:::     :::

ทุกอย่างต้องใช้เวลา

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การประเดิมฤดูกาลใหม่ของอาร์เซน่อล และนัดแรกในพรีเมียร์ลีกของ อูไน เอเมรี่ ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้คาบ้าน แต่ไม่ใช่ผลการแข่งขันที่ผิดคาดมากนัก

แมนฯ ซิตี้ สมควรเป็นผู้ชนะในเกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์แรก ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีคุณภาพในทีมที่ดีกว่า และเล่นได้สมราคา "แชมป์เก่า" 

เอเมรี่ เจองานหนักจริงในก้าวแรกบนลีกสูงสุดอังกฤษ และจบเกมพร้อมกับการได้รับบทเรียนมากมาย 

กุนซือชาวสแปนิชส่ง 2 จาก 5 ผู้เล่นใหม่ที่ดึงมาในช่วงซัมเมอร์ลงตัวจริงคือ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส ในตำแหน่งเซนเตอร์ และ มัตเตโอ เกวนดูซี่ ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสลงลุยแดนกลาง

การเลือก เกวนดูซี่ ถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควร แต่หากดูผลงานช่วงปรีซีซั่นจะเห็นว่าเจ้าหนูวัย 19 ปีเล่นได้ยอดเยี่ยมและได้โอกาสครั้งสำคัญในชีวิต

ฤดูกาลก่อน เกวนดูซี่ ยังเล่นในระดับลีก เดอซ์ ให้ลอริยองต์ ผ่านมาเพียง 3 เดือน เขาได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดแรกและเจอยอดทีมอย่างแมนฯ ซิตี้

จากไลน์อัพแรกที่เห็น อาร์เซน่อลเหมือนเล่น 4-2-3-1 กรานิต ชาคา จับคู่กับ เกวนดูซี่ ตรงกลาง ส่วน 3 ตัวรุกใช้ เฮนริค มคิทาร์ยาน, อารอน แรมซี่ย์ และ เมซุต โอซิล โดยมี ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง เป็นหน้าเป้า อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ หลุดเป็นสำรอง

แต่พอเล่นจริงเหมือน 4-3-3 มากกว่า แถมการยืนตำแหน่งของหลายคนยังค่อนข้างแปลกตา 

โอซิล ถอยลงต่ำยืนเป็นหนึ่งใน 3 มิดฟิลด์โดยขยับออกด้านขวา เกวนดูซี่ อยู่ตรงกลาง และอีกฝากเป็น ชาคา

คนที่ป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษและพยายามวิ่งเพรสใส่คู่เซนเตอร์เรือใบกลับไม่ใช่หน้าเป้าอย่าง โอบาเมย็อง หากแต่เป็น อารอน แรมซี่ย์ 

เราเห็น เอเมรี่ ทดลองระบบการเล่นตลอดช่วงปรีซีซั่น การยืน 4-2-3-1 ที่คล้าย 4-3-3 ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ตำแหน่งการเล่นของ โอซิล และ แรมซี่ย์ ถือว่าไม่ได้เห็นบ่อย 

โอบาเมย็อง ออกด้านข้างมากกว่าในช่วงแรกเพราะ เอเมรี่ หวังใช้ทีเด็ดในเรื่องความเร็ว ความคล่องตัวสู้กับแบ็กแมนฯ ซิตี้ 

การไม่มีริมเส้นอาชีพทำให้ เอเมรี่ ต้องเลือกทางออกแบบนี้เหมือนที่ทำบ่อยครั้งการเตรียมทีมตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่นั่นก็เท่ากับลดทอนศักยภาพของดาวยิงค่าตัวสถิติสโมสรโดยเปล่าประโยชน์ 

เอเมรี่ มีกองหน้าชั้นดีอยู่ในทีม 2 คน แต่ไม่มีใครอยู่ในพื้นที่สุดท้ายเพื่อจบสกอร์ โอบา ถ่างออกด้านข้าง ขณะที่ ลากาแซตต์ ถูกขังไว้ข้างสนาม 


แมนฯ ซิตี้ สมควรเป็นผู้ชนะในนัดนี้

การยืนตำแหน่งของอาร์เซน่อลยังดูสับสน และไม่รู้บทบาทแน่ชัดของตัวเอง มาเจอแมนฯ ซิตี้ ที่ระบบแน่นกว่า เลยได้เห็นจุดหละหลวมอย่างมาก 

แมนฯ ซิตี้ เล่นในเกมของตัวเองได้ดีกว่าทั้งที่ในไลน์อัพตัวจริงไม่มี เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา และ ลีรอย ซาเน่ ที่เป็นตัวหลักจากฤดูกาลก่อน ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เพิ่งกลับมาซ้อมได้ไม่กี่วันและไม่ได้ผ่านเกมปรีซีซั่นแม้แต่นัดเดียว

เรือใบมีความพร้อมเรื่องตัวผู้เล่น "น้อยกว่า" อาร์เซน่อลด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่มีมากกว่าความ "ความเข้าใจในการเล่น" 

อย่างที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กล่าวเอาไว้หลังเกมว่า "เราขาดผู้เล่นไปหลายคน แต่ว่าทีมชุดนี้รวมตัวกันมา 2 ฤดูกาลแล้ว และรู้ว่าต้องทำอะไร ในภาพรวมเราทำผลงานได้ดีขึ้นในทุกวัน และจะดียิ่งขึ้นไปอีก"

เรือใบตัวไม่ครบแต่ระบบแน่น ขณะที่ปืนใหญ่ตัว (เกือบ) ครบ แต่ระบบหลวม 

อาร์เซน่อลต้องรอจน 10-15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกถึงตั้งเกมของตัวเองได้ ในช่วงออกสตาร์ต 30 นาที ไม่ได้เห็นการเล่นที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และกลายเป็นฝ่ายที่ต้องวิ่งไปตามจังหวะของแมนฯ ซิตี้ มากกว่า

แนวรุกเรือใบไล่เพรสตั้งแต่แดนบนจนปืนใหญ่งัดบอลออกมาแทบไม่ได้ แผงหลังทำได้เพียงถ่ายบอลขวางสนามให้กัน ปีเตอร์ เช็ก ถูกบีบให้ต้องเปิดบอลด้วยเท้าหลายครั้งและทำเสียวจนเกือบเสียประตูอย่างไม่น่าเชื่อ 

อันที่จริง แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้โหมเต็มศักยภาพด้วยความที่ตัวผู้เล่นยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นอาร์เซน่อลเองที่จูนกันยังไม่ติดและเปิดช่องว่างมากมาย ประตูแรกของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิ่งเห็นชัดถึงการยืนตำแหน่งสับสน   

รูปเกมอาร์เซน่อลดีขึ้นเล็กน้อยตอนส่ง ลากาแซตต์ ลงมาซึ่งเป็นการเปลี่ยนที่ถูกต้องเพราะ แรมซี่ย์ ไร้บทบาทอย่างมาก ตลอดทั้งเกมก่อนถูกเปลี่ยนออก จ่ายบอลสำเร็จเพียง 7 ครั้ง 

หากจะหวังทำประตูคืนก็ต้องส่งกองหน้าอาชีพลงไปเพิ่ม ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน ใช้คนให้ถูกตามตำแหน่งเพื่อรีดศักยภาพออกมาให้มากที่สุด 

อูไน เอเมรี่ ไม่เคยเอาชนะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้เลยในการเจอกัน 10 ครั้งก่อนหน้านี้ และเกมนี้ก็สมควรแล้วที่สถิติยืดขยายเป็นนัดที่ 11

สิ่งที่พอสรุปได้ในนัดแรกของ เอเมรี่ คือ อาร์เซน่อลแพ้ให้กับทีมที่ดีกว่า ไม่ใช่ความพ่ายแพ้แบบน่าอับอาย และต้องไม่ลืมว่า เอเมารี่ เพิ่งเริ่มต้น และต้องการเวลาในการสร้างทีม 

การมาแทนที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่คุมทีมยาวนานเกือบ 22 ปีเป็นภารกิจหนักอึ้งอยู่แล้ว การจะพาทีมก้าวไปสู้การเล่นในรูปแบบแนวทางของตัวเองจึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ 


อูไน เอเมรี่ ต้องการเวลาในการสร้างอาร์เซน่อล

ผลการแข่งขันไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ แต่ เอเมรี่ ต้องการเวลาอีกหน่อย เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ลุยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกด้วยกันยังบอกว่าขอปรับจูนเชลซีอีก 2-3 เดือนถึงจะเล่นได้อย่างที่ควรจะเป็น 

ปืนใหญ่ชุดมรดกตกทอดก่อน เวนเกอร์ จากไป ไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์พร้อมอย่างที่เราเห็นกัน ปัญหาหลายอย่างซุกซ่อนอยู่ และต้องปรับแก้ไปทีละนิด 

ขนาด เป๊ป ที่ว่าเป็นยอดกุนซือประสบความสำเร็จมากมายทั้งที่บาร์เซโลน่าและบาเยิร์น มิวนิค ยังไปไม่เป็นในฤดูกาลแรกกับแมนฯ ซิตี้ 

  ดังนั้น เอเมรี่ จึงไม่ควรถูกตัดสินผลงานเร็วเกินไป นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น และฤดูกาลยังอีกยาวไกล

แฟนอาร์เซน่อลเจอช่วงเวลาน่าผิดหวังและท้อแท้ใจมาหลายปี แค่นี้ไม่ระคายผิวหรอก!! 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด