อนาถ
ทีมปืนใหญ่แพ้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นนัดที่ 4 จาก 5 นัดหลังสุด เก็บได้เพียง 3 คะแนนจากความเป็นไปได้ทั้งหมด 15 คะแนน
ความพ่ายแพ้ล่าสุดในสกอร์ขาดลอย 3-0 ดูโหดร้ายและเกินรับได้ แต่ไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์แต่อย่างใดเพราะสถานการณ์หลายอย่างล้วนชี้นำไปแบบนั้น
อูไน เอเมรี่ เจอปัญหาตั้งแต่การจัดตัวเมื่อ เมซุต โอซิล กับ นาโช่ มอนเรอัล มีอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมจนไม่มีชื่อแม้กระทั่งสำรอง ขณะที่แกนหลักอื่นอย่าง อาร่อน แรมซี่ย์ ก็ยังไม่ฟื้นและน่าจะหมดสิทธิ์กลับช่วยทีมในฤดูกาลนี้แล้ว
เอเมรี่ จึงต้องปรับเล่น 4-4-2 โดยเลือกให้ ชโคดราน มุสตาฟี่ กลับมาเป็นตัวจริงในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส โดยที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ได้พักเป็นสำรองเพราะลงตัวจริงมา 5 นัดติดต่อกันในช่วงเวลาเพียง 13 วัน
เกมรุกที่ไม่มีทั้ง โอซิล และแรมซีย์ ก็เลยต้องให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน กับ อเล็กซ์ อีโวบี้ เป็นตัวทำเกมริมเส้น โดยมี กรานิต ชาคา กับ ลูคัส ตอร์เรร่า ลุยตรงกลาง ส่วนคู่หน้าเป็น ปิแอร์-เอเอเมอริค โอบาเมย็อง กับ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์
อาร์เซน่อลเคยเล่น 4-4-2 มาบ้าง แต่ไม่บ่อยเมื่อเทียบกับ 3-5-2 และ 4-2-3-1 เพราะไม่ได้มีตัวรุกริมเส้นที่ฝากผีฝากไข้ได้ พอมาใช้ระบบนี้ในนัดล่าสุดจึงไม่ได้เหนือกว่าเลสเตอร์แต่อย่างใด
เลสเตอร์เล่นได้ดีกว่าตั้งแต่เริ่มเกม สามารถครองบอลและคอนโทรลเกมเอาไว้ได้หมด บางช่วงบางเวลาของครึ่งแรกได้ครองบอลมากถึง 81 เปอร์เซ็นต์
ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ทำได้ดีกว่ามากและยิ่งได้เปรียบไปกันใหญ่เมื่ออาร์เซน่อลเหลือ 10 คนในท้ายครึ่งแรกหลัง เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส โดนเหลืองสองกลายเป็นใบแดงไล่ออก
ไม่มีมุมใดที่อาร์เซน่อลจะมองเห็นแสงสว่างได้เลย ความหวังในการเก็บ 3 คะแนนริบหรี่อย่างมาก
ในครึ่งหลัง เอเมรี่ ตัดสินใจถอนตัวรุกอย่างอีโวบี้ ออกแล้วส่ง กอสซิแอลนี่ ลงไปช่วยเกมรับ เป็นการเปลี่ยนตัวที่เหมือนส่งสัญญาณว่าได้หนึ่งคะแนนกลับออกไปก็บุญโขแล้ว
แบรนด์ เลโน่ เซฟไปหลายครั้งแต่ก็ยังเสียถึง 3 ประตู
เลสเตอร์ยังคงหาโอกาสเข้าทำได้มากมายและปลดล็อกได้ประตูแรกจนได้จากการเข้าทำอย่างเฉียบขาดของ เจมส์ แม็ดดิสัน ที่เปิดน้ำหนักเป๊ะเวอร์ให้ ยูริ ตีเลม็องส์ โขกจมตาข่าย
อาร์เซน่อลไม่มีทางเลือกนอกจากเร่งเกมของตัวเองมากขึ้นเพื่อตีเสมอให้ได้ ตัวผู้เล่นที่น้อยกว่ายิ่งทำให้ต้องออกแรงยิ่งกว่าเดิม และมีพื้นที่ให้คัฟเวอร์มากกว่าทางเลสเตอร์
เมื่อต้องโหมรุก หลังบ้านก็เปิด เลสเตอร์จึงมาได้อีก 2 ประตูในช่วงท้ายจาก เจมี่ วาร์ดี้ ที่เป็นตัวแสบเล่นงานอาร์เซน่อลได้เสมอ
อดีตดาวยิงนอกลีกทำสถิติยิงปืนใหญ่ที่จำนวน 8 ประตู มากกว่าทุกทีมที่เคยยิงได้ในพรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อลแพ้แบบสู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งหมด รูปเกมเป็นรองตั้งแต่แรก เมื่อเหลือ 10 คนในอีกเกือบหนึ่งชั่วโมงยิ่งรอดยาก สุดท้ายจึงพ่ายเละอย่างที่เห็น
สถิติน่าตกใจที่เกิดขึ้นคือ อาร์เซน่อลเสีย 3 ประตู 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร และสถิติที่ไม่เคยแพ้ในเวลาเที่ยงตรงตามเวลาท้องถิ่นก็ถูกหยุดลงในนัดนี้
สกอร์อาจออกมาน่าเกลียดกว่านี้ด้วยซ้ำหากไม่ได้ แบรนด์ เลโน่ เซฟแล้วเซฟอีกช่วยทีมเอาไว้ นัดนี้เลสเตอร์ได้ยิงถึง 24 ครั้ง เข้ากรอบ 12 ครั้งและเป็น 3 ประตู
ขณะที่ครั้งเดียวของอาร์เซน่อลที่ยิงตรงกรอบคือ อเล็กซ์ อีโวบี้ ในจังหวะโต้กลับครึ่งแรก แต่ก็ยิงได้น่าผิดหวัง ไม่ได้ห่างตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เลย
ใบแดงของ เมทแลนด์-ไนล์ส ทำให้สถานการณ์ของปืนใหญ่แย่กว่าเดิม
ใน 5 นัดหลังสุดที่เป็นช่วงชี้เป็นชี้ตาย อาร์เซน่อลเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียว และเกิดขึ้นในเกมกับวัตฟอร์ดที่วัตฟอร์ดเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ 11 นาทีแรก หากจำกันได้ แตนอาละวาดเล่นได้ดีกว่าด้วยซ้ำและเกือบจะตีเสมอได้ด้วย
ความพ่ายแพ้ล่าสุดคืออีกครั้งที่อาร์เซน่อลทิ้งโอกาสทองของตัวเอง คู่แข่งในกลุ่มลุ้นท็อปโฟร์ต่างผลัดกันพลาดจนเปิดโอกาสให้อาร์เซน่อลครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ลูกน้องของเอเมรี่ก็ไม่สามารถฉวยโอกาสได้
ถึงตรงนี้ อาร์เซน่อลไม่ได้กุมชะตาตัวเองไว้ในมืออีกแล้ว พวกเขาต้องลุ้นให้ทั้งสเปอร์สและเชลซีสะดุดใน 2 นัดสุดท้าย
แต่ก็นั่แหละ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทีมอื่นทำแต้มหล่น อาร์เซน่อลเองต่างหากที่ทิ้งโอกาสไปเสียเอง
อูไน เอเมรี่ อาจมีลุ้นในอีกเส้นทางคือยูโรปา ลีก แต่ด้วยสภาพที่เห็นล่าสุดทั้งฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ ปัญหาตัวเจ็บ-แบนที่รุมเล่นงานต่อเนื่อง และสภาพความมั่นใจที่ถดถอย โอกาสกลับไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในตอนนี้ต้องบอกว่า "ยาก" ถึง "ยากมาก"
คู่แข่งแข็งแกร่งก็อีกเหตุผล แต่อาร์เซน่อลเองต่างหากที่แสดงความอ่อนแอออกมาเรื่อยๆ และไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเลยกับการได้ไปเล่นถ้วยยุโรปใบใหญ่ในฤดูกาลหน้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT