โชคดีแรมซี่ย์
อาร์เซน่อลและยูเวนตุสยืนยันเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า แรมซี่ย์ ตกลงล่วงหน้าย้ายเข้าคอกม้าลายในซัมเมอร์นี้พร้อมเซ็นสัญญา 4 ปี ขณะที่ บีบีซี ระบุว่ารับค่าเหนื่อยมากกว่า 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ย้ำ....มากกว่า 4 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์!!!
สัญญาของแรมซี่ย์กับอาร์เซน่อลจะสิ้นสุดลงในจบฤดูกาลนี้ทำให้ย้ายทีมได้อย่างอิสระและเจ้าตัวก็เลือกแยกทางกับทีมหลังค้าแข้งมานาน 11 ปีเต็ม
กองกลางทีมชาติเวลส์จะย้ายร่วมทีมยูเวนตุสยักษ์ใหญ่กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลีในซัมเมอร์นี้ โดยในปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้มีการตรวจร่างกายล่วงหน้ากันไปแล้ว 2 รอบก่อนตกลงในรายละเอียดของสัญญาส่วนตัว
ก่อนหน้านี้ ดาวเตะวัย 28 ปีได้รับความสนใจจากหลายทีมใหญ่ทั่วยุโรปไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด ที่มี แกเร็ธ เบล เพื่อนร่วมชาติค้าแข้งอยู่และมีข่าวว่าพยายามชักชวนให้แรมซี่ย์ย้ายไปเล่นด้วยกันในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เช่นเดียวกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน ที่ต่างรุมขายขนมจีบกันถ้วนหน้า
แต่สุดท้ายเป็น "ยูเวนตุส" ที่ได้ลายเซ็นของแรมซี่ย์ไปครองซึ่งในหลายปีหลังต้องยอมรับว่าเชี่ยวชาญอย่างมากในการดึงนักเตะฝีเท้าดีเข้าสังกัดแบบที่แทบไม่ต้องเสียเงินก้อนโต
แรมซี่ย์ ย้ายจากคาร์ดิฟฟ์มาเล่นให้อาร์เซน่อลในปี 2008 ด้วยค่าตัวราว 4.8 ล้านปอนด์ ตอนนี้ลงเล่นไปแล้ว 259 นัด ทำได้ 61 ประตู พาทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย และคอมมูนิตี้ ชิลด์ อีก 2 สมัย
อาร์เซน่อลพยายามเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับแรมซี่ย์เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ว่าคุยกันไม่ลงตัว และเป็นทีมปืนใหญ่ที่ "ล้มโต๊ะ" เพราะไม่ยอมจ่ายค่าเหนื่อยตามที่ตัวแรมซี่ย์ต้องการ เลือกที่จะปล่อยหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในทีมออกไปโดยที่ไม่ได้ค่าตัวแม้แต่ปอนด์เดียว
ที่ต้องกัดฟันเลือกแบบนี้เพราะสโมสรไม่สามารถแบกรับค่าเหนื่อยของนักเตะได้มากกว่านี้อีกแล้วหลังจ่ายก้อนโตในหลายดีลโดยเฉพาะ 3 ดีลของ เมซุต โอซิล, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และ เฮนริค มคิทาร์ยาน
โอซิล ต่อสัญญาใหม่เมื่อหน้าหนาวปีที่แล้วพร้อมรับค่าเหนื่อยสูงลิบ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ โอบาเมย็อง ก็รับเละ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์หลังย้ายมาจากดอร์ทมุนด์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เช่นเดียวกับ มคิทาร์ยาน ที่ฟันไม่น้อยถึงสัปดาห์ละ 180,000 ปอนด์หลังสลับตัวย้ายทีมกับ อเล็กซิส ซานเชซ
แรมซี่ย์ กำลังนับถอยหลังช่วงเวลากับอาร์เซน่อล
3 คนนี้ทำให้อาร์เซน่อลหมดงบไปถึงสัปดาห์ละ 730,000 ปอนด์ซึ่งเป็นตัวเลือกที่สูงทีเดียวเพราะหากคิดเป็นหนึ่งปีก็มหาศาลเกือบ 39 ล้านปอนด์
ตัวแทนของแรมซี่ย์มองว่านักเตะในความดูแลไม่ได้มีคุณภาพฝีเท้าเป็นรอง โอซิล มากนัก ผลงานในสนามจับต้องได้อยู่แล้ว ดังนั้นตัวเลขค่าเหนื่อยควรต้องเพิ่มไปถึงระดับที่ใกล้เคียงกับสตาร์แชมป์โลก ยิ่งเมื่อเทียบกับ มคิทาร์ยาน ยิ่งต้องควรได้มากกว่า
แต่เมื่อบอร์ดบริหารอาร์เซน่อลฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ค่าเหนื่อยที่ให้ โอซิล รวมถึงอีก 2 คน "มาก" เกินไป จึงไม่อยากทุ่มไปกับแรมซี่ย์อีก สุดท้ายก็เลยเลือกทางออกที่เจ็บปวดนี้แทน
แน่นอนว่าการต้องเสีย อาร่อน แรมซี่ย์ ออกจากทีมฟรีๆ แบบนี้คือ "ความล้มเหลว" ของอาร์เซน่อลอย่างแท้จริงเพราะนักเตะระดับนี้ควรต้องเรียกค่าตัวได้ระดับ 50 ล้านปอนด์หากอยู่ในสัญญาปกติ
อาร์เซน่อลล้มเหลวมากหลายครั้งในการบริหารสัญญานักเตะไล่ตั้งแต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อเล็กซ์ อเล็กซ์ แชมเบอร์เลน, แจ็ค วิลเชียร์, อเล็กซิส ซานเชซ และล่าสุดกับแรมซี่ย์
บางคนจำต้องปล่อยในราคาสุดถูก บางคนก็ต้องปล่อยฟรี และบางคนก็ต้องเอาไปแลกกับนักเตะอีกเกรดเพราะปล่อยให้สัญญาเข้าสู่ระยะสุดท้ายจนสายเกินไปที่จะคุยสัญญาใหม่กันอีก
ที่ต่อสัญญากันได้อย่าง เมซุต โอซิล ก็ต้องทุ่มค่าเหนื่อยก้อนโตล่อใจจนสุดท้ายกลายเป็นส่งผลกระทบในวงกว้าง นักเตะคนอื่นในทีมก็ต้องยึดเอากรณีของดาวเตะเชื้อสายเติร์กเป็นบรรทัดฐานในการต่อรอง
ในช่วงที่ผ่านมา โครงสร้างการบริหารของอาร์เซน่อลเปลี่ยนไปอย่างมาก มีตำแหน่งใหม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับตัวบุคคลที่มีการปรับเปลี่ยนโยกย้าย ขณะที่บางคนอย่าง อีวาน กาซิดิช กับ สเวน มิสลินสตัท ก็แยกทางกันไป
ผู้บริหารเปลี่ยน นโยบายก็เปลี่ยน สถานการณ์ของ อาร่อน แรมซี่ย์ ก็ไม่เหมือนเดิม
จากตอนแรกที่เจ้าตัวหวังจะได้ต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปเพราะต้องการเล่นให้อาร์เซน่อลอยู่แล้ว กลายเป็นต้องนับถอยหลังเตรียมอำลาทีมอย่างเป็นทางการ
ในมุมของ แรมซี่ย์ ณ ตอนนี้ ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนเดิมอีกแล้วเพราะเข้าใจลึกซึ้งอย่างดีกับการถูก "เลือกปฏิบัติ" จากสโมสร และด้วยคุณภาพฝีเท้าที่มีระดับหนึ่งอยู่แล้วยิ่งทำให้ตัดสินใจได้ง่ายสำหรับการย้ายออกไปเพราะสิ่งที่ดีกว่า
ดีกว่าทั้งโอกาสลุ้นความสำเร็จ และค่าเหนื่อยมหาศาลชนิดที่ว่าหากอยู่ครบสัญญาก็ฟาดเนาะๆ ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านปอนด์ รวมไปถึงโบนัสอีกมากมายที่รออยู่
ส่วนในมุมของแฟนบอลอาร์เซน่อล สิ่งที่ทำได้ก็คงมีเพียงยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นและได้แต่บ่นเสียดายกับการต้องเสียนักเตะฟรีๆ อีกคน
อาร่อน แรมซีย์ จะไม่ใช่คนสุดท้ายแน่นอนตราบใดที่อาร์เซน่อลยังอ่อนหัดในการบริหารจัดการและยึดนโยบายรัดเข็มขัดจนไม่สามารถทุ่มค่าตัวหรือค่าเหนื่อยสู้กับทีมอื่นใด
สิ่งที่อยากบอกกับ แรมซี่ย์ ก็คือ "ขอให้โชคดี"
นายตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว...
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT