ปืนใหญ่แผนไหนดี

เอเมรี่ ต้องนำทีมเจองานหนักตั้งแต่นัดแรกที่มีคิวรับมือ "แชมป์เก่า" แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นบททดสอบสุดหินทีเดียวสำหรับกุนซือชาวสแปนิชที่คุมทีมในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก

เท่านั้นไม่พอ นัดสองยังต้องไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี ที่ก็หวังออกสตาร์ตให้ดีเช่นกันในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ 

ขณะที่นัด 3 ก็ต้องเจอกับ เวสต์แฮม ที่ทุ่มแหลกไม่แพ้ทีมลุ้นแชมป์หลังได้ มานูเอล เปเยกรีนี่ กุนซือผู้เคยนำเรือใบเป็นแชมป์ เข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่ 

เอเมรี่ กำลังผสมผสานผู้เล่นเก่าจากยุคของ เวนเกอร์ เข้ากับ 5 แข้งใหม่ที่ดึงมาในช่วงซัมเมอร์เพื่อให้ออกมาดีที่สุดก่อนถึง 3 นัดสำคัญในช่วงเปิดฤดูกาล

และนี่คือแผนการเล่นที่เป็นไปได้ของอาร์เซน่อลในยุค อูไน เอเมรี่ 

แท็กติก 1 : 4-4-2

แท็กติกนี้ตอบโจทย์การมีกองหน้าชั้นดี 2 คนในทีม และตัดสินใจลำบากว่าใครจะเป็นสำรองหากเล่นระบบหอกเดี่ยว ดังนั้นจึงให้ออกสตาร์ตตัวจริงพร้อมกันไปเลย

ตรงกลางวางระบบ "ไดมอนด์" หรือ "เหลี่ยมเพชร" มี เมซุต โอซิล อยู่บนสุด ล่างสุดเป็น ลูกัส ตอร์เรยร่า ขนาบข้างด้วย อารอน แรมซี่ย์ และ กรานิต ชาคา

เฮนริค มคิทาร์ยาน เป็นอะไหล่สำรองเช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อีโวบี้, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, เอมิล สมิธ โรว์ และ มัตเตโอ เกวนดูซี่ 

แท็กติก 2 : 4-4-2 

แท็กติกนี้ต่างจากแท็กติกคือตำแหน่งผู้รักษาประตูที่เลือกใช้ความเก๋าของ ปีเตอร์ เช็ก มาก่อนตัวใหม่อย่าง แบรนด์ เลโน่ รวมถึงแบ็กซ้ายที่ใช้ เซอัค โคลาซินัค ก่อน นาโช่ มอนเรอัล 

อีกจุดคือหน้าคู่ที่ไม่ใช่หน้าธรรมชาติทั้งสองคน แต่เลือกใช้ เฮนริค มคิทาร์ยาน แทน อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ในการเล่นคู่กับ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง 

ด้วยตำแหน่งที่ไม่ใช่หอกอาชีพ มคิทาร์ยาน จะยืนต่ำกว่า โอบาเมย็อง เชื่อมเกมระหว่างตรงกลางและหน้า เวลารับจะถอยลงต่ำเหมือนเป็นกองกลางอีกราย ส่วนจังหวะรุกก็คอยสอดเป็นกองหน้าตัวที่สอง

แท็กติก 3 : 4-5-1

ผู้รักษาประตูและแนวรับสี่คนเหมือนแท็กติกแรก แต่ตัวเข้าทำเลือกใช้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง คนเดียวในตำแหน่งหน้าเป้า

ตัวรุกมีมากขึ้นเมื่อถอย เฮนริค มคิทาร์ยาน ไปทำเกมเต็มตัวโดยถ่างออกด้านข้างเช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อีโวบี้ ที่จะได้โอกาสในแท็กติกนี้ เมซุต โอซิล ปักหลักตรงกลางในตำแหน่งถนัด คู่กลางรับเลือก อารอน แรมซี่ย์ และ ลูกัส ตอร์เรยร่า

แท็กติก 4 : 4-3-3

แท็กติก 4-3-3 เป็นสไตล์การเล่นที่ อูไน เอเมรี่ ใช้บ่อยตอนคุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่หากจะใช้แท็กติกนี้กับอาร์เซน่อลก็อาจจะไม่ถนัดมือมากนัก

เมซุต โอซิล กับ เฮนทริค มคิทาร์ยาน ไม่ใช่ตัวริมเส้นโดยธรรมชาติ จังหวะการเล่นส่วนใหญ่จึงตัดเข้าในมากกว่าที่จะออกด้านข้างและโจมตีฟูลแบ็กคู่แข่ง 

ส่วนตรงกลาง 3 คน อาจสลับให้ ลูกัส ตอร์เรยร่า ที่ถนัดเกมรับมากว่า กรานิต ชาคา ในการยืนต่ำสุดตรงกลาง ทำหน้าที่คอยสกรีนบอลก่อนถึงแผงแนวรับ 

ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเลือกใช้ความหนุ่มแน่นของ คาลั่ม แชมเบอร์ส ในการยืนคู่กับ ชโคดราน มุสตาฟี่ 

แท็กติก 5 : 4-3-3

คาลั่ม แชมเบอร์ส ได้ยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ ชโคดราน มุสตาฟี่ ขณะที่ 3 คนตรงกลางจะเหมือนแท็กติกที่ 4 

จุดน่าสนใจคือ 3 ตัวรุกข้างบนที่มี ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง ยืนหน้าเป้า และใช้ เมซุต โอซิล กับ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ สนับสนุนจากด้านข้าง 

ทว่าในการปรีซีซั่นที่ผ่านมา เอเมรี่ ทดลองให้ โอบาเมย็อง ออกด้านข้างบ่อยครั้ง ขณะที่ ลากาแซตต์ ปักหลักในเขตโทษเป็นหลัก 

------

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดเดาในสภาพทีมที่สมบูรณ์พร้อมทุกคน ทว่าความเป็นจริงยังมีหลายคนที่ต้องเร่งทำความฟิตให้ทันเพื่อนหลังเพิ่งเข้าแคมป์รายงานตัว

กลุ่มนี้ประกอบด้วย กรานิต ชาคา, อารอน แรมซี่ย์, นาโช่ มอนเรอัล รวมถึง 2 ตัวใหม่อย่าง สเตฟาน ลิทซ์สไตเนอร์ และ ลูกัส ตอร์เรยร่า

การเจอกับแมนฯ ซิตี้ และ เชลซี ต้องใช้งานผู้เล่นที่พร้อมจริงๆ นั่นทำให้แผนการในช่วงแรกของ เอเมรี่ อาจไม่เป็นไปอย่างที่แฟนบอลคิดเนื่องด้วยสภาพความฟิตของผู้เล่นหลายคน

มัตเตโอ เกวนดูซี่ ทำผลงานได้ดีในปรีซีซั่น มีโอกาสลงเล่นในนัดเปิดสนามกับแมนฯ ซิตี้

แรมซี่ย์ กับ โคลาซินัค มีอาการบาดเจ็บติดตัวจากเกมกับเชลซี โดยแรมซี่ย์เจ็บตั้งแต่ก่อนเกม ทำให้ยังไม่ได้สัมผัสเกมปรีซีซั่นแม้แต่นัดเดียว ขณะที่แบ็กซ้ายรถถังเจ็บระหว่างเกม 

มัตเตโอ เกวนดูซี่ ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสมีโอกาสพลิกโผลงเล่นในเกมกับเรือใบสีฟ้าหลัง เอเมรี่ ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยการเป็นตัวจริงตลอด 3 นัดหลังของการอุ่นเครื่อง

ขณะที่แนวรุกก็น่าสนใจเหลือเกินว่า เอาเข้าจริงแล้ว กุนซือชาวสแปนิชจะจัดแท็กติกออกมาอย่างไรเพื่อให้ผู้เล่นอย่าง โอบาเมย็อง, ลากาแซตต์, โอซิล และ มคิทาร์ยาน เล่นด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด