ฝ่าวิกฤตเกมรับ

โฮลดิ้ง โชคร้ายถึงขั้นเอ็นเข่าฉีกในเกมที่อาร์เซน่อลบุกเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว

นับเป็นข่าวร้ายอีกครั้งของอาร์เซน่อลที่ก่อนหน้านี้ก็ต้องเสีย แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าทีมชาติอังกฤษที่เจ็บยาวและน่าจะหมดสิทธิ์กลับมาช่วยทีมในฤดูกาลนี้เช่นกัน

โฮลดิ้ง กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มการเล่นที่ดีหลังได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 เดือนหลังสุด ฝีเท้าพัฒนาขึ้นตามลำดับจนกลายเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในเกมรับ

ในช่วงที่ทีมรักษาความเหนียวแน่นไม่แพ้ใครอีกเลยนับตั้งแต่ 2 นัดแรก ร็อบ โฮลดิ้ง มีส่วนอย่างมากไม่ว่าจะจับคู่กับ ชโคดราน มุสตาฟี่ หรือ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส รวมถึงเล่นระบบหลัง 3 ก็ทำได้ดีไม่ขัดเขิน

อาการบาดเจ็บของเจ้าตัวทำให้ อูไน เอเมรี่ ต้องคิดหนักทีเดียวเพราะโปรแกรมในเดือนนี้ค่อนข้างชุก ขณะที่ครึ่งฤดูกาลหลังก็รับประกันความถี่ในการลงเล่นแน่นอนหากทีมยังมีลุ้นใน 4 รายการต่อไป 

เจาะลึกลงไปจริงๆ แล้ว เกมรับอาร์เซน่อลยังไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนสถิติของทีมที่ไร้พ่าย 21 นัดเพราะมีจุดผิดพลาดเกิดขึ้นในแต่ละนัด

จาก 16 นัดในลีกฤดูกาลนี้ ปืนใหญ่เสียไปแล้ว 20 ประตู มากกว่าน้องใหม่อย่างวูล์ฟแฮมป์ตัน รวมถึงเอฟเวอร์ตันเสียอีก นอกจากนี้ยังเก็บคลีนชีตได้เพียง 3 นัดเท่านั้น

เมื่อ โฮลดิ้ง ปิดเทอมไปแบบนี้ ความวิตกกังวลในเกมรับจึงเพิ่มทันที 

เอเมรี่ จะแก้ปัญหาอย่างไร ความเป็นไปได้ใน 5 ข้อต่อไปนี้น่าจะพอเป็นทางออกได้

1. ใช้งานผู้เล่นเท่าที่มีอยู่

ชโคดราน มุสตาฟี่ กับ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส เป็น 2 เซนเตอร์ตัวหลักที่เหลืออยู่ แต่ในเกมลีกนัดต่อไปกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็ดันมาติดโทษแบนพร้อมกันหลังได้รับใบเหลืองครบโควตา 5 ใบ 

อูไน เอเมรี่ เพิ่งได้ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นสำรองในเกมชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ 1-0 คาดว่าน่าจะได้ลงสนามในเกมยูโรปา ลีก กับคาราบัควันพฤหัสบดีนี้ และจะเป็นการคัมแบ็กอีกครั้งในรอบ 8 เดือนหลังเจ็บหนักจากปลายฤดูกาลก่อน 

ขณะที่ ดีนอส มาฟโรปานอส ที่ได้โอกาสในช่วงท้ายฤดูกาลก่อน ก็อยู่ในช่วงเรียกความฟิตหลังเจ็บหนักช่วงซัมเมอร์ คาดว่าจะกลับมาซ้อมได้ในเดือนนี้ และน่าจะพร้อมเป็นตัวเลือกในเดือนมกราคม

โซคราตีส กับ มุสตาฟี่ ห้ามเจ็บเพิ่ม

2. โยกผู้เล่นตำแหน่งอื่นแก้ขัด

สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ แบ็กขวาจอมเก๋าถูกขยับเข้าไปยืนเป็น 1 ใน 3 ปราการหลังตัวกลางตอนที่ โฮลดิ้ง เจ็บ และเกมต่อมากับฮัดเดอร์สฟิลด์ ก็ได้ลงตัวจริง

อีกคนที่เล่นได้คือ นาโช่ มอนเรอัล ที่เพิ่งกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในรอบ 6 สัปดาห์ แบ็กชาวสเปนเคยเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ทั้งระบบแบ็กโฟร์และหลัง 3 มาแล้วในยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากต้องใช้งานทั้ง ลิชต์สไตเนอร์ และ มอนเรอัล เข้าไปยืนเซนเตอร์ก็ควรเล่นระบบหลัง 3 มากกว่าเพราะหากยืนเป็นเซนเตอร์คู่ก็คงทำได้ไม่สมบูรณ์แบบนักและอาจกลายเป็นจุดอ่อนเพราะไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติ 

นอกจากนี้ยังมีตัวละครลับอีกรายอย่าง คาร์ล เจนกินสัน ที่เคยถูกโยกไปเล่นเซนเตอร์ในเกมยูโรปา ลีก กับวอร์สคลามาแล้ว รวมไปถึง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ กองกลางทีมชาติอียิปต์ที่ก็เคยเล่นตำแหน่งเซนเตอร์เช่นกัน 

มอนเรอัล (ขวา) สามารถเล่นเซนเตอร์ได้

3. ต้องซื้อเท่านั้น

ตลาดหน้าหนาวเปิดโอกาสให้ อูไน เอเมรี่ ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับการซื้อนักเตะใหม่และสโมสรก็มีเงินให้จำนวนนึงแม้จะไม่ได้มากนักก็ตาม

ก่อนหน้านี้อาร์เซน่อลเคยมีข่าวกับ เอริก ไบยี่ ที่กลายเป็นสำรองของแมนฯ ยูไนเต็ดตลอดช่วงหลัง แต่ผีแดงและ โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่มีทางปล่อยนักเตะให้คู่ปรับโดยตรงในกลางฤดูกาลแน่นอน

เนธาน อาเก้ ของบอร์นมัธพัฒนาขึ้นมากหลังได้เล่นอย่างต่อเนื่อง หาก เอเมรี่ ต้องการจริงคงต้องทุ่มไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์

งานนี้อาจต้องพึ่งสายตาอันแหลมคมของ สเวน มิสลินตัท มากหน่อย

นาธาน อาเก้ เป็นตัวเลือกน่าสนใจแต่ค่าตัวแพงแน่

4. เรียกตัว คาลั่ม แชมเบอร์ส กลับจากปล่อยยืม 

แชมเบอร์ส ถูกปล่อยให้ฟูแล่มยืมใช้งานตลอดฤดูกาล แต่ในเดือนมกราคมนี้ อาร์เซน่อลสามารถเจรจาเพื่อขอดึงตัวกลับก่อนได้หากจำเป็น

สื่อในอังกฤษรายงานว่า อาร์เซน่อล ไม่มีเงื่อนไขในการดึงตัว แชมเบอร์ส ระหว่างฤดูกาล ทางเดียวคือต้องขอคุยกับเจ้าสัวน้อยเป็นกรณีพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ฟูแล่มเองก็ไม่อยากปล่อย แชมเบอร์ส กลับคืนอาร์เซน่อลแน่เพราะช่วงหลัง อดีตดาวรุ่งเซาธ์แฮมป์ตันทำผลงานได้ดีขึ้นมากหลังถูกปรับมาเล่นกลางรับจนได้รับคำชมจาก เคลาดิโอ รานิเอรี่

ปืนไม่มีเงื่อนไขดึง แชมเบอร์ส กลับก่อน ต้องคุยกับฟูแล่มเป็นกรณีพิเศษ

5. ดันดาวรุ่งขึ้นมาใช้งาน

มีอยู่ในข่าย 2 คนคือ ฆูลิโอ เปลเกวเซวโล่ ที่เคยเล่นในคาราบาว คัพ กับแบล็คพูล และอีกคนคือ เซ็ค เมดลี่ย์ วัย 18 ปีที่ได้ประเดิมสนามในยูโรปา ลีก กับวอร์สคลา 

ฆูลิโอ เปลเกวเซวโล่ ดาวรุ่งสเปนรอโอกาสของตัวเองเช่นกัน