:::     :::

ก่อนจะถึงบากู

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เส้นทางในยูโรปา ลีก ของอาร์เซน่อลไม่เคยง่ายเพราะหลังจากเอาตัวรอดจากแรนส์มาได้ก็ต้องเจองานหนักต่อเนื่องด้วยการเปิดศึก "นาโปลี" ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

เป็นอีกครั้งที่ "ปืนใหญ่" เรียกฟอร์มเก่งในนัดสองและพลิกสถานการณ์ได้สำเร็จ ล้างแค้นแรนส์คืนได้ 3-0 หลังนัดแรกพ่ายมาก่อน 1-3

ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย ทีมของ อูไน เอเมรี่ ก็เคยออกไปเสียท่า บาเต้ บอริซอฟ มา 0-1 ก่อนเอาคืน 3-0 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เกมในบ้านของปืนใหญ่ยังคงไว้ใจได้โดยเฉพาะกับการจัดทัพที่แฟนบอลอยากเห็น

เอเมรี่ แทบไม่เปลี่ยนทีมจากเกมลีกที่ชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 โดยเปลี่ยนเพียง 2 ตำแหน่งตามสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยน

แบรนด์ เลโน่ ต้องหลีกทางให้ ปีเตอร์ เช็ก ที่จองเล่นรายการนี้อยู่แล้ว ขณะที่ ชโคดราน มุสตาฟี่ ได้เสียบแทน โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส ที่ติดโทษแบน อีก 9 ตำแหน่งชุดเดิม

ข่าวดีก่อนเกมคือ ยูฟ่า ลดโทษแบนของ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ จาก 3 นัดเหลือ 2 นัด ทำให้ลงเล่นในนัดนี้ได้หลังใช้โทษแบน 2 นัดไปแล้ว 

นั่นจึงทำให้ เอเมรี่ เลือกยึดระบบเดิม 3-4-1-2 ลุยต่อโดยมี ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง จับคู่กับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ในแดนหน้า ใช้ เมซุต โอซิล ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง

กรานิต ชาคา ลุยแดนกลางโดยมี อาร่อน แรมซี่ย์ เป็นคู่หูที่วิ่งขึ้นลงช่วยทั้งเกมรุกและรับ ขนาบข้างด้วยวิงแบ็กขวา-ซ้าย เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์ ไนลส์ และ เซอัด โคลาซินัช ส่วน 3 กองหลังเป็น โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, ชโคดราน มุสตาฟี่ และ นาโช่ มอนเรอัล

อาร์เซน่อลออกสตาร์ตเกมได้อย่างที่แฟนบอลอยากเห็นคือลุยแหลกเข้าใส่แรนส์แบบไม่ต้องคิดอย่างใดเพราะเงื่อนไขบังคับให้ต้องยิงอย่างน้อย 2 ประตู

แข้งปืนใหญ่เริ่มเกมด้วยความตื่นตัวอย่างมากและได้ในสิ่งที่ต้องการคือ ประตูนำเร็วตั้งแต่ 4 นาทีเศษจาก โอบาเมย็อง ซึ่งเป็นการต่อบอลที่สวยและลงล็อกทุกจังหวะ


เมทแลนด์ ไนลส์ โหม่งนำ 2-0

ประตูที่ 2 มาเร็วเช่นกัน และเป็นช่วงที่เกมรับของแรนส์กำลังเสียสมาธิอย่างมาก คราวนี้เป็นการโจมตีฝั่งซ้ายแต่ก็เป็น โอบาเมย็อง, แรมซี่ย์ และ เมทแลนด์ส ไนลส์ ที่ประสานงานกันอีกครั้งก่อนจบที่การโหม่งเต็มศีรษะของฝ่ายหลัง

ลูกนี้ต้องชม โอบาเมย็อง มากกว่าคนอื่นหน่อยเพราะลูกชิ่งของ แรมซี่ย์ เหมือนจะทำให้ทุกคนชะงักไปแล้วเพราะกำลังออกเส้นหลัง แต่หัวหอกกาบองก็ยังควบไปตวัดกลับเข้ามาให้ เมทแลนด์ส ไนลส์ วิ่งมาโขกเต็มดอก

2-0 เป็นสกอร์ที่เพียงพอต่อการเข้ารอบด้วยกฎอะเวย์โกล แต่ด้วยช่วงเวลาที่เหลืออีกมากถึง 75 นาที งานของอาร์เซน่อลจึงไม่ง่ายในการคอนโทรลทุกอย่างให้ตลอดรอดฝั่ง

แรนส์ เหมือนตื่นตัวกับ 2 ประตูที่เสียไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาพยายามต่อบอลและโจมตีคืนให้ได้ แต่มักเสียบอลในพื้นที่สุดท้ายที่อาร์เซน่อลยังเล่นเกมรับกันได้ดี

ครึ่งหลัง แรนส์ วางแผนแก้เกมได้ดีขึ้น การเพรสซิ่งหนักบีบให้ มุสตาฟี่ เสียบอลจนได้จบด้วยการยิงของ มามาดู เนียง ที่ ปีเตอร์ เช็ก ต้องปัดปลายนิ้วมือก่อนบอลชนเสาหวุดหวิด

ช่วง 20 นาทีหลังรีสตาร์ตเครื่องกันอีกรอบ แรนส์ ทำเกมรุกได้วูบวาบทีเดียว ขณะที่เกมรุกของอาร์เซน่อลก็ดร็อปลงไป

สถานการณ์ตอนนั้น 1 ประตูสำหรับแรนส์มีค่าอย่างมากเพราะจะทำให้พลิกเข้ารอบได้เลย พวกเขาจึงใช้การแทงตัดแนวรับซึ่งเกือบได้ผลหลายครั้งหากไม่ถูกเป่าล้ำหน้าไปเสียก่อน

เอเมรี่ จึงต้องรับขยับตัวเปลี่ยนเกมถอด เมซุต โอซิล ที่ไม่ค่อยโดดเด่นนักออกไปแล้วส่ง เฮนริค มคิทาร์ยาน ลงแทน เช่นเดียวกับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ที่หลีกทางให้ อเล็กซ์ อีโวบี้

การเปลี่ยนตัวของ เอเมรี่ ได้ผลทันทีเพราะ มคิ กับ อีโวบี้ ช่วยให้เกมรุกอาร์เซน่อลมีชีวิตชีวาขึ้นพอสมควร 

อีโวบี้ ได้โอกาสซัดเน้นๆ ตรงเส้นเขตโทษแต่บิดเท้ามากไป จากนั้นก็ลุยจี้ทำทางให้เพื่อนอีก 2 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นประตู

ส่วน มคิทาร์ยาน ก็เล่นดีสมกับการเป็นแข้งยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนล่าสุด รู้จังหวะการปล่อยบอลสั้น-ยาว และทำให้เกมรุกไหลลื่นอย่างมาก

ประตูปิดท้าย 3-0 ก็มาจาก มคิทาร์ยาน ที่ครองบอลหน้าเขตโทษรอให้ โคลาซินัช เติมขึ้นมาก่อนเปิดออกซ้ายและ พี่หมีก็ตบคืนมาให้ โอบา ชาร์จง่ายๆ 

น่าเสียดายเล็กน้อยที่อาร์เซน่อลน่าจะปิดจ๊อบได้สมบูรณ์แบบกว่านี้กับ 2 จังหวะที่ โอบาเมย็อง ควรต้องยิงประตูที่ 3 และ 4 ของตัวเอง แต่ก็พลาดไม่น่าเชื่อ


โอบาเมย็อง สวมหน้ากาก แบล็ค แพนเธอร์ ฉลองประตู

เพราะทำประตูที่ 4 ไม่ได้ แรนส์ ก็ยังคงมีความหวังเพราะหากยิงได้ 1 ประตู ทุกอย่างจะกลับมาเท่ากันและไปว่ากันในช่วงต่อเวลา

แรนส์ ก็รู้ว่าโอกาสยังมี พวกเขาจึงลุยในทุกจังหวะที่มีและพยายามเข้าหนักบีบให้อาร์เซน่อลตบะแตก เกมนี้มีใบเหลืองปลิวว่อนถึง 8 ใบ

แต่ท้ายที่สุด อาร์เซน่อล ก็เอาตัวรอดไปได้กับชัยชนะที่ต้องการในสกอร์ 3-0 ทำให้พลิกเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 4-3

ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เพิ่งจับสลากประกบคู่ อาร์เซน่อล เจองานหนักของจริงอีกขั้นเมื่อต้องเปิดศึก นาโปลี ทีมแกร่งจากอิตาลี และเป็นหนึ่งในทีมที่หล่นมาจากถ้วยใหญ่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ถือว่าเป็นคู่แข่งที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันเลยเพราะนาโปลีก็คือทีมเต็งแชมป์เช่นเดียวกับอาร์เซน่อลและเชลซี 

จะเป็นเกมที่ยากอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อย่างน้อยก็ยังไม่เจอเชลซีที่เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนอยากให้ไปวัดในรอบชิงฯ เลยดีกว่า


ผลประกบคู่ 8 ทีมยูโรปา ลีก

งานของอาร์เซน่อลหนักจริงกับการต้องวัดกับนาโปลีที่มี คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นกุนซือ แต่หากคิดหวังที่จะเป็นแชมป์เพื่อตั๋วพิเศษไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า

อาร์เซน่อลต้องผ่านให้ได้ และในรอบตัดเชือกจะต้องเจอผู้ชนะระหว่าง บาเลนเซีย กับ บียาร์เรอัล ทีมใดทีมหนึ่ง

ด้วยระบบการเล่นที่กลับมาลงตัวอีกครั้งและเลือกตัวผู้เล่นในแบบที่แฟนบอลอยากเห็น อาร์เซน่อลไม่จำเป็นต้องกลัวใครแล้วชั่วโมงนี้

ผ่านนาโปลีได้ โอกาสไปถึงรอบชิงชนะเลิศที่บากู, อาเซอร์ไบจาน มีสูงมาก

หวังว่าเชลซีจะไปตามนัด 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด