ยุทธการปราบผี

อาร์เซน่อลล้างแค้นแมนฯ ยูไนเต็ดที่เคยบุกมาเขี่ยตกรอบเอฟเอ คัพ ด้วยการเอาชนะคืนได้ 2-0 พร้อมปาดหน้าแซงขึ้นท็อปโฟร์อีกครั้ง

เป็นชัยชนะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อปืนใหญ่ทั้งการลุ้นท็อปโฟร์และเรียกความมั่นใจหลังปราชัยในศึกยุโรป

อาร์เซน่อลและแมนฯ ยูไนเต็ด ต่างเพิ่งผ่านเกมยุโรปและไปเยือนทีมฝรั่งเศสเหมือนกัน ทว่าบรรยากาศหลังจบเกมต่างกันโดยสิ้นเชิง 

ปืนใหญ่ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ปลายครึ่งแรกพลิกพ่ายต่อแรนส์ 1-3 ในยูโรปา ลีก งานหนักอึ้งรออยู่ในนัดสอง 

ต่างจากโดยสิ้นเชิงกับผีแดงที่บุกอัดปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-1 พลิกสถานการณ์เข้ารอบ 8 ทีมของถ้วยใหญ่ได้อย่างปาฏิหาริย์ 

แต่พอมาเจอกันในลีกกลับเป็นปืนใหญ่ที่สลัดความผิดหวังจากเกมยุโรปออกไปได้ 

อูไน เอเมรี่ เปลี่ยนทีมถึง 5 ตำแหน่งจากศึกยูโรปา ลีก แต่ที่เซอร์ไพรส์หลายคนคือการจัดทัพที่กล้าได้กล้าเสีย 

เมซุต โอซิล กับ อารอน แรมซี่ย์ รวมถึงคู่หัวหอก ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ได้ลงเล่นร่วมกันตั้งแต่นาทีแรกซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ 

ที่เซอร์ไพรส์อีกอย่างคือ ลูกรัก อเล็กซ์ อิโวบี้ และ มัตเตโอ เกนดูซี่ เป็นสำรองทั้งคู่ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยเช่นกัน 

เอเมรี่ เลือกไว้ใจประสบการณ์ของผู้เล่นมากกว่าความสด เพราะใน 11 ตัวจริงมีเพียง เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส ที่อายุต่ำกว่า 25 ปี

ปืนใหญ่เล่นกันได้กระชับรัดกุมอย่างมากกับการเจอแมนฯ ยูไนเต็ด ที่สภาพทีมดีขึ้นกว่าเดิมยุโรปเยอะ เพราะได้ทั้ง ปอล ป็อกบา และ เนมานย่า มาติช กลับมาช่วยตรงกลาง

"โอบา" แก้ตัวจากจุดโทษได้

ลูกน้องของเอเมรี่เป็นฝ่ายได้ครองเกมในช่วง 25 นาทีแรก แต่จังหวะจบเป็นทีมของ โซลชาที่ทำได้ชัดเจนกว่า

โรเมลู ลูกากู ที่กำลังเล่นมั่นใจจากผลงาน 6 ประตู ใน 3 นัดหลัง ได้ชาร์จชนคานและแหวกเข้าไปยิงติดเซฟ แบร์นด์ เลโน่ ขณะที่ลูกยิงไกลของ เฟร็ด ก็ถูกปฏิเสธโดยเสา

อาร์เซน่อลยิงเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวตลอดครึ่งแรก แต่ก็เพียงพอสำหรับการได้ประตูนำ เพราะลูกยิงติดสูตรของ กรานิต ชาคา เล่นงาน ดาบิด เด เคอา ได้ทันที 

เด เคอา อาจผิดพลาดในการยืนตำแหน่งที่ขยับไปซ้ายก่อน แต่ควรต้องให้เครดิต ชาคา ที่ยิงดีมาก เพราะลูกเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางดื้อๆ 

แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเกมกันค่อนข้างเนือย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยอมรับภายหลังว่าเฉื่อยไปเองในช่วงออกสตาร์ต แถมยังมาเสียประตูก่อนอีกต่างหาก

ทัพผีแดงฉวยโอกาสเข้าทำได้ดีกับ 2-3 จังหวะในครึ่งแรกจากรูปเกมที่ไม่ได้เป็นฝ่ายครองบอล

นี่คือจุดเด่นของผีแดงยุคโซลชา ที่ทำให้เห็นบ่อยครั้งเช่นเดียวกับเกมยุโรปที่รูปเกมเป็นรองเปแอสเชแต่ได้ถึง 3 ประตู

ทว่านัดนี้ต้องยอมรับว่าความแม่นยำในพื้นที่สุดท้ายและจังหวะจบสกอร์ของผีแดงไม่ลงล็อกมากนัก ขาดไปอย่างละเล็กละน้อย 

ชาคา กดเต็มข้อล่อเต็มแข้ง

แถมจุดที่เคยเล่นงานอาร์เซน่อลเหมือนที่ทำได้ในเอฟเอ คัพ เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อนก็ไม่มีให้เห็นเพราะอาร์เซน่อลเตรียมรับมือมาเป็นอย่างดี 

ในครึ่งแรก แอชลี่ ยัง ได้สาดบอลจากกลางสนามฝั่งไปถึงหน้าเขตโทษฝั่งขวาของอาร์เซน่อล ลูกากูดูดบอลลงก่อนไหลให้ ดีโอโก้ ดาโลต์ วิ่งเติมขึ้นมาก่อนเปิดหักเข้ากลางโดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่องเน้นๆ

วินาทีที่ จารย์ยัง เปิดบอล ผู้เล่นอาร์เซน่อลยังลอยกันสูงหลายคน ทว่าวิ่งลงมาช่วยเกมรับกันอย่างสามัคคีและมีถึง 6 คน เข้าไปในเขตโทษตอนที่แรชฟอร์ดได้ยิงติดบล็อกของ ชาคา ที่สไลด์ขวางหวุดหวิดจนได้รับบาดเจ็บ

แรมซี่ย์ถอยลงต่ำไปช่วยชาคาตรงกลาง ขนาบข้างด้วยวิงแบ็ก โคลาซินัช กับ เมทแลนด์-ไนล์ส 

4 ตัวนี้จึงยืนกันแน่นและไม่ได้เปิดพื้นที่ให้ 3 กองกลางของแมนฯ ยูไนเต็ด ได้เล่นอย่างถนัด

ส่วน 3 ตัวรุกผีแดงก็ต้องชนกับ 3 เซนเตอร์ปืนที่ทำหน้าที่ได้แข็งแกร่งทั้ง โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส และ นาโช่ มอนเรอัล 

ในเกมรุกอาจมีเพียง โอบาเมย็อง, ลากาแซตต์ และ โอซิล เป็นตัวหลัก แต่ 2 วิงแบ็ก รวมถึง แรมซี่ย์ ก็เติมช่วยตลอดโดยเฉพาะแรมซี่ย์ที่ขยันขันแข็งอย่างเต็มที่ในช่วงท้ายก่อนอำลาทีมไปร่วมทีมยูเวนตุสในช่วงซัมเมอร์

แข้งทีมชาติเวลส์มีสถิติการวิ่ง (13.7 กม.), การแท็คเกิล (8 ครั้ง) และชนะดวลตัวต่อตัว (12 ครั้ง) มากกว่าทุกคนในสนาม ตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถือว่าสมเหตุสมผล 

อาร์เซน่อลเซตระบบมาสู้กับแมนฯ ยูไนเต็ดได้ดีมาก มีเพียงช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลังที่แมนฯ ยูไนเต็ด ยกระดับการเล่นขึ้นมาและครองบอลได้เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงได้ยิงอีก 4 ครั้ง ทว่าก็ยังไม่แม่นยำมากพอ 

แต่ช่วงที่เหลือของเกม ปืนใหญ่ประคองตัวยืนระยะได้ดี ไม่ได้โหมเพรสซิ่งแต่คอยบีบพื้นไม่ให้เหลือช่องว่างหรือเทไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากเกินไป 

โอบาเมย็อง ได้โอกาสแก้ตัวยิงจุดโทษอีกครั้ง คราวนี้สังหารผ่านมือ เด เคอา ไปได้หลังสัปดาห์ก่อนพลาดในเกมนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้กับสเปอร์ส 

ส่วนหนึ่งที่อาร์เซน่อลเล่นเหมือนคนละทีมจากวันที่เสียท่าแรนส์ในเกมยุโรปก็คือการได้กลับมาเล่นในบ้าน และมีแฟนบอลคอยปลุกเร้าเป็นอย่างดี

เอเมรี่ ถึงกับออกมาชมหลังเกมว่าแฟนบอลในบ้านคือแรงผลักดันสำคัญมากในนัดนี้เพราะส่งเสียงเชียร์กันกระหึ่มตลอด 90 นาที 

แรงหนุนตรงนี้ทำให้อาร์เซน่อลยังคงทำผลงานต่อหน้าแฟนบอลตัวเองได้ดีและเก็บชัยชนะเกมลีกในบ้านได้ 9 นัดติดเข้าให้แล้ว

ผีแดงมีโอกาสเพียบแต่ทำไม่ได้

ในช่วงที่ป้อมปราการปืนใหญ่แข็งแกร่งก็ไล่อัดสเปอร์ส 4-2, ทุบเชลซี 2-0 และหยุดสถิติชนะนอกบ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ ของผีแดงยุคโซลชาลงได้

ผ่านมาถึงตรงนี้ อาร์เซน่อลเก็บคะแนนที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้แล้ว 41 คะแนน เท่ากับลิเวอร์พูลทำได้ที่แอนฟิลด์ และเป็นรองเพียงแมนฯ ซิตี้ (45 คะแนน) ทีมเดียวเท่านั้น 

เอเมรี่ และเดอะ กันเนอร์ส ทุกคนก็ต่างคาดหวังว่าแรงหนุนส่งจากแฟนบอลรอบสนามจะช่วยทีมอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ที่จะได้ล้างตาแรนส์คืนให้ได้

ยูโรปา ลีกก็สำคัญเพราะเป็นอีกเส้นทางให้ได้กลับคืนสู่เวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ในลีกก็ได้ลุ้นมากขึ้นหลังเก็บชัยชนะเหนือผีแดง

ตอนนี้ตามหลังสเปอร์สที่สะดุดบ่อยในช่วงหลังเหลือเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น แถมทัพไก่มีคิวเยือนลิเวอร์พูลในนัดต่อไปอีกด้วย 

ไปๆ มาๆ จากที่แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และเชลซี ต้องแย่งชิงโควตาสุดท้ายของชปล. ตอนนี้จะมีโควตาให้ลุ้นอีกใบคืออันดับ 3 แต่สเปอร์สก็ต้องลงมาเอี่ยวด้วยหลังแปรสภาพจากทีมลุ้นแชมป์เป็นลุ้นท็อปโฟร์เช่นกัน

อีก 8-9 นัดที่เหลือ การลุ้นไปชปล. น่าจะเข้มข้นและบีบหัวใจไม่แพ้การลุ้นแชมป์ระหว่างแมนฯ ซิตี้ กับลิเวอร์พูลแน่นอน

เดาตอนจบไม่ถูกเลยจริงๆ ว่าอันดับ 3, 4, 5 และ 6 จะเรียงลำดับกันอย่างไร