อนาคตโอซิล
เมซุต โอซิล คือหนึ่งในผู้เล่นที่อนาคตการค้าแข้งเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามในเวลานี้หลังหลุดจากทีมบ่อยครั้งทั้งด้วยสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมและไม่เข้าระบบของ อูไน เอเมรี่
ฤดูกาลนี้ โอซิล เพิ่งลงสนามไปเพียง 16 นัดจากทั้งหมด 30 นัดในทุกรายการ แบ่งเป็นเล่นครบ 90 นาที 7 นัด โดนเปลี่ยนออก 6 นัด และลงเป็นสำรองอีก 3 นัด
ใน 12 นัดที่ไม่ได้เล่นก็มีทั้งเป็นสำรองไม่ถูกใช้งาน, ป่วย, ไม่เหมาะกับเกมที่เล่นกันรุนแรงและปะทะหนักหน่วง, เจ็บหลัง และล่าสุด "เหตุผลทางแท็กติก"
ตอนต้นปีที่แล้ว โอซิล ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป แฟนบอลก็ต่างตั้งความหวังคงได้เห็นฟอร์มอันแท้จริงของเพลย์เมกเกอร์ที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดอีกคนในปัจจุบันเพราะไม่มีเรื่องนอกสนามให้ต้องกังวลอะไรอีก น่าจะได้ปล่อยของออกมาได้เต็มที่
แต่ผ่านมาเพียงปีเดียว คำถามเรื่องอนาคตผุดขึ้นมาอีกรอบ
โอซิล คือนักเตะคนสำคัญของ อาร์แซน เวนเกอร์ ถ้าไม่เจ็บไข้ได้ป่วยยังไงก็ลงตัวจริง และแทบไม่เคยถูกเปลี่ยนออกต่อให้อยู่ในช่วงฟอร์มไม่ดีก็ตาม
ทว่าความสำคัญในแงที่ว่าเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นลดลงไปมากในยุคของ อูไน เอเมรี่ ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีสไตล์การทำงานเป็นของตัวเอง และอยากเห็นนักเตะทุกคนทำงานอย่างหนักไปพร้อมกัน
เอเมรี่ ไม่สนนักเตะคนใดจะเป็นสตาร์ดังหรือมีโปรโฟล์ดีเลิศ เขาสนเพียงว่าสามารถเล่นได้ตามมาตรฐานและระบบที่วางเอาไว้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องนั่งสำรอง หรือไม่มีชื่อไปเลย ว่ากันตามสิ่งที่เห็นในปัจจุบัน
แฟนคลับของ โอซิล ย่อมไม่พอใจที่สตาร์คนโปรดหลุดจากทีมแบบนี้ แต่ในฐานะเฮดโค้ช เอเมรี่ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้เพราะคือคนที่เลือกนักเตะลงสนามในแต่ละนัด รวมถึงรับผิดชอบกับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น
ว่ากันว่า เอเมรี่ กับ โอซิล ขัดแย้งกันอย่างหนักเพราะกุนซือสแปนิชไม่พอใจที่สตาร์วัย 30 ปีไม่มุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับทีมมากพอ อีกทั้งการทำทีมของ เอเมรี่ ที่เน้นการไล่เพรสซิ่งก็ยิ่งไม่เหมาะกับสไตล์โอซิล
เอเมรี่ ไม่ผิดกับการตัดสินใจในกรณีของ โอซิล ทว่าสถานการณ์ที่คาราคาซังต่อไปแบบนี้จะทำให้อาร์เซน่อลเริ่มเจอปัญหามากขึ้น
โอซิล ต้องปรับตัวอย่างมากในการทำงานร่วมกับ เอเมรี่
ปัจจุบัน โอซิล รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ บอร์ดบริหารคงทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อนไม่ได้หากต้องจ่ายค่าเหนื่อยขนาดนี้แล้วนักเตะไม่ได้ลงสนาม
โอซิล มีสัญญาจนถึงซัมเมอร์ 2021 หรือราว 2 ปีครึ่ง นั่นหมายความว่าถ้าอยู่ครบสัญญา อาร์เซน่อลจะต้องจ่ายเงินมากถึง 45 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหาศาลทีเดียว
ค่าเหนื่อยของนักเตะทั้งทีมในปัจจุบันสูงกว่าอดีตที่ผ่านมามาก โอซิล คือผู้เล่นที่รับค่าเหนื่อยมากสุดในทีม แถมในช่วงเวลาเดียวกับที่ต่อสัญญาออกไป ทีมปืนใหญ่ก็หมดเงินไม่น้อยในการอัดค่าจ้างเพื่อล่อใจให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ย้ายมาร่วมทีม
การคุยสัญญาใหม่ของ อาร่อน แรมซี่ย์ ที่ล้มโต๊ะกลางคันก็เพราะอาร์เซน่อลจ่ายค่าเหนื่อยก้อนโตอีกไม่ได้แล้ว ทำให้ตัดสินใจเลือกที่จะรอวันแยกทางกับกองกลางทีมชาติเวลส์
ตอนนี้มีสื่อในอังกฤษต่างรายงานในทิศทางเดียวกันว่า อาร์เซน่อลอาจยอมรับฟังข้อเสนอซื้อตัว เมซุต โอซิล ในตลาดเปิดหน้าหนาวเดือนหน้านี้ รวมถึงช่วงซัมเมอร์
บาเยิร์น มิวนิค และ อินเตอร์ มิลาน กลายเป็น 2 ทีมที่มีข่าวมากที่สุดโดยเฉพาะฝั่ง "งูใหญ่" ที่ต้องการเพลย์เมกเกอร์ไปสร้างสรรค์เกม
หากอาร์เซน่อลไม่ได้ใช้งานเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทางออกคือปล่อยตัวออกไปเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ทว่าการแยกทางกับผู้เล่นระดับ โอซิล ก็ไม่ใช่เรื่องงายเช่นกัน
โอซิล เพิ่งต่อสัญญาไม่ถึงปี ตอนนี้มีความสุขดีกับการใช้ชีวิตในลอนดอนอย่างที่เจ้าตัวพูดอยู่หลายครั้ง ไม่ได้มีท่าทีว่าอยากจะย้ายไปเล่นให้ทีมอื่น
ทีมที่จะมาดึง โอซิล ไปร่วมทีมจะสามารถจ่ายค่าเหนื่อยระดับนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งไม่มีอะไรรับประกันด้วยว่าอดีตแข้งเรอัล มาดริดจะเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มและไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยแบบที่อาร์เซน่อลในตอนนี้
ปืนใหญ่กำลังจะเสีย แรมซี่ย์ ไปแน่ๆ หนึ่งคน
ปัจจุบัน โอซิล ก็อายุ 30 ปีแล้ว การย้ายทีมครั้งต่อไปน่าจะเป็นครั้งสุดท้าย และทีมที่จะซื้อตัวก็คงประเมินได้อยู่แล้วว่าจะไม่สามารถเรียกค่าตัวได้เท่าเดิมหากต้องขายต่ออีกทอด
ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ ดร. เออร์กุต โซกัต เอเยนต์ส่วนตัวต้องออกมาชี้แจงถึงอนาคตของดาวเตะเชื้อสายเติร์ก
"ผมไม่อยากพูดถึงสถานการณ์ของโอซิลต่อสาธารณะ แต่การคาดเดาตัวเขาเกี่ยวกับการย้ายออกจากอาร์เซน่อลในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมาชี้แจงให้ชัดเจนเพื่อยุติเรื่องราวเหล่านี้และกลับมาโฟกัสที่เกมฟุตบอล"
"เมซุต เซ็นสัญญาใหม่เมื่อมกราคมปีที่แล้วเพราะว่าเขามองเห็นอนาคตตัวเองที่อาร์เซน่อล ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความคิดเขา เขาต้องการอยู่ให้ครบตามสัญญาและบางทีอาจยาวนานกว่านั้น"
"เมซุตมุ่งมั่นให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์เซน่อล 100 เปอร์เซ็นต์ เขารักสโมสร รับผิดชอบต่อความสำคัญและไม่ต้องการย้ายไปที่อื่นใด"
"เขาภาคภูมิใจที่ได้สวมเสื้อตัวนี้และเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนอาร์เซน่อลทั้งในและนอกสนาม เขาผิดรับชอบ รวมถึงการถูกเลือกเป็นหนึ่งในกัปตันทีมฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และเขาก็ยังมีความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยมกับเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์ และแฟนบอล"
"ในปีที่แล้วมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับทุกคนที่สโมสรและในครึ่งแรกของฤดูกาลนี้ก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบนักสำหรับ เมซุต"
"เขาเจอทั้งปัญหาบาดเจ็บและอาการป่วย แต่ก็ทำงานอย่างหนักเพื่อปรับตัวเข้ากับระบบที่ต่างออกไปภายใต้การนำของเฮดโค้ช อูไน เอเมรี่ สิ่งนี้ต้องใช้เวลา แต่เขาจะทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อทำให้ได้และนำความสำเร็จมาสู่อาร์เซน่อล"
ในมุมตัวแทนของ โอซิล ยืนยันว่าเขายังมีความมุ่งมั่นและพร้อมปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นใหม่ แต่ก็อย่างที่เห็นกันมันไม่ง่ายแน่นอน
ส่วนการปล่อย โอซิล ทำให้ตัวเลยรายจ่ายสโมสรลดลงจริง แต่บอร์ดบริหารก็ต้องไม่ลืมว่าในจบฤดูกาลนี้ แรมซี่ย์ คือหนึ่งคนที่ต้องไปแน่ๆ นั่นเท่ากับว่าหาก โอซิล ไปด้วย อาร์เซน่อลจะเสีย 2 ตัวรุกทีดีที่สุดไปพร้อมกันซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อการสร้างทีม
ราอูล ซานเยฮี ที่ก้าวขึ้นมาบริหารสโมสรแทน อีวาน กาซิดิช ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจนและรวดเร็วเพราะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดที่ทำให้อนาคตของ โอซิล คลุมเครืออย่างที่เป็นในตอนนี้ แต่คนที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบต้องแก้ไขให้ได้ ตัดสินใจให้เด็ดขาด
เพราะปัญหาเฉพาะบุคคลไม่ควรปล่อยให้บานปลายจนกระทบต่อทีมทั้งทีมและทั้งสโมสร
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT