รีสตาร์ตกันใหม่

สุดสัปดาห์ก่อน ปืนใหญ่แพ้เกมลีกนัดแรกต่อเซาธ์แฮมป์ตัน มาถึงกลางสัปดาห์ก็แพ้ต่อเนื่องกันในฟุตบอลถ้วย กลายเป็นพ่าย 2 นัดรวดหลังเหนียวแน่นไม่เสียท่าใครมา 22 นัดก่อนหน้านี้ 

ย้อนไปในเกมนอร์ธลอนดอน ดาร์บี้หน 2 ในรอบหนึ่งเดือน การจัดตัวของ อูไน เอเมรี ถือว่าเน้นพอสมควรทีเดียว 

กุนซือปืนโตเลือกทีมเกือบเต็มสูบเท่าที่จัดได้ ขาดเพียง เมซุต โอซิล ที่หลุดโผด้วยเหตุผลทางแท็กติก ส่วนสเปอร์สเองก็ขนตัวหลักลงเยอะ ทำให้สู้กันได้อย่างสนุกและสมศักดิ์ศรี 

ทว่าความแตกต่างคือความเฉียบขาดในการจบสกอร์ซึ่งต้องยอมรับว่าสเปอร์สทำได้ดีกว่า และสามารถถอนแค้นคืนได้หลังเคยพ่ายในเกมลีกเมื่อต้นเดือน

อาร์เซน่อลเสีย 2 ประตูที่มาจากการเช็กล้ำหน้าพลาดเพราะยืนลอยสูงแล้วไม่ระวังตัววิ่งของคู่แข่ง ปีเตอร์ เช็ก โดนล่อเป้าแบบนั้นยังไงก็เซฟไม่ได้

โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส พ้นโทษแบนกลับมาลงเล่นนับเป็นข่าวดี แต่การต้องยืนคู่กับ กรานิต ชาคา ที่ถูกถอยมาเล่นตำแหน่งเซนเตอร์อีกนัดก็ไม่ไหวเหมือนกัน

สิ่งสำคัญของผู้เล่นกองหลังคือการยืนตำแหน่งเพราะพลาดเพียงนิดเดียวก็ส่งผลเสียทันที หลายต่อหลายครั้งความพ่ายแพ้ก็มาจากความผิดพลาดง่ายๆ ในเกมรับ

ลูกแรกที่เสีย ชาคา ไม่ได้สนใจมอง ซน ฮึง-มิน ที่สอดมาข้างหลังตัวเอง กลายเป็นอยู่ในไลน์เดียวกัน คนนึงเตรียมวิ่งอยู่แล้ว อีกคนกลับตัววิ่งก็ตอนบอลข้ามหัวไปแล้ว จึงไม่มีทางไล่ได้ทัน

เช่นเดียวกับประตูที่ 2 ก็ไม่รีบเข้าประกบ แฮร์รี่ เคน ที่ได้พักอกเอาบอลลงอย่างใจเย็นก่อนเปิดให้ เดเล่ อัลลี่ หลุดไปยิงแบบสบายใจไร้กังวลเหมือนวิ่งเล่นกับหมาหน้าบ้าน

ชาคา ไม่รีบประกบ เคน ส่วน กอสซิแอลนี่ ก็ปล่อยให้ อัลลี่ วิ่งผ่านตัวเองไปดื้อๆ แทนที่จะเข้าขวางตั้งแต่เห็น เคน เอาบอลลง

เป็น 2 ประตูที่ไม่น่าเสียจริงๆ และก็เป็นการทำเกมรุกไม่กี่จังหวะของสเปอร์สด้วยซ้ำเพราะรูปเกมส่วนใหญ่ อาร์เซน่อลเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่มากกว่า

ความไม่พร้อมในเรื่องตัวผู้เล่นส่งผลเสียหายต่ออาร์เซน่อลอีกครั้ง โซคราตีส กลับมาช่วยทีมได้แต่ ชโคดราน มุสตาฟี่, เอคตอร์ เบเยริน และ เซอัด โคลาซินัช ยังไม่ฟิต เช่นเดียวกับ ร็อบ โฮลดิ้ง ที่เดี้ยงยาวไปแล้ว

การส่ง กอสซิแอลนี่ ลงตัวจริงต่อเนื่องหลังผ่าน 90 นาทีหนักๆ เมื่อสุดสัปดาห์ก็อาจเสี่ยงเกินไป เอเมรี่ จึงหาทางออกด้วยการส่ง กรานิต ชาคา ลงเล่นกับ โซคราตีส ไปก่อนแล้วค่อยปรับส่ง กอสซิแอลนี่ ลงไปเป็นกองหลังอีกคนในครึ่งหลัง

นัดกับเซาธ์แฮมป์ตัน ชาคา ยืนเป็นหนึ่งใน 3 กองหลังตัวกลางแต่ผลงานไม่เวิร์ก มานัดนี้ที่ต้องเล่นเป็นคู่เซนเตอร์ยิ่งต้องแสดงคุณภาพให้มากขึ้น แต่เห็นชัดว่าแข้งทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการแก้ปัญหา

ทางเลือกอื่นเป็นไปได้หรือไม่ อย่างเช่นให้ นาโช่ มอนเรอัล เล่นเซนเตอร์ดีกว่าเพราะยังไงก็มีเซนส์ของกองหลัง ส่วน ชาคา โยกไปแบ็กซ้าย

อเล็กซ์ อีโวบี้ ทำผลงานได้น่าผิดหวังอีกครั้ง

หรืออาจจะส่ง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ เล่นคู่กับ โซคราตีส ไปเลยเพราะในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ ก็เคยลองเล่นมาแล้ว ส่วน มอนเรอัล ลุยฝั่งซ้ายตามถนัด ขณะที่ ชาคา ไม่ต้องมาวุ่นวายกับตำแหน่งใดๆ ในเกมรับ ควรปักหลักตรงกลางตามที่ตัวเองถนัด

สุดท้าย ตัวเลือกที่ เอเมรี่ เลือก ไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้า

ปัญหาในเกมรับเป็นสิ่งที่พอประเมินกันได้อยู่แล้วว่าจะส่งผลรูปเกมและผลการแข่งขัน และ เอเมรี่ ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ แต่สิ่งที่น่าห่วงไม่แพ้ข้างหลังบ้านคือ "เกมรุก"

นัดนี้ได้โอกาสลุ้นทำประตูเยอะมากทั้งจบด้วยการยิงและเกือบได้ยิงแต่ก็ขาดๆ เกินๆ ในจังหวะสุดท้ายจนทำเสียของ

ก่อนที่ ซน ฮึง-มึน จะยิงประตูแรก เฮนริค มคิทาร์ยาน ควรต้องใส่สกอร์ให้อาร์เซน่อลนำก่อนเพราะหลุดเดียวในแบบเดียวกันเป๊ะ แต่ดาวเตะอาร์เมเนียก็ยิงได้น่าผิดหวังอย่างมากที่ซัดไปติดเซฟ

อารอน แรมซี่ย์ มีโอกาสไม่แพ้กัน แต่บางจังหวะก็เล่นยากไปอย่างตอนที่ โอบาเมย็อง ปั้มบอลได้ ก็ดันไปดีดส้นให้ มคิทาร์ยาน

ไอเดียอาจจะดี แต่โอกาสสำเร็จมีน้อย พอติดกองหลังสเปอร์สในทันทีก็เลยเสียบอลอย่างน่าเสียดายทั้งที่ควรจบด้วยการยิง

แต่ที่น่าผิดหวังที่สุดคือ อเล็กซ์ อีโวบี้ ที่ยิ่งเล่นยิ่งแย่ทั้งที่ช่วง 2 เดือนแรกเหมือนจะเป็นผู้เป็นและได้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกับ เอเมรี่

ลูกที่สเปอร์สนำก่อนก็มาจาก อีโวบี้ จ่ายพลาดแบบจ่ายไปไหนก็ไม่รู้ทั้งที่ โอบาเมย็อง รอรับบอลอยู่แล้ว พอสเปอร์สตัดได้ กาสซานิก้า ก็สาดยาวทันทีและแค่ 2-3 จังหวะก็เป็นประตูเลย

อีโวบี้ มีคุณสมบัติหลายอย่างที่นักเตะควรมี ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความเร็ว ความขยัน เช่นเดียวกับทักษะก็พอมี 

แต่ปัญหาคือไม่สามารถผสมผสานให้ออกมาพอดีได้เลย บังบอลได้ พลิกได้ แต่ก็จ่ายเสียง่ายๆ มีตัวล้อมหน้าล้อมหลังแต่ก็เลือกเลี้ยงมุดๆ ฝ่าไปซึ่งก็แทบไม่เคยสำเร็จ ยังไม่นับตอนที่ครองบอลอยู่กับเท้าตัวเองแท้ๆ แต่ก็โดนคู่แข่งจิ้มได้ง่ายๆ

นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา อีโวบี้ ได้โอกาสจาก เอเมรี่ เยอะมาก แต่ไม่สามารถตอบแทนความไว้วางใจได้อย่างที่ควรจะเป็น

ตอนนี้กลายเป็นว่า เอเมรี่ พึ่งพามิดฟิลด์ตัวรุกคนใดไม่ได้เลยทั้งที่มีกองหน้าชั้นดีทั้ง โอบาเมย็อง และ ลากาแซตต์ คอยจบสกอร์

โอซิล มีไอเดียแต่ขาดความแข็งแกร่งและหลุดทีมหลายนัดในช่วงหลัง แรมซี่ย์ ก็ออกแนว 3 วันดี 4 วันห่วย ไม่มีความสม่ำเสมอ

มคิทาร์ยาน ก็ธรรมดาเกินไป ไม่สามารถแบกทีมได้ ส่วน อีโวบี้ ยิ่งแล้วใหญ่ บางครั้งอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่าเคยซ้อมแปบอลบ้างหรือไม่เพราะไม่น่าเชื่อว่านักฟุตบอลอาชีพระดับนี้จะจ่ายบอลราวกับนักบอลกีฬาสี

มีกองหน้าพร้อมยิง แต่หากตัวสนับสนุนไม่สามารถปั้นเกมได้ก็ลำบาก ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เอเมรี่ ใช้งบเสริมทัพเท่าที่มีในการแก้ปัญหาที่เห็นชัดกว่าคือตำแหน่งกองหลัง, กลางรับ และผู้รักษาประตู

แต่ตอนนี้ ตัวทำเกมคืออีกจุดที่เริ่มเป็นปัญหาเพราะไม่มีใครฝากผีฝากไข้ได้เลย นี่คือปัญหาที่ อูไน เอเมรี่ ต้องหาทางแก้ไขให้ได้

ในเรื่องของการตกรอบอาจน่าผิดหวัง แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นถ้วยที่เล็กและสำคัญน้อยสุด อีก 3 รายการที่เป็นเป้าหมายหลักยังอยู่ในเส้นทางโดย เอฟเอ คัพ มีคิวลงสนามในเดือนหน้า

พลาดแล้วพลาดไป เริ่มต้นกันใหม่ สุดสัปดาห์นี้จะเปิดบ้านรับมือเบิร์นลี่ย์ในเกมพรีเมียร์ลีก 

3 คะแนนเท่านั้นเพื่อหยุดสัปดาห์แย่ๆ เพื่อได้รีสตาร์ตกันใหม่อย่างมั่นใจ