เมสซี่กับเวทีทีมชาติ
ลิโอเนล เมสซี่ ไม่เคยคว้าแชมป์กับทีมชาติอาร์เจนตินาได้เลยหลังประเดิมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2005
เขาพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้ 4 ครั้งจากฟุตบอลโลก 1 ครั้งและโกปา อเมริกา อีก 3 ครั้งทว่าลงเอยด้วยความปราชัยทั้งหมด
โกปา อเมริกา 2019 คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่กับทีมชาติอาร์เจนตินาครั้งที่ 9 เข้าให้แล้ว ไปย้อนดู 8 รายการที่ผ่านมากันอีกรอบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างทำไมจึงไม่เคยพาทัพฟ้า-ขาวสัมผัสแชมป์ได้เลย
ฟุตบอลโลก 2006 : รอบก่อนรองชนะเลิศ
เมสซี่ ประเดิมสนามด้วยการลงสำรองในเกมกับเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร และสามารถยิงประตูรวมถึงแอสซิสต์ได้ทันทีตั้งแต่นัดแรกพร้อมพาทีมเก็บชัยชนะสวยงาม 6-0
เขากลายเป็นผู้เล่นฟ้า-ขาวอายุน้อยสุดที่ทำประตูในบอลโลกด้วยวัย 18 ปี 357 วัน ก่อนได้เป็นตัวจริงในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอฮอลแลนด์ 0-0
ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับเม็กซิโก เมสซี่ ได้ลงเป็นสำรองในนาที 84 ช่วยให้อาร์เจนฯ เบียดชนะจังโก้ในช่วงต่อเวลา 2-1 ก่อนเข้าไปพบกับเจ้าภาพเยอรมันในรอบก่อนรองชนะเลิศ
เมสซี่ ไม่ได้ลงสนามเลยในเกมที่เยอรมันเป็นฝ่ายไล่ตีเสมออาร์เจนตินา 1-1 ก่อนดวลจุดโทษชนะ 4-2 ทำให้อาร์เจนฯ ตกรอบทันที
โกปา อเมริกา 2007 : รองแชมป์
ในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อเมริกาใต้หนแรก ลิโอเนล เมสซี่ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของอาร์เจนตินาในยุค อัลฟิโล่ บาซิเล่ ที่เข้ามาแทน โฮเซ่ เปเกร์มัน ซึ่งทัพฟ้า-ขาวกลายเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ที่เวเนซูเอล่า
เมสซี่ ไม่มีสกอร์ใน 3 นัดของรอบแรกแต่ก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมชนะ 3 นัดรวดเพราะเรียกจุดโทษและแอสซิสต์ ก่อนพังประตูแรกในรอบก่อนรองฯ ที่อาร์เจนฯ ไล่อัดเปรู 4-0 และยิงได้อีกในรอบตัดเชือกที่รัวเม็กซิโก 3-0
รอบชิงฯ ในฝันเป็นการเจอกันระหว่างอาร์เจนตินากับบราซิล ทว่าผลการแข่งขันออกมาผิดคาดเมื่อทัพแซมบ้าที่ไม่มีสตาร์ดังทั้ง โรนัลดินโญ่ และกาก้า เอาชนะไปได้ 3-0 เมสซี่ ช่วยทีมไว้ไม่ได้แต่ด้วยความที่อายุน้อยทำให้เขาก็ยังไม่โดนวิจารณ์หนักเท่าสตาร์รุ่นพี่อย่าง อวน โรมัน ริเกลเม่
เมสซี่ อกหักในการเข้าชิงกับอาร์เจนตินาเป็นรายการแรก ก่อนได้รางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ปลอบใจ
เข้าชิงหนแรกพ่ายต่อบราซิลยับ 0-3
ฟุตบอลโลก 2010 : รอบก่อนรองชนะเลิศ
อาร์เจนตินายุค ดีเอโก้ มาราโดน่า มีผลงานไม่ดีนักในรอบคัดเลือก แต่ก็อยู่ในกลุ่มเต็งแชมป์เมื่อเข้ารอบสุดท้าย เมสซี่ พาทีมชนะไนจีเรีย 1-0 ในนัดแรกก่อนมีส่วนร่วมทุกประตูในเกมชนะเกาหลีใต้ 4-1 และปิดท้ายด้วยการสวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมชนะกรีซ 2-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย อาร์เจนตินาได้เจอเม็กซิโกอีกครั้งและย้ำแค้นไป 3-1 เมสซี่ ทำแอสซิสต์ประตูสุดท้าย และได้เข้าไปพบกับเยอรมันอีกครั้ง
อาร์เจนตินาได้โอกาสแก้มือเยอรมันในรอบเดียวกับบอลโลก 2006 ทว่าคราวนี้อินทรีเหล็กเอาชนะไปขาดลอย 4-0 ทำให้ทัพฟ้า-ขาวพบกับความปราชัยที่ย่อยยับที่สุดในฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ปี 1974
เมื่อกลับถึงประเทศ เมสซี่ ที่ยิงประตูไม่ได้เลยโดนวิจารณ์พอสมควรเพราะตอนนั้นได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกแต่กลับไม่สามารถเค้นฟอร์มในระดับเดียวกับที่เล่นให้บาร์เซโลน่า
โกปา อเมริกา 2011 : รอบก่อนรองชนะเลิศ
ลิโอเนล เมสซี่ ยิงให้บาร์เซโลน่าได้ถึง 53 ประตูในฤดูกาลก่อนเข้าสู่โกปา อเมริกา 2011 ที่อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพ ทว่าใน 2 นัดแรกโชว์ฟอร์มไม่ออกและอาร์เจนฯก็ได้เพียงเสมอ
สตาร์ดังจากบาร์เซโลน่าโดนแฟนบอลร่วมชาติโห่เป็นครั้งแรกในการเล่นให้ทีมชาติ แต่นัดสุดท้ายเขาทำได้อย่างที่หลายคนคาดหวังเมื่อแอสซิสต์ไป 2 ประตูพาทีมอัดคอสตาริกา 3-0
ทว่าอาร์เจนฯ ก็จอดป้ายแค่รอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อพ่ายต่ออุรุกวัยในการดวลจุดโทษหลังในเวลา 120 นาทีเสมอกัน 1-1 โดยเมสซี่เป็นคนจ่ายให้ กอนซาโล่ อิกวาอิน ตีเสมอ
ฟุตบอลโลก 2014 : รองแชมป์
ในรอบแรก เมสซี่ ที่เป็นกัปตันทีมลุยฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ยิงประตูได้ทุกนัดพาทีมชนะ 3 นัดรวดเหนือบอสเนียฯ, อิหร่าน และไนจีเรีย ทำให้เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมสซี่ แอสซิสต์ประตูเดียวของเกมในช่วงต่อเวลาที่เอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ 1-0 และก็ช่วยทีมเฉือนชนะเบลเยียมได้อีก 1-0 ก่อนดวลจุดโทษชนะฮอลแลนด์ 4-2 ในรอบตัดเชือกหลัง 120 นาทีทำอะไรกันไม่ได้
อาร์เจนตินาโคจรมาพบกับเยอรมันกลายเป็นรีแมตช์รอบชิงชนะเลิศปี 1990 เมสสี่ มีโอกาสพอสมควรแต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ก่อนเป็นอินทรีเหล็กที่มาได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาจากตัวสำรอง มาริโอ เกิทเซ่ ทำให้คว้าแชมป์ไปครอง
เมสซี่ ครองตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์พอสมควรเพราะเขายิงประตูในรอบน็อกเอาต์ไม่ได้เลย
เมสซี่ เป็นเพียง "พระรอง" ในฟุตบอลโลก 2014
โกปา อเมริกา 2015 : รองแชมป์
โกปา อเมริกา 2015 จัดขึ้นที่ชิลี อาร์เจนตินาของ เมสซี่ เป็นเต็งแชมป์เพราะความที่เพิ่งได้รองแชมป์โลกมาในปีก่อนหน้า พวกเขาเริ่มนัดแรกได้ดีนำปารากวัยไปก่อน 2-0 แต่ก็โดนตีเสมอ 2-2 เมสซี่ ยิงได้ 1 ประตูจากจุดโทษ
อีก 2 นัดถัดมา ฟอร์มของอาร์เจนฯ ยังไม่จัดจ้านนักได้เพียงเฉือนชนะอุรุกวัยกับจาเมกาในสกอร์ 1-0 เท่ากัน ก่อนดวลจุดโทษชนะโคลอมเบีย 5-4
รอบตัดเชือกเป็นเกมที่อาร์เจนตินาทำผลงานได้ดีสุดเมื่อไล่อัดปารากวัยขาดลอย 6-1 เมสซี่ ยิงไม่ได้ก็จริงแต่แอสซิสต์ไป 3 ประตู และก็ช่วยสร้างโอกาสอีก 3 ประตู
อาร์เจนตินาได้เข้าไปเจอกับเจ้าภาพชิลีในรอบชิงชนะเลิศซึ่งทัพฟ้า-ขาวก็เป็นต่อเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ชิลี สามารถต้านเอาไว้ได้ใน 120 นาทีที่เสมอกัน 0-0 ต้องดวลจุดโทษและก็เป็นชิลีที่ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไป 4-1 คว้าแชมป์ในบ้านไปครอง
โกปา อเมริกา 2016 : รองแชมป์
โกปา อเมริกา เวอร์ชั่นพิเศษ จัดขึ้นเพื่อฉลองครบ 100 ปีของสหพันธ์ลูกหนังอเมริกาใต้ และเลือกแข่งกันที่สหรัฐฯ
เมสซี่ พาทีมผ่านรอบแรกแบบไม่ยากเย็นจากการชนะชิลี 2-1, ทำแฮตทริกถล่มปานามา 5-0 และอัดโบลิเวีย 3-0 จากนั้นยิงอีก 1 ประตูในรอบก่อนรองฯ ที่ชนะเวเนซูเอล่า 4-1 ก่อนบวกอีก 1 พาทีมรัวสหรัฐฯ 4-0 ได้ชิงอีกปี
ในรอบชิงฯ ทัพฟ้า-ขาวรีแมตช์กับชิลีและลงเอยในแบบเดิมคือเสมอกัน 0-0 ใน 120 นาที ก่อนเป็นชิลีป้องกันแชมป์ได้จากการชนะจุดโทษ 4-2 เมสซี่เป็นทั้งรองแชมป์และรองดาวซัลโวที่ 5 ประตู
กลายเป็นว่า เมสซี่ อกหักในรอบชิงฯ เป็นครั้งที่ 4 และเป็น 3 ปีติดต่อจากฟุตบอลโลก 2014 และโกปา อเมริกา 2015 เขาผิดหวังมากจนประกาศอำลาทีมชาติก่อนเปลี่ยนใจในอีก 2 เดือนถัดมา
พ่ายต่อชิลี 2 ปีติดในโกปา อเมริกา
ฟุตบอลโลก 2018 : รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ลิโอเนล เมสซี่ ถูกจับตามองในฟุตบอลโลกที่รัสเซียเพราะอาจเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายเนื่องด้วยอายุ 31 ปีแล้ว
อาร์เจนตินา ลงสนามนัดแรกพบไอซ์แลนด์ซึ่งตามหน้าเสื่อแล้วเหนือกว่ามาก ทว่ากลับได้เพียงเสมอ 1-1 โดยที่ เมสซี่ พลาดจุดโทษด้วย ก่อนที่นัดต่อมา ความกดดันถาโถมยิ่งกว่าเดิมหลังพ่ายต่อโครเอเชียขาดลอยถึง 0-3
เมสซี่ แผลงฤทธิ์ไม่ออก ได้สัมผัสบอลตลอดทั้งเกมเพียง 49 ครั้งและเป็นในเขตโทษโครเอเชีย 2 ครั้งเท่านั้น ยังดีที่นัดสุดท้ายพาทีมเบียดชนะไนจีเรีย 2-1 โดยเมสซี่ทำประตูแรกของเกม ทำให้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์หวุดหวิด
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย อาร์เจนตินาเจองานหนักรับมือฝรั่งเศส เมสซี่ แอสซิสต์ให้ กาเบรียล เมร์กาโด้ ทำประตูแซงนำ 2-1 แต่ก็โดนตราไก่รัว 3 ประตูรวดหนีเป็น 4-2 ก่อนที่เมสซี่จะแอสซิสต์อีกลูกในช่วงท้ายแต่เป็นเพียงประตูปลอบใจ
อาร์เจนตินา ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย สกอร์อาจสูสี 3-4 แต่รูปเกมโดยรวม ฝรั่งเศสดีกว่ามากก่อนก้าวต่อไปจนถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้สำเร็จ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT