ตัดเกรดแข้งปืนยุคเอเมรี่ ตอน 1
"ปืนใหญ่" อาจเริ่มต้นแพ้ใน 2 นัดแรกต่อแมนฯ ซิตี้ และเชลซี แต่จากนั้นอีก 16 นัดในทุกรายการ พวกเขาไม่ปราชัยต่อทีมใดอีกเลย
คะแนนในลีกตามหลังจ่าฝูงแมนฯ ซิตี้ ถึง 8 คะแนนก็จริง แต่หากมองว่านี่คือฤดูกาลแรกของ เอเมรี่ ที่ต้องเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เคยฝังแน่นหยั่งรากลึกในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ ผลงานที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าทำได้ดีเกินคาดทีเดียว
นอกจากผลการแข่งขันที่โอเคแล้ว นักเตะหลายต่อหลายคนก็มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและสามารถยกระดับการเล่นและปรับตัวเข้ากับกุนซือใหม่ได้
ในช่วงรอเกมระดับสโมสรกลับมาลงเล่นหลังเบรกทีมชาติ เราไปประเมินผลงานของนักเตะปืนใหญ่นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมาเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าแต่ละคนทำได้ดีเพียงใดในการร่วมงานครั้งแรกกับ อูไน เอเมรี่
แบรนด์ เลโน่ : 7
นายทวารทีมชาติเยอรมันใช้เวลาพักใหญ่เพื่อรอโอกาสของตัวเองก่อนยึดตำแหนงมือหนึ่งและทำผลงานได้เยี่ยมในช่วงหลังที่ ปีเตอร์ เช็ก บาดเจ็บ
จุดเด่นของ เลโน่ คือการตัดสินใจที่เด็ดขาดและรวดเร็วในการออกจากเส้นประตูเพื่อป้องกันลูกยิง และใช้เท้าได้ดีกว่า เช็ก มีที่ต้องปรับเล็กน้อยคือการรับมือลูกกลางอากาศ
ปีเตอร์ เช็ก : 6
ในช่วง 2 เดือนแรก อูไน เอเมรี่ ยึดมั่นให้ ปีเตอร์ เช็ก เป็นมือหนึ่งจนแฟนบอลหลายคนหายใจไม่ทั่วท้องเพราะมีปัญหาในการเปิดบอลด้วยเท้า
หลายต่อหลายครั้งเกือบทำให้ทีมตกที่นั่งลำบากแบบไม่จำเป็น แต่การเซฟประตูโดยทั่วไปก็ไม่ได้มีข้อผิดพลาด และมีช็อตซูเปอร์เซฟให้เห็นบ่อยด้วย
เอคตอร์ เบเยริน : 7
เจ้าพ่อแฟชั่นของทีมได้ประโยชน์จากการมาของ อูไน เอเมรี่ อย่างมากเพราะเล่นได้สม่ำเสมอขึ้นในฤดูกาลนี้ จุดที่พัฒนาชึ้นชัดเจนคือการตัดสินใจในการจ่ายบอลพื้นที่สุดท้ายทำให้แอสซิสต์ไปแล้ว 4 ประตูในฤดูกาลนี้
เบเยริน ยึดตำแหน่งแบ็กขวาได้ถาวรและเป็นชื่อแรกที่ต้องใส่ตัวจริง ไม่ได้เสียตำแหน่งอย่างที่หลายคนประเมินหลังทีมได้ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ มาร่วมทีม
สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ : 6
แบ็กขวาจอมเก๋าชาวสวิสเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับอาร์เซน่อลแบบเงียบๆ ไม่ได้มีอะไรฮือฮาและตอนนี้เพิ่งเป็นตัวจริงในลีกเพียงนัดเดียว หลายครั้งก็ต้องถูกโยกไปแก้ขัดในตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ไม่ถนัด
ผลงานโดยรวมที่พอเห็นยังไม่ใกล้เคียงที่จะเบียดตำแหน่งของ เบเยริน ได้ แต่ด้วยประสบการณ์และความมุ่งมั่นที่เต็มเปี่ยมก็มีประโยชน์ต่อทีม ต่อให้อยู่ข้างสนามไม่ได้ลงเล่นก็ตาม
โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส : 8
อดีตปราการหลังโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทำผลงานได้น่าประทับใจทีเดียวในการย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลเพราะไม่ได้เผยจุดอ่อนหรือทำให้แฟนบอลรู้สึกว่าผ่านช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพไปแล้ว
กองหลังทีมชาติกรีซคุมเกมรับได้แข็งแกร่ง อ่านเกมดี และไม่ได้ช้าเกินไปกับการเล่นในลีกอังกฤษ ตอนนี้มีเพียงอาการบาดเจ็บเท่านั้นที่ทำให้ความต่อเนื่องขาดตอนไป แต่หากฟิตเต็มที่เมื่อไหร่ก็เป็นอีกหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้
ชโคดราน มุสตาฟี่ : 7
มีทั้งดีและแย่ปะปนกัน หลายครั้งก็พลาดง่ายๆ จนนำไปสู่การเสียประตูเหมือนที่เห็นกันบ่อยในฤดูกาลก่อนๆ แต่ก็มีบางช่วงที่เล่นได้เหนียวแน่น คลายความกังวลลงได้บ้าง
ทว่าสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือความฟิต ถึงตรงนี้ มุสตาฟี่ เป็นผู้เล่นคนเดียวในทีมที่ลงสนามครบทุกนาทีในลีกฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นสถิติที่บ่งบอกถึงความสำคัญต่อทีมอย่างมาก
ร็อบ โฮลดิ้ง : 7
ฟอร์มการเล่นของ ร็อบ โฮลดิ้ง ในช่วงหลังรวมถึงการกลับมาฟิตอีกครั้งของ โซคราตีส ทำให้คนที่หนาวๆ ร้อนๆ ว่าจะหลุดตำแหน่งมากที่สุดคือ ชโคดราน มุสตาฟี่ เพราะกองหลังชาวอังกฤษกลับมาเล่นได้ดีเหมือนฤดูกาลแรกที่ฉายแววให้เห็น
ช่วง 6 สัปดาห์หลังที่ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่องก็แสดงให้เห็นคุณภาพฝีเท้าที่ดี การยืนตำแหน่ง การกะจังหวะเข้าบอลทำได้แม่นยำและเป็นมืออาชีพมากขึ้นซึ่งต้องให้เครดิต อูไน เอเมรี่ ที่เค้นเอาศักยภาพของเจ้าตัวออกมาได้อีกครั้ง
นาโช่ มอนเรอัล : 6
แบ็กซ้ายชาวสเปนเล่นได้คงเส้นคงวาต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ก่อนได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงจนพลาดช่วยทีมตลอดหนึ่งเดือนหลังสุดและทำให้ตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีมกลายเป็นจุดอ่อนในทันที
อูไน เอเมรี่ คงกำลังมองหาแบ็กซ้ายคนใหม่ในตลาดหน้าหนาวและซัมเมอร์ที่จะถึง แต่หาก มอนเรอัล ฟิตสมบูรณ์ เขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญต่อทีมไม่น้อยไปกว่าใคร และทำหน้าที่ได้อุ่นใจกว่า เซอัด โคลาซินัช
เซอัด โคลาซินัช : 4
"ไอ้รถถัง" เพิ่งได้ลงสนามเพียง 4 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้เนื่องจากเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานตลอด ช่วงปรีซีซั่นเจ็บหัวเข่าพักยาวถึงตุลาคม พอกลับมาเล่นได้ไม่ทันไรก็เจ็บแฮมสตริงพักไปอีก 3 สัปดาห์
โคลาซินัช ลงตัวจริงในเกมลีก 2 นัดหลังสุด แต่ยังดูเหมือนความฟิตไม่ถึง และยังมีปัญหาในเกมรับโดยเฉพาะการยืนตำแหน่งพอสมควร
(รอติดตามตอน 2 ในวันจันทร์)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT