เมื่อตลาดวาย

ยอดช้อปปิ้งปีนี้ไม่ถึงครึ่งของปีก่อนเพราะตลอดทั้งเดือนมีการใช้เงินรวมเพียง 180 ล้านปอนด์ ตามตัวเลขที่ระบุโดยกลุ่มธุรกิจกีฬาของ "Deloitte" ขณะที่ปี 2018 ใช้เงินไปถึง 430 ล้านปอนด์

นับเฉพาะวันสุดท้ายก็ต่างกันพอสมควร ปีนี้มียอดช้อป 50 ล้านปอนด์ ส่วนปีก่อนอยู่ที่ 150 ล้านปอนด์

ดีลแพงสุดของวันสุดท้ายคือ มิเกล อัลมิรอน ที่นิวคาสเซิ่ลทุบสถิติสโมสร 20 ล้านปอนด์ดึงตัวมาจากแอตแลนต้า ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เมเจอร์ลีกปีล่าสุด นอกจากนี้ ทัพสาลิกายังได้ อันโตนิโอ บาร์เรก้า กองหลังจากโมนาโกมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว

ยอดซื้อวันสุดท้ายที่ลดจากปีก่อนอย่างมาก  

วูล์ฟแฮมป์ตัน เซ็นสัญญาถาวรกับ จอนนี่ อ็อตโต้ ที่ราคา 15 ล้านปอนด์หลังทำผลงานได้เยี่ยมในช่วงยืมตัว ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ก็เจียดเงิน 7 ล้านปอนด์ดึงดาวรุ่งโครแอตอย่าง อันเต้ ปาลาเวอร์ซ่า  มาร่วมทีมก่อนปล่อยให้ทีมเก่า ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท ยืมใช้งานจนถึงจบฤดูกาล

ในดีลยืมตัวที่เป็นไฮไลต์สุดคือ อาร์เซน่อล ได้ผู้เล่นใหม่คนเดียวในตลาดรอบนี้คือ เดนิส ซูอาเรซ ที่ยืมมาจากบาร์เซโลน่าพ่วงด้วยอ็อปชั่นซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์ 

เลสเตอร์ ซิตี้ ปรับแดนกลางดึง ยูริ ตีเลอม็องส์ กองกลางดาวรุ่งจากโมนาโกมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว สลับขั้วกับ อาเดรียน ซิลวา ที่โยกไปเล่นในลีก เอิง แทน

ขณะที่ ฟูแล่ม ก็เร่งเครื่องช่วงท้ายยืมตัว ลาซาร์ มาร์โควิช ปีกเซอร์เบียมาจากลิเวอร์พูลก่อนตลาดวายเพียง 90 นาที โดยก่อนหน้านั้นได้ตัว ฮาวาร์ด นอร์ดเวียท มาจากฮอฟเฟ่นไฮม์ด้วย

คริสตัล พาเลซ เซ็นสัญญายืมตัว มิชี่ บาตชูอายี่ มาจากเชลซีได้สำเร็จก่อนที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการหลังเที่ยงคืน หรือพ้นเส้นตายซื้อขายไปแล้วด้วยซ้ำ

ปีเตอร์ เคร้าช์ หัวหอกวัย 38 ปี ได้โอกาสกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งหลังย้ายร่วมทีมเบิร์นลี่ย์ ส่วนสโต๊ค ซิตี้ ก็ได้ตัว แซม โว้คส์ ย้ายสวนทางไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ 

ทีมพรีเมียร์ลีกทีมอื่นที่ซื้อตัวในวันสุดท้ายคือ ไบรท์ตัน ที่เซ็นสัญญากับ 2 ดาวรุ่งแต่ก็ปล่อยให้ทีมเก่ายืมใช้งานต่อไป 

ไปดูความเคลื่อนไหวในลีกรองกันบ้าง ซันเดอร์แลนด์ ทีมอยู่ในลีก วัน จ่ายเงิน 4 ล้านปอนด์คว้า วิลล์ กริ๊กก์ กองหน้าจากวีแกน

ส่วนขาออกที่น่าสนใจคือ อาร์เซน่อล ปล่อย เอมิล สมิธ โรว์ ดาวรุ่งวัย 18 ปีไปเก็บประสบการณ์กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกา เช่นเดียวกับ เวสต์แฮม ที่ส่ง รีซ อ็อกซ์ฟอร์ด ไปเสริมกระดูกกับเอาก์สบวร์ก 

ดีลแพงสุดพรีเมียร์ประจำหน้าหนาว 2019 

ในภาพรวมตลาดหน้าหนาวปีนี้ การย้ายทีมที่แพงสุดคือ คริสเตียน พูลิซิช ที่ย้ายจากดอร์ทมุนด์มาเล่นให้เชลซีด้วยค่าทตัว 58 ล้านปอนด์ ก่อนที่ทีมสิงห์บลูส์จะส่งให้เสือเหลืองยืมใช้งานต่อจนถึงช่วงซัมเมอร์

ที่เหลือไม่มีดีลไหนที่ค่าตัวเกิน 20 ล้านปอนด์ไม่ว่าจะเป็น มิเกล อัลมิรอน ที่ 20 ล้านปอนด์, โดมินิค โซลันกี้ จากลิเวอร์พูลไปบอร์นมัธที่ 19 ล้านปอนด์ และจอนนี่ กาสโตร ที่ 15 ล้านปอนด์

เอมิเลียโน่ ซาล่า หัวหอกตัวใหม่ของคาร์ดิฟฟ์จะติดในท็อปไฟว์ค่าตัวแพงสุดของตลาดรอบนี้หากไม่เกิดอุบัติเหตุระหว่างโดยสารเครื่องบินที่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา 

แต่ทีมที่สร้างประวัติศาสตร์จนได้คือ สเปอร์ส ที่ไม่เสริมผู้เล่นใหม่เลยทั้งตลาดซัมเมอร์และวินเทอร์ หรือตลอดฤดูกาล 2018/19 

ขณะที่ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน และ เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ได้ดึงแข้งใหม่เลยในตลาดหน้าหนาวรอบนี้ ส่วน เบิร์นลี่ย์ กับ เลสเตอร์ ที่ได้แข้งใหม่ทีมละคนก็เป็นการดึงมาร่วมทีมในวันสุดท้าย

การใช้เงินใน 2 ช่วงตลาดในแต่ละฤดูกาล 

อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมตลาด 2 ช่วงคือ ซัมเมอร์ และ หน้าหนาวเข้าด้วยกัน พรีเมียร์ลีกใช้เงินช้อปรวม 1.4 พันล้านปอนด์ มากที่สุดเป็นรองเพียงฤดูกาล 2017/18 ที่ทำยอดไว้ที่ 1.9 พันล้านปอนด์

ในความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็มีหลายดีลที่ไม่สามารถเจรจากันได้ ที่เด่นชัดสุดคือ อาร์เซน่อล ที่พลาดได้เป้าหมายไปหลายคนไม่ว่าจะเป็น อีวาน เปริซิช จากอินเตอร์ มิลาน, ยานนิค การ์ราสโก้ จากต้าเหลียน อี้ฟาง และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู จากปารีส แซงต์-แชร์กแมง

เรอัล เบติส และ ชาลเก้ ต่างให้ความสนใจในตัว วินเซนต์ ยานส์เซ่น กองหน้าส่วนเกินของสเปอร์สแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว 

เอฟเวอร์ตัน ใจแข็งบอกปัดข้อเสนอ 26.2 ล้านปอนด์ที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยื่นซื้อ อีดริสซ่า กาน่า เกย์ ในช่วงท้ายก่อนตลาดปิด 

ลีดส์ จ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพเกือบจะได้ ดาเนียล เจมส์ ปีกตัวเก่งของสวอนซีมาร่วมทีมแบบยืมตัวพ่วงอ็อปชั่นซื้อขาดที่ 8.5 ล้านปอนด์ แต่การตกลงกันก็ล่มในตอนท้าย 

แกรี่ เคฮิลล์ กองหลังจอมเก๋าของเชลซีที่กำลังหมดสัญญาในจบฤดูกาลนี้ ปฏิเสธข้อเสนอของ 3 ทีมไม่ว่าจะเป็น ยูเวนตุส, โมนาโก และฟูแล่ม เพื่อปักหลักที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปแม้โอกาสลงสนามจะน้อยนิดก็ตาม 

คัลลั่ม ฮัดสัน-โดออย ดาวรุ่งวัย 18 ปี ถูก บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่จากเยอรมันตามตื้ออย่างหนักตลอดทั้งเดือน แต่สุดท้ายเชลซียังไม่พอใจกับข้อเสนอ 35 ล้านปอนด์ ทำให้พี่เสือหมดความอดทนและถอนตัวไปในที่สุด

เกิดเหตุร้ายทำให้ ซาล่า มาไม่ถึงคาร์ดิฟฟ์

เช่นเดียวกับ เวสต์แฮม ที่หมายมั้นปั่นมืออย่างมากกับการคว้าตัว มักซี่ โกเมซ กองหน้าตัวเก่งของเซลต้า บีโก้ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์ ในช่วงเวลาเดียวกับที่ทีมในลีกจีนยื่อข้อเสนอก้อนโตขอซื้อ มาร์โก อาร์เนาโตวิช แต่สุดท้ายทั้งสองทีมก็ไม่เกิดขึ้น 

ในแง่ความเป็น "บิ๊กเนม" ก็แน่นอนว่า กอนซาโล่ อิกวาอิน คือการย้ายทีมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกหลัง เมาริซิโอ ซาร์รี่ พยายามแก้ปัญหาเกมรุกของเชลซีด้วยการดึงลูกน้องเก่ามาร่วมทีมอีกรอบ 

ส่วน บอร์นมัธ ของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มพระกาฬไล่อัดเชลซีถึง 4-0 ก็เสริมทัพน่าสนใจได้ทั้ง โดมินิค โซลันกี้ กองหน้าดาวรุ่งที่ค่าตัว 19 ล้านปอนด์ และ เนธาเนียล ไคลน์ แบ็กขวาด้วยสัญญายืมตัวจากลิเวอร์พูล

ทีนี้ก็ตามดูกันในช่วงที่เหลือว่า แข้งใหม่ที่ย้ายมาในหน้าหน้าวเหล่านี้จะสามารถช่วยทีมได้อย่างที่แต่ละสโมสรต้องการมากน้อยเพียงใด