ปืนใหญ่น่าห่วง
อาร์เซน่อลพลาดท่าพ่ายอีกนัดในเกมที่เสียท่าเวสต์แฮม 0-1 ทำให้ไม่ชนะในเกมเยือน 5 นัดติดแล้ว และนับรวมทั้งฤดูกาล พวกเขาไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลย
จากที่เคยนำแมนฯ ยูไนเต็ดถึง 8 คะแนนก่อนเข้าสู่ช่วงบ็อกซิ่งเดย์ กลายเป็นว่าถูกผีแดงทำคะแนนขึ้นมาทาบเป็นที่เรียบร้อยหลังลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เก็บชัยชนะรวด 6 นัดติดในทุกรายการ
ผ่านมา 22 นัด อาร์เซน่อลเสียไปแล้ว 32 ประตู เป็นตัวเลขที่มากเกินไปแล้วสำหรับทีมที่วางเป้าหมายติดท็อปโฟร์
อูไน เอเมรี่ ใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมลีกในวันขึ้นปีใหม่ที่ชนะฟูแล่ม 4-1 การเปลี่ยนตัวก็สเต็ปเดียวกันคือส่ง อารอน แรมซี่ย์ กับ ลูกัส ตอร์เรยร่า ลงครึ่งหลัง ส่วนคนที่หายไปก็คนเดิม
ต่างเพียงนัดนี้ไม่สามารถเล่นแบบเดิมได้ เพราะนอกจากเวสต์แฮมเล่นได้ดีมากแล้ว ผลงานอาร์เซน่อลเองก็น่าผิดหวังอย่างมาก
ต้องให้เครดิตทีมขุนค้อนของ มานูเอล เปเยกรีนี่ ที่ขยันวิ่งขยันไล่บอลมากกว่า สปีดบอลก็เร็วกว่า ตัวรุกอย่าง ซามีร์ นาสรี่ ที่ไม่ได้เล่นเกมลีกมานานมากก็ยังเล่นได้ดีในการเจอทีมเก่า
ซามีร์ นาสรี่ เล่นงานทีมเก่าได้เยอะ
เฟลิเป้ อันแดร์สัน และ มาร์โค อาร์เนาโตวิช มีความสามารถเฉพาะตัวดีอยู่แล้ว จังหวะดวลกับผู้เล่นอาร์เซน่อลไม่เป็นรอง
ที่สำคัญคือ แนวรุก 3 คนนี้เล่นได้เข้าขา เอาตัวรอดดีในการเคาะบอลพื้นที่แคบ พอเสียก็วิ่งไล่ บีบให้อาร์เซน่อลต้องจ่ายบอลคืนหลัง
ตัวตัดเกมทั้ง มาร์ค โนเบิล และ เดแคลน ไรซ์ เด่นทีเดียวโดยเฉพาะไรซ์ที่อายุเพียง 19 ปี แต่ดักบอลสวยๆ ได้ตลอดก่อนตอกย้ำวันที่น่าประทับใจด้วยการทำประตูชัย
ขณะที่ตรงกลางอาร์เซน่อลทำเกมไม่ได้เลย กรานิต ชาคา กับ มัตเตโอ เกนดูซี่ จ่ายบอลออกข้างและคืนหลังเยอะไป จังหวะแทงบอลขึ้นหน้าแบบได้ลุ้นมีน้อย พอเก็บตกหน้าเขตโทษได้ก็เลือกยิงเองจนเสียของไปหลายครั้ง
เมื่อตรงกลางสร้างสรรค์เกมไม่ได้ และเล่นกันช้ากว่าเวสต์แฮม เกมของอาร์เซน่อลจึงตื้อตันไร้พิษสง สำรองอย่าง แรมซี่ย์ และ ตอร์เรยร่า ช่วยให้รูปเกมโอเคขึ้นนิด แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะทำประตูตีเสมอได้
ปืนใหญ่ใช้เวลามากไปในการต่อบอลและขึ้นเกมแต่ละที ผู้เล่นเวสต์แฮมจึงมีเวลาลงไปตั้งแนวรับกันได้หมด
เอเมรี่ จัดตัวห่วงเกมรับมากไปมีกองหลังถึง 5 คน และกลางรับอีก 2 เป็นแท็กติกที่บั่นทอนศักยภาพในเกมรุก และเมื่อจะอาศัยจังหวะโต้กลับก็ไม่ได้มีตัวที่พาบอลลุยได้ดี
อเล็กซ์ อิโวบี้ และ มัตเตโอ เกนดูซี่ เสียบอลเกิน โดนเบียดโดนแซะนิดหน่อยก็ล้ม ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ เคยประสานงานกันได้ดี แต่ขาดตรงนี้ไป อีกทั้งไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีมากพอ
เมซุต โอซิล หลุดทีมเพราะเหตุผลทางแท็กติกอีกครั้งทั้งที่สภาพร่างกายสมบูรณ์ ตรงนี้เอเมรี่อ้างได้เพราะเป็นโค้ชที่มีสิทธิ์ขาดในการเลือกทีม
แต่การตัดสินใจกรณีผู้เล่นระดับท็อปในทีมควรต้องเหมาะสมกว่านี้
เมซุต โอซิล ไม่ดีพอสำหรับ อูไน เอเมรี่
เอเมรี่ใส่ชื่อ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หัวหอกดาวรุ่งเป็นสำรอง แต่ก็ไม่กล้าใช้งาน แล้วแบบนี้สู้เอาโอซิลมาใส่แทนไม่ดีกว่าหรือ?
กุนซือปืนโตให้สัมภาษณ์หลังเกมว่าเลือกนักเตะที่เหมาะกับการเล่นนัดนี้ แต่แฟนบอลฟังแล้วคล้อยตามได้ยาก เพราะคุณภาพระดับโอซิลยังไงก็ไม่น่าแย่ถึงขึ้นหลุดโผ 18 คน
เห็นกันหลายนัดแล้วว่าอาร์เซน่อลมีปัญหาในการสร้างสรรค์เกมเวลาที่ไม่มีโอซิลอยู่สนาม
ไอเดียในการเปิดบอล สร้างสรรค์เกม และคิลเลอร์พาสที่โอซิลเหนือกว่าทุกคนอยู่แล้ว ไม่มีให้เห็นเลย และก็ไม่ใช่แค่เพียงเกมนี้แต่อีกหลายเกมที่ผ่านๆ มา
เอเมรี่กล้าตัดสินใจแบบนี้ก็ต้องรับผิดชอบกับผลการแข่งขัน เพราะทีมลงเอยด้วยความพ่ายแพ้
เหตุผลในการดร็อปโอซิลจึงไร้น้ำหนักอย่างมาก และเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
อย่างไรก็ตาม ประเด็นของโอซิลและคุณภาพนักเตะคนอื่นที่ช่วยทีมไม่ได้เช่นกัน ล้วนเป็นผลสะท้อนมาจากต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริง...สแตน โครเอนเก้
ความพ่ายแพ้นัดล่าสุดทำให้แฟนปืนสามัคดีรวมใจกันรุมประณามเจ้าของสโมสรชาวอเมริกันอีกครั้งในฐานะจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
คุณสมบัติเลวร้ายที่เจ้าของสโมสรฟุตบอลไม่ควรมี ต่างรวมอยู่ที่ตัวของโครเอนเก้ ไม่ว่าจะเป็นขี้เหนียว ใจแคบ ไม่มองโลกตามความเป็นจริง ไม่เข้าใจบริบทของฟุตบอลยุคปัจจุบัน ฯลฯ
อันที่จริงคือไม่รู้เรื่องฟุตบอลด้วยซ้ำเพราะเป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งมาจับตอนเข้ามาฮุบอาร์เซน่อล แต่ดันอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจมากสุดของสโมสร
อาร์แซน เวนเกอร์ ลงจากตำแหน่งแล้วแต่แทนที่จะใช้โอกาสนี้เปลี่ยนแปลงแบบสโมสรแบบเต็มที่ แต่ก็เปลี่ยนแค่ตัวบุคคล นโยบาย ''เหนียวเรียกพ่อ'' ยังเหมือนเดิม
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา อูไน เอเมรี่ ทำอะไรไม่ได้มากนักหรอกกับเงินเสริมทัพที่เท่ากับลิเวอร์พูลซื้อผู้รักษาประตูคนเดียว
ที่แย่ต่อเนื่องคือ ไม่มีทุนให้เพิ่มอีกในตลาดหน้าหนาวนี้ อยากได้ตัวใหม่ก็ต้องบากหน้าไปขอยืมชาวบ้านเอาเอง!!
ขนาดทีมที่มีเงินก็ใช่ว่าจะได้ตัวเลือกที่ดีในกลางฤดูกาล ดังนั้นก็ลืมไปได้เลยสำหรับอาร์เซน่อล
สแตน โครเอนเก้ เจ้าของทีมที่แฟนบอลเอือมระอา
โครเอนเก้ในฐานะเจ้าของสโมสรยังปล่อยให้การบริหารจัดการเรื่องสัญญานักเตะล้มเหลวอย่างมาก และทำให้ทีมมีเรื่องวุ่นวายนอกสนามไม่หยุด
ซัมเมอร์ 2017 จำต้องปล่อย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ออกจากทีมเพราะสัญญาเหลือปีเดียว และระหว่างฤดูกาล 2017/18 ก็ลุ้นแล้วลุ้นอีกกับสัญญาใหม่ของ เมซุต โอซิล และ อเล็กซิส ซานเชซ จนไม่สามารถโฟกัสในสนามได้เต็มที่
สุดท้ายต่อสัญญากับโอซิลได้ แต่รั้งอเล็กซิสไม่อยู่
การปล่อยนักเตะหลายคนเข้าสู่สัญญาปีสุดท้ายแบบนี้ทำให้เสียอำนาจการต่อรอง
มีอย่างที่ไหนกับการเสียผู้เล่นอย่าง อเล็กซิซ ซานเชซ, แจ็ค วิลเชียร์ และรายต่อไปอย่าง อารอน แรมซี่ย์ โดยไม่ได้เงินแม้แต่ปอนด์เดียว (อย่าไปนับการได้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ย้ายสวนทางจากแมนฯ ยูไนเต็ด ว่าเป็นข้อดี เพราะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น)
ขณะที่โอซิลซึ่งรับค่าเหนื่อยมากสุดสัปดาห์ละ 350,000 ปอนด์ ก็เล่นหนึ่งนัด และหายไปอีก 2-3 นัด
ไม่ใช่ความผิดของโอซิล เพราะเรื่องนี้เป็นบอร์ดบริหารต่างหากที่วางแผนผิดพลาดและเรียงลำดับความสำคัญของนักเตะต่างกันเกินไป
แรมซี่ย์ไม่ได้มีผลงานเป็นรองโอซิลมากนัก แต่หากสโมสรยอมจ่ายให้โอซิลได้ แล้วประเมินสถานการณ์ของแรมซี่ย์ อย่างไรจึงยอมล้มโต๊ะเจรจาและเลือกที่จะเสียนักเตะระดับนี้แบบฟรีๆ
การเสียนักเตะให้ทีมอื่นคือวิถีของฟุตบอล แต่หากบริหารจัดการได้ดีกว่านี้ก็จะสามารถเรียกค่าตัวที่เหมาะสมและได้เงินเข้าสโมสร เป็นรายได้อีกทาง เมื่อมีเงินจากส่วนนี้ก็ย่อมสามารถนำไปซื้อนักเตะใหม่ได้
แต่อาร์เซน่อลกลับล้มเหลว และจะไม่ยอมใช้เงินให้เกินกว่ารายได้ที่หามาได้ แถมโครเอนเก้ก็ไม่เคยควักทุนตัวเองแม้แต่แดงเดียวตลอดทศวรรษที่เข้ามาเกาะสโมสร
เงินขายนักเตะได้เพียงหยิบมือ ไม่มีรายได้ก้อนโตจากแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นฤดูกาลที่ 3 สุดท้ายก็มาลงที่การขูดเลือดแฟนบอลด้วยการเพิ่มค่าตั๋ว
เป็นความโชคร้ายของแฟนบอลอาร์เซน่อลที่มีคนอย่าง สแตน โครเอนเก้ มาเป็นเจ้าของทีม
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT