เก็บตกชัยชนะ 7 นัดติด
นับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ทีมของ อูไน เอเมรี่ ชนะ 5 นัดรวด และเป็นทีมเดียวในลีกที่เก็บ 15 คะแนนเต็มจาก 5 นัดหลังสุด
เป็นการแก้ตัวได้หมดจดงามหลังออกสตาร์ต 2 นัดแรกด้วยความพ่ายแพ้ต่อแมนฯ ซิตี้ และเชลซี
ชัยชนะนัดล่าสุดเหนือวัตฟอร์ดเป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดว่าการทำงานของ เอเมรี่ กำลังมาถูกทาง แม้ยังห่างไกลกับว่าสมบูรณ์แบบ แต่ดีขึ้นตามลำดับ
ข้อดีที่ไล่เรียงได้มีดังนี้
1. การปรับแท็กติกในครึ่งหลังได้ผลอีกครั้ง
ตลอด 45 นาทีแรก อาร์เซน่อลไม่ได้เหนือกว่าวัตฟอร์ดทั้งที่ได้เล่นในบ้าน และได้ลุ้นยิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียวจาก กรานิต ชาคา
กองหลังแตนอาละวาดยืนกันแน่นเป็นระบบ อีกทั้งมีลูกหนักและขยันไล่บอล แทบไม่เปิดช่องว่างข้างหลังให้อาร์เซน่อลได้หลุดทะลุเข้าพื้นที่อันตราย
ไม่แปลกใจที่ก่อนลงสนาม วัตฟอร์ด จะมีอันดับและคะแนนเหนือกว่าอาร์เซน่อลก่อนลงสนามเจอกัน
แต่อาร์เซน่อลก็ปรับจังหวะการเล่นให้เร็วขึ้นในครึ่งหลังโดยเฉพาะตอนที่ส่ง อเล็กซ์ อีโวบี้ ลงสนามแทน อารอน แรมซี่ย์
อีโวบี้ ลงมาสร้างความคึกคักและตื่นตัวให้เกมรุกปืนใหญ่อย่างมาก แข้งไนจีเรียพาบอลขึ้นหน้ารวดเร็ว ใช้จังหวะเข้าทำน้อยกว่า ไม่มากจังหวะแบบแรมซีย์
2 ประตูของทีมต้องให้เครดิต อีโวบี้ ทั้งเปิดกดดันจน เคร็ก แค็ธคาร์ท ที่เบียดอยู่กับ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ สกัดเข้าประตูตัวเอง และลูกปิดกล่องก็ป้ายออกขวาให้ ลากาแซตต์ ตบคืนมาให้ เมซุต โอซิล กระทุ่งนิ่มๆ
อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ลุยต่อเนื่องจนช่วยทีมเก็บชัยชนะสำเร็จ
2. ให้โอกาส ลากาแซตต์ จนจบเกม
หัวหอกชาวฝรั่งเศสมีโอกาสถึง 3 ครั้งที่จะทำประตูได้ แต่ก็พลาดไปหมดโดยเฉพาะครึ่งแรกที่แย่งบอลกองหลังวัตฟอร์ดได้ก่อนหลุดเดี่ยว แต่ว่าชิพบอลหลุดกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ
หากเป็นกุนซือคนอื่นคงถอดอดีตดาวยิงโอลิมปิก ลียง ออกจากสนามแน่นอนในช่วงที่ต้องปรับหมากท้ายเกม แต่ อูไน เอเมรี่ เลือกเก็บเอาไว้ และก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในที่สุด
ลากาแซตต์ ยังคงขยันในการเข้ากดดันแนวรับทีมเยือน การพรวดเข้าเขตโทษไปจุดนัดพบก่อน อีโวบี้ เปิดบอลเข้ามา บีบให้ เคร็ก แค็ธคาร์ท ต้องตามประกบและก็เป็นแนวรับแตนอาละวาดที่ทำพลาด จากนั้นก็แอสซิสต์ให้ โอซิล ทำประตูฝัง 2-0
ยิงไม่ได้แต่มีส่วนร่วมกับประตูไม่ต่างจาก อีโวบี้ และตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจของกุนซือได้เป็นอย่างดี
3. ร็อบ โฮลดิ้ง ไม่ทำให้ผิดหวัง
อูไน เอเมรี่ สามารถเข็น โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส ลงสนามก็ได้เพราะหายเจ็บซี่โครงกลับมาซ้อมได้แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่กุนซือปืนโตเลือกให้โอกาส ร็อบ โฮลดิ้ง ต่ออีกนัด
โฮลดิ้ง ได้เล่นเต็มเกมทั้งยูโรปา ลีก และคาราบาว คัพ รวมถึงท้ายครึ่งแรกกับเอฟเวอร์ตัน ทำให้ เอเมรี่ ได้เห็นศักยภาพอย่างเต็มที่และเลือกให้ออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของฤดูกาล
อดีตดาวรุ่งโบลตัน เจอบททดสอบหนักทีเดียวในการรับมือ ทรอย ดีนี่ย์ และ อันเดร เกรย์ ที่ทั้งถึกและแกร่ง นอกจากนี้ยังมี ไอซัค ซัคเซส ในครึ่งหลังอีกราย ทว่ายังทำผลงานได้น่าประทับใจทีเดียว
ร็อบ โฮลดิ้ง รับมือ ทรอย ดีนี่ย์ ได้ค่อนข้างดี
ตลอด 90 นาที โฮลดิ้ง เคลียร์บอลได้ 7 ครั้ง ตัดบอลได้ 3 ครั้ง และแย่งบอลกลับมาเป็นฝ่ายครอบครองได้ 9 ครั้ง
ผลงานของ โฮลดิ้ง ทำให้ เอเมรี่ อุ่นใจได้มากขึ้นในการโรเตชั่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กเผื่อให้ ชโคดราน มุสตาฟี่ และ ปาปาสตาโธปูลอส ได้พักบ้าง ในช่วงที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ กับ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอฟ ยังไม่หายเจ็บกลับมา
4. กรานิต ชาคา เล่นดีเมื่อมี ลูกัส ตอร์เรยร่า
ผลงานของ กรานิต ชาคา ดูดีขึ้นจนน่าจับตามองใน 3-4 นัดหลังที่ได้เล่นร่วมกับ ลูกัส ตอร์เรยร่า
ใน 2 ฤดูกาลแรก ชาคา ถูกวิจารณ์พอสมควรว่าเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของอาร์เซน่อลเพราะสไตล์การเล่นติดประมาท และช้าเกินไปสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก อีกทั้งถูกต้องคอยทำหน้าที่ตัดเกมอีกแรงเพราะส่วนใหญ่ต้องเล่นคู่กับ อารอน แรมซี่ย์ ที่ไม่ใช่ตัวรับโดยธรรมชาติเช่นกัน
แต่พอมีตัวรับขนาดแท้อย่าง มัตเตโอ เกวนดูซี่ และ ลูกัส ตอร์เรยร่า มาคอยซ้อน ชาคา ก็ดูอิสระมาขึ้นในการเปิดเกมรุก ไม่ต้องพะวงเกมรับมากนัก
เอเมรี่ ทดลองให้ ชาคา-เกวนดูซี่ ในช่วงแรก แต่ยังไม่ไหลลื่นมากนักเพราะบอลไม่ค่อยขึ้นหน้า และจังหวะช้าไปนิด แต่พอเปลี่ยนมาเป็น ชาคา-ตอร์เรยร่า ก็เห็นได้ชัดว่าลงตัวมากกว่า
ตอร์เรยร่า เป็นนักเตะที่ขยัน และกล้าเข้าบอล เหมาะกับการเล่นในพรีเมียร์ลีก ที่สำคัญคือเล่นงาน เจอเพื่อนยืนว่างก็จ่ายทันที สไตล์ไม่ได้วิ่งพล่านแบบ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่เน้นรอจังหวะแล้วพรวดเข้าตัด
การมี ตอร์เรยร่า คอยทำหน้าที่เกมรับเต็มตัวทำให้ ชาคา เล่นได้ง่ายขึ้น สามารถแทงบอลสั้นยาวได้อย่างถนัด
ด้วยฟอร์มของทีมที่กำลังไปได้สวยตอนนี้ ชาคา-ตอร์เรยร่า คงได้จับคู่กันยาวๆ โดยมี เกวนดูซี่ คอยเป็นอะไหล่และลงมาแพ็คเกมให้แน่นขึ้นช่วงท้าย
5. แบรนด์ เลโน่ สอบผ่านกับนัดแรกในพรีเมียร์ลีก
อดีตนายทวารเลเวอร์คูเซ่นได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อ ปีเตอร์ เช็ก บาดเจ็บในท้ายครึ่งแรกที่พอเปลี่ยนลงปุ๊บ ผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดจบเกมทันที
ตลอด 45 นาทีหลัง เลโน่ เริ่มนับหนึ่งในลีกอังกฤษได้เยี่ยม ออกมาชกบอลได้แม่นยำในหลายจังหวะที่วัตฟอร์ดบอมบ์โด่ง อีกทั้งหยุดลูกยิงจ่อๆ ของ ทรอย ดีนี่ย์ ด้วยมือเดียว
แบรนด์ เลโน่ ประเดิมพรีเมียร์ลีกแทน ปีเตอร์ เช็ก ได้น่าพอใจ
โอกาสทองฝังเพชรของแตนอาละวาดมาจากการหลุดเดี่ยวของ อิซัค ซัคเซส ตัวสำรองที่กลางสัปดาห์ก็เพิ่งกดประตูสเปอร์สในคาราบาวคัพ ทว่าครั้งนี้ดันงัดบอลหลุดเสาไกลไปเส้นยาแดงผ่าแปด
ลูกนี้ก็ต้องให้เครดิต เลโน่ ด้วยไม่น้อยที่ออกมาปิดมุมเร็ว สร้างความกดดันให้ตัวรุกไนจีเรียจนทำพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่คือ 2 จังหวะสำคัญที่ เลโน่ ช่วยอาร์เซน่อลไม่ให้ตกเป็นรอง และเป็นอีกครั้งที่ เอเมรี่ ต้องขอบคุณผู้รักษาประตูตัวเองเหมือนวันที่ ปีเตอร์ เช็ก โชว์ฟอร์มพระเอกในเกมทุบเอฟเวอร์ตัน
6. เล่นไม่สวย แต่ต้องได้ผลลัพท์
มีสถิติบันทึกไว้ว่า นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา 7 นัด อาร์เซน่อล ไม่เคยนำคู่แข่งเลยเมื่อจบ 45 นาทีแรก และแทบไม่เคยมีนัดใดที่รูปเกมดีกว่าคู่แข่ง
นัดล่าสุดกับวัตฟอร์ดก็ไม่ต่างกัน เจอการยืนตำแหน่งและเข้าบีบเร็วของวัตฟอร์ดก็ทำให้ทีมของ เอเมรี่ เจอปัญหาอย่างมาก
ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมย็อง ต้องถอยลงมาล้วงบอลกลางสนามบ่อยครั้ง ตลอดครึ่งแรกเขาได้สัมผัสบอลสิบกว่าครั้งและไม่ได้โอกาสง้างเท้าเลย
ครึ่งหลังทำได้ดีขึ้น แต่ในภาพรวมต้องบอกว่ารูปเกมยังไม่เข้าตา ขาดความต่อเนื่อง ไม่ลื่นไหล
ทว่าสิ่งสำคัญคือ ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ เข้านิยม "Winning Ugly"
ไม่อยากเปรียบเทียบแต่อดนึกถึงยุค อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่ได้เพราะหลายต่อหลายนัดอาร์เซน่อลเล่นได้สวยงาม ต่อบอลเท้าสู่เท้าเพลินตา แต่ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้
ใครๆ ก็อยากดูบอลที่สนุกชวนมอง แต่สุดท้ายก็ต้องวัดกันที่ผลการแข่งขัน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT