลยว่า เซร์คิโอ รามอส มันตั้งใจเล่นงานดาวเตะสายพันธุ์มัมมี่แน่
ชาวบ้านคนปกติที่ไหนจะล้มด้วยการเอาแขนตัวเองหนีบแขนคนอื่นฟะ ขนาดคล็อปป์ยังออกมาบอกหลังเกมเลย นึกว่าดูมวยปล้ำ
โอเค ไอ้แนวรับทีมชาติสเปนนั่นมันคงไม่ตั้งใจให้ ซาลาห์ เดี้ยงหนักขนาดนี้หรอก แต่การทำแบบนี้มันก็ส่อเจตนาไปในทางไม่ดีอยู่แล้วรึเปล่า
แว่วๆ มาจากนักข่าวที่ไปเกาะติดบริเวณมิกซ์โซน (ทางที่นักเตะใช้เดินจากห้องแต่งตัวออกมาขึ้นรถบัส) ว่า ซาลาห์ ต้องใช้สลิงคล้องแขนซ้ายออกมา พร้อมหน้าตาที่ดูไม่ดีเอาเสียเลย
ถ้าชวดบอลโลกขึ้นมา พวกมัมมี่ก็ไปเช็กบิลกับ รามอส เอาละกันนะ
พอ ซาลาห์ ออกไปเท่านั้นแหละ มันเห็นผลได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเกมของลิเวอร์พูลช็อตไปในทันใด และ เรอัล มาดริด ก็เดินหน้าบุกแบบไม่ต้องกลัวการสวนกลับด้วย
"คุณฉุย" บอกว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะน่ากลัวมากยามที่มี ซาลาห์ เล่นด้วย เนื่องจากเขามีทักษะที่ยอดเยี่ยม เก็บบอลได้ และดึงจังหวะเพื่อรอออกบอลในวินาทีที่ดาวเตะอียิปต์จะวิ่งตามช่อง
แต่พอไม่มี แข้งบราซิเลี่ยนแทบทำอะไรไม่ได้เลย เพราะไม่รู้จะจ่ายบอลต่อให้ใคร เนื่องจากตัวสปีดเหลือแค่เพียง มาเน่ คนเดียวเท่านั้น
ทีนี้ นักเตะอย่าง มาร์เซโล่ ก็กล้าพาบอลขึ้นสูงมาแบบไม่ต้องพะวงหลัง ขณะที่ อดัม ลัลลาน่า ซึ่งลงสำรองมาแทนต้องบอกว่าไม่เหลือสภาพ
แม้จะโดนพับสนามบุกในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แต่พระเจ้ายังเข้าข้างให้ตรึงสกอร์เอาไว้ที่ 0-0 ได้
หลังผ่านพ้นไป 45 นาที ในใจคิดได้แค่เพียงว่าทำยังไงก็ได้ให้ไม่เสียประตูก่อนเป็นพอ เพราะเกมรุกของหงส์แดงเหลือเพียง มาเน่ ที่วูบวาบคนเดียวเท่านั้น ส่วน ฟีร์มีโน่ ก็อย่างที่้เห็น
แต่คิดได้ไม่กี่อึดใจ ทันใดนั้นเองเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ลอริส คาริอุส ขว้างบอลที่อยู่ในมือไปติดขา คาริม เบนเซม่า เด้งเข้าประตูไปซะอย่างงั้น
แม้นายด่านชาวเยอรมัน และแข้งหงส์แดงพยายามจะประท้วงผู้ตัดสิน แต่ผมรู้ทันที ลูกนี้มันจะฟาวล์ได้ยังไง ไม่มีมุมไหนให้เรียกร้องอะไรได้เลย เสียค่าโง่ไปเต็มๆ
บอกตรงๆ ดูบอลมาก็นานจนชินชาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งทำงานสายนี้ร่วม 10 ปี ไปดูติดขอบสนามแมตช์ใหญ่ๆ ตามทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ก็เคยมาแล้ว แต่ผมไม่เคยเห็นการเสียประตูในลักษณะนี้สำหรับนัดสำคัญมาก่อนเลย
มันอะไรวะเนี่ย! นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกนะโว้ย...
แม้ ลิเวอร์พูล จะตีเสมอได้เร็วจาก มาเน่ แต่ แกเร็ธ เบล ที่ลงมาเป็นตัวสำรองก็ทำประตูสุดแสนมหัศจรรย์ ซึ่งถ้าจะยิงกันขนาดนี้ก็ต้องยอมให้เขาเถอะ
ค่ำคืนแสนโหดร้ายได้ตอกย้ำ คาริอุส อีกครั้งด้วยการรับบอลสุดแสนธรรมดาจากลูกยิงของ เบล ให้มือรั่วเข้าประตู
มันเป็นความผิดพลาดสองครั้งที่ใหญ่หลวง แล้วดันเกิดขึ้นในนัดสำคัญที่ทุกสายตาทั่วโลกต่างโฟกัส
ขนาด สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยังบอกเลยว่าผู้คนจะลืมความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของลิเวอร์พูล แต่จะจำความผิดพลาดของ คาริอุส ไปตลอด
ส่วน โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานนายด่านทีมชาติเยอรมันถึงขั้นหวั่นใจเลยว่าอนาคตของ คาริอุส จะพังทลาย
มันอาจเหมือนตลกร้าย แต่ที่ทั้งสองคนพูดนั้นใครจะเถียงว่าไม่จริง
ยิ่งซาวเสียงแฟนบอลทั้งไทย และเทศต่างพูดเหมือนกันว่าจริงๆ ทั้งทีมก็เล่นกันดีใช้ได้อยู่แล้ว แนวรับอย่าง เดยัน ลอฟเรน และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แทบไม่มีข้อตำหนิ แต่ที่แพ้ก็เพราะความผิดพลาส่วนบุคคลทั้งนั้น
ตั้งแต่ลูกแรกที่เสียไปแบบน่าอับอาย มันเหมือนดึงสมาธิของ คาริอุส ให้ออกไกลตัวเขาไปเรื่อยๆ สังเกตุให้ดีในจังหวะเสียประตูปิดกล่อง ผู้รักษาประตูหัวจุกแทบไม่ได้ตั้งท่าป้องกันเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ระมัดระวังทั้งที่ก็เห็น เบล ง้างเท้าพร้อมยิงมาตั้งแต่ไกล
ใครที่ได้เห็นปฎิกิริยาหลังเกมของ คาริอุส ที่เดินไปทุกมุมสนามของเหล่าเดอะ ค็อป แล้วยกมือไหว้ขอโทษพร้อมน้ำตา
ถ้าโกรธลงก็บ้าแล้ว
พอเกมจบลง ความรู้สึกร่วมมันก็ผ่อนคลาย จากเสียงก่นด่ามันเหลือแค่ความสงสาร และรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
บางคนบอกความผิดพลาดในวันนี้จะทำให้ คาริอุส เข้มแข็งขึ้นในวันหน้า
แต่เราก็แทบไม่เคยเห็นใครที่แจ้งตายนัดสำคัญขนาดนี้แล้วกลับมาเกิดได้เลย โดยเฉพาะตำแหน่งผู้รักษาประตู ส่วนมากจะไปแล้วไปลับทั้งนั้น
ต้องยอมรับตามตรงว่าเขายังดีไม่พอ และแผลใหญ่มันดันมาเปิดเอานัดสำคัญเสียอีก
สงสารมันก็คือเรื่องของความสงสาร เห็นใจมันก็คือเรื่องของความเห็นใจ
ทว่า คล็อปป์ จะยังมั่นใจในตัวเขาอยู่หรือเปล่า
แฟนๆ จะยังมั่นใจในตัวเขาอยู่หรือไม่
ท่ามกลางกระแสข่าวก่อนหน้านี้ทีหงส์แดงพยายามหานายทวารคนใหม่ ดูแล้วมีทีท่าได้กลับมาตามล่าอย่างจริงๆ จังๆ อีกครั้งในช่วงซัมเมอร์
อลิสซอน เบ็คเกอร์ ของ โรม่า ทีเงียบหายไปน่าจะถูกปัดฝุ่นกลับมาอีกครั้ง หรือจะเป็น จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ของ มิลาน ซึ่งกำลังถังแตกต้องการเงิน
ผมคิดว่ามีโอกาสไม่น้อยเลยที่ คาริอุส จะหมดอนาคตในถิ่นแอนฟิลด์
แต่ก็นะ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ
ลิเวอร์พูลก็ยังต้องมีพรุ่งนี้เสมอ
ตัวของคาริอุสเองก็เช่นกัน
พาสต้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT