:::     :::

ค่ำคืนที่เกือบสมบูรณ์แบบ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อลผ่านเข้ารอบยูโรปา ลีก ได้สำเร็จหลังบุกย้ำแค้นนาโปลี 1-0 จากฟรีคิกสุดสวยของ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์

ประตูของ ลากาแซ็ตต์ สำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นอะเวย์โลกที่บังคับให้นาโปลีต้องยิง 4 ประตูจึงจะพลิกเข้ารอบซึ่งท้ายที่สุด นาโปลีทำไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว

การมาเยือนซาน เปาโล ในนัดสอง อูไน เอเมรี่ ปรับทีมเพียงตำแหน่งเดียวจากนัดแรกคือส่ง กรานิต ชาคา ที่หายเจ็บลงมาช่วยแดนกลางร่วมกับ ลูคัส ตอร์เรร่า พร้อมขยับให้ อาร่อน แรมซี่ย์ ขึ้นไปปั้นเกมอยู่ข้างหลังคู่กองหน้า อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ กับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

ด้วยสกอร์นัดแรกที่ตุนไว้แล้ว 2-0 และต้องมาเยือนนัดสอง เอเมรี่ จึงเลือกอัดแดนกลางให้แน่น ส่วนตำแหน่งตัวทำเกมที่เลือก อาร่อน แรมซี่ย์ ก็เพราะช่วยเกมรับได้มากกว่า เมซุต โอซิล 

ในช่วง 15 นาทีแรก อาร์เซน่อลเน้นเพรสซิ่งสูงช่วยกันไล่บีบตั้งแต่แดนบนจนทำให้นาโปลีไม่สามารถต่อบอลขึ้นมาได้ทั้งที่เป็นฝ่ายต้องบุกเพื่อยิงประตูเอาชนะคืนให้ได้

แต่การดันสูงของอาร์เซน่อลก็มีข้อผิดพลาดโดนนาโปลีตัดได้แล้วโต้กลับทันที ฟาเบียน รูอิซ, คาลิดู คูลิบาลี่ และ โฆเซ่ กาเยฆ่อน ควบขึ้นมาพร้อมกัน 3 คน ขณะที่อาร์เซน่อลเหลืออยู่ข้างหลังเพียง 2 คนคือ เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส และ กรานิต ชาคา

นาโปลีน่าจะได้ประตูนำอย่างมากในจังหวะนี้ ทุกอย่างลงล็อกหมด ฟาเบียน รูอิซ แทงขึ้นซ้ายให้ คูลิบาลี่ ที่ตบย้อนกลับคืนทางขวา ทว่า กาเยฆ่อน กลับไม่สามารถยิงผ่าน ปีเตอร์ เช็ก ซึ่งออกมาปิดมุมได้ดี 


ลากาแซ็ตต์ สังหารฟรีคิกได้สมบูรณ์แบบ

ปกติแล้ว เอเมรี่ มักให้ลูกทีมเพรสเป็นช่วงๆ เช่น 15 หรือ 20 นาทีแรก พอพลาดจนเกือบเสียประตูให้นาโปลี อาร์เซน่อลจึงปรับการเล่นทันทีโดยการถอยลงมาคุมโซนมากขึ้น ไม่บีบสูงเหมือนช่วงออกสตาร์ต 

นาโปลีจึงได้ต่อบอลอย่างที่ต้องการ เคาะหาช่องในแดนอาร์เซน่อลต่อเนื่องและมีจังหวะหยอดบอลเข้าเขตโทษได้ลุ้นในหลายครั้ง 

การเซตบอลหน้าเขตโทษแล้วตักเข้าในทำให้นาโปลีได้โหม่ง 2 ครั้งจาก อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค และ โฆเซ่ กาเยฆ่อน รวมถึงอีกครั้งจากลูกวอลเล่ย์ของ กาเยฆ่อน แต่ก็หลุดกรอบไปทั้งหมด 

แต่ช่วงที่รูปเกมของนาโปลีกำลังเล่นตามจังหวะของตัวเองได้ อาร์เซน่อลกลับฉวยจังหวะนำก่อน 1-0 จากฟรีคิกที่สมบูรณ์แบบเหลือเกินของ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ 

ลูกนี้ให้ 10 เต็ม 10 เพราะยิงได้หมดจดทิศทางและความเร็ว ตอนเปิดหน้าเท้าก่อนยิงยังทำให้ อเล็กซ์ เมเร็ต นายทวารหนุ่มของนาโปลีเสียจังหวะขยับไปขวามือตัวเองก่อนด้วย

ประตูนี้สำคัญทั้งช่วงเวลาที่ได้ประตูและเพิ่มโอกาสเข้ารอบของอาร์เซน่อลให้สูงยิ่งขึ้น  

ที่บอกว่าได้ในช่วงเวลาสำคัญคือ ก่อนหน้านั้น 2 นาที อาร่อน แรมซี่ย์ เพิ่งถูกเปลี่ยนออกไปเพราะอาการบาดเจ็บ ถือว่าเสียหายมากเพราะเป็นตัวสำคัญในแดนกลางที่ช่วยทั้งรุกและรับ เจอกันนัดแรกที่เอมิเรตส์ก็เป็นคนยิงเปิดหัวให้ทีม

การเสียผู้เล่นสำคัญตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรกเหมือนสถานการณ์ไม่เป็นใจ แต่พอได้ประตูนำก่อน โมเมนตัมจึงเหวี่ยงกลับมาอยู่ฝั่งอาร์เซน่อลที่เล่นได้ง่ายขึ้น ตรงกันข้ามกับนาโปลีที่ภารกิจยากขึ้นอีกเท่าตัวเพราะยิงคืน 3 ประตูก็ยังตกรอบ 

นาโปลีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบุกมากขึ้นและต้องจบให้ได้ ตลอด 90 นาที นาโปลีหาจังหวะยิงได้ถึง 20 ครั้งแต่เข้ากรอบเพียง 2 ครั้งนั่นเพราะความที่เร่งรีบและเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งสร้างกดดัน สมาธิและความแม่นยำจึงมีน้อย


แรมซี่ย์ ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก

จังหวะที่ควรต้องได้ก็ทำไม่ได้เช่นลูกที่ มาริโอ รุย เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเลยไปเสาไกล อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ก็ชาร์จโดนไม่เต็มทั้งตาข่ายประตูอยู่ตรงหน้าแล้ว 

บางจังหวะก็ดูขาดความมั่นใจเช่นตอนที่ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ได้หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแต่ก็ยิงเหมือนส่งคืนหลังให้ ปีเตอร์ เช็ก และจากนั้นไม่ถึงนาที อินซินเย่ ก็ถูกเปลี่ยนตัวออก

นาโปลีได้ครองและมีโอกาสยิงมากกว่า แต่อาร์เซน่อลก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา ถ้าเทียบกับฟอร์มนอกบ้านที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่านัดนี้เล่นได้แน่นอนและรัดกุมมากขึ้น ไม่ได้ก่อความผิดพลาดง่ายๆ ทุกคนช่วยกันได้ดีและมีสมาธิในเกมตลอด 

นัดนี้เก็บคลีนชีตได้อีกนัดและเป็นนัดที่ 6 จาก 7 นัดหลังสุด มีรอยแผลนัดเดียวเท่านั้นในวันพ่ายเอฟเวอร์ตัน 

เกมรุกมีโอกาสบวกประตูเพิ่มเช่นกันโดยเฉพาจังหวะของ โอบาเมย็อง ที่ มคิทาร์ยาน ตวัดมายิงโล่งๆ แต่ก็ซัดไปติดเซฟ อย่างไรก็ตาม ประตูเดียวจาก ลากาแซ็ตต์ ก็เพียงพอสำหรับการย้ำแค้นเอาชนะนาโปลีอีกนัด 

ในยุค อาร์แซน เวนเกอร์ อาร์เซน่อลเคยบุกชนะทีมหัวแถวอิตาลีได้หมดทั้งยูเวนตุส, เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และ โรม่า 

มาถึงยุคของ อูไน เอเมรี่ ก็ทำได้ที่นาโปลีและเกิดขึ้นในวันที่คุมทีมครบ 50 นัด พร้อมตัวเลขชัยชนะนัดที่ 32 ซึ่งเป็นผลงานที่น่าพอใจอย่างมาก 


นาโปลีหาโอกาสได้หลายครั้งแต่ก็ขาดความแม่นยำ

มันน่าจะเป็นค่ำคืนที่สมบูรณ์แบบในทุกอย่างสำหรับอาร์เซน่อลทั้งการชนะนอกบ้านซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย, การบุกมาเชือดนาโปลีถึงถิ่นซึ่งฤดูกาลนี้มีเพียงยูเวนตุสที่ทำได้ ลิเวอร์พูบมาเยือนก็แพ้กลับออกไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมงก็ได้เพียงเสมอ 

ฟรีคิกของ ลากาแซ็ตต์ ก็สวยงามเหลือเกิน และก็เป็นการยิงนอกบ้านซึ่งไม่เห็นบ่อยอีกเช่นกัน ประตูนี้คือประตูที่ 6 จากทั้งหมด 16 ประตูที่ทำได้นอกอาณาเขตเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 

มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ทำให้นัดนี้ฉลองได้ไม่เต็มที่นักนั่นคืออาการบาดเจ็บของ อาร่อน แรมซี่ย์ 

อูไน เอเมรี่ บอกหลังเกมว่าเป็นอาการเจ็บกล้ามเนื้อซึ่งโดยทั่วไปก็ต้องพักซักระยะ และไม่สามารถบอกได้ว่าจะกลับมาลงเล่นอีกเมื่อไหร่ 

สิ่งที่เราต้องภาวนาคือขออย่าให้นัดนี้เป็นนัดสุดท้ายของ แรมซี่ย์ ในสีเสื้ออาร์เซน่อล

เพราะเขาคือคนที่ควรพาทีมบรรลุเป้าหมายคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้และอำลาทีมอย่างสมเกียรติเพื่อก้าวไปสู่ความท้าทายใหม่กับยูเวนตุส 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})