ฝันสุดท้ายของบุฟฟ่อน

บุฟฟ่อน ตัดสินใจเซ็นสัญญากับยูเวนตุสหลังแยกทางกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมดังฝรั่งเศสในฤดูกาลล่าสุด ซึ่งการเซ็นสัญญาครั้งที่ 2 นี้ห่างจากครั้งแรกนานถึง 18 ปี 

เหมือนเวลาหยุดหมุน บุฟฟ่อน ร่วมขบวนม้าลายครั้งแรกในปี 2001 หลังแจ้งเกิดหลายปีกับปาร์ม่าที่ได้โอกาสประเดิมสนามตั้งแต่ปี 1995 และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 24 ปีเข้าให้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "นักฟุตบอลอาชีพ" 

"ผมเชื่อว่าการรีเทิร์นครั้งนี้คือรางวัลสำหรับผมเพราะว่าผมรู้จักยูเว่เป็นอย่างดี ผมเห็นชอบในทุกการกระทำ ผมรู้ว่าสโมสรแห่งนี้ไม่ได้สิ่งใดพิเศษและการที่ยังได้มาอยู่ที่นี่ก็นับเป็นความปรารถนาอันสุดยอด ผมหวังว่าจะสามารถแบ่งปันสิ่งนี้กับคนที่ผมรู้จักและกับคนที่ผมมีสายสัมพันธ์แห่งความเป็นพี่น้องด้วยกัน"

การรีเทิร์นยูเวนตุสที่ "จีจี้" ย้ำหนักแน่นว่าเหมือนได้กลับบ้าน คือการตามเก็บภารกิจหลายอย่างที่ไม่เรียบร้อยและเป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้เขายังยืนหยันอยู่เส้นทางได้อย่างเหลือเชื่อทั้งที่เพื่อนร่วมรุ่นเลิกราไปนานหลายปีแล้ว

"ความรู้สึกของผมนะเหรอ? มันมีความรู้สึกทั้งแบบผู้ชายคนหนึ่ง และนักกีฬาที่มีความสุขคนหนึ่ง แม้ว่าผมใกล้อายุ 42 ปีแล้ว แต่ก็ยังมองหาความรู้สึกอันแรงกล้าและได้พบเมื่อย้ายกลับมาสวมเสื้อตัวนี้"

"ผมอำลายูเวนตุสที่แข็งแกร่งอย่างมากและได้กลับมาเจอยูเวนตุสที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เช่นวันนี้ที่เดินเข้ามาในออฟฟิส ผมได้เจอโลกหนึ่งใบ ผมไม่รู้นะแต่นี่เป็นสิ่งที่เป็นมุมบวกอย่างยิ่ง สโมสรนี้มีวิวัฒนาการต่อเนื่องและสะท้อนให้เห็นว่าคนที่ผลักดันสโมสรเป็นคนที่มีแนวคิดชัดเจนมาก" 

ในฐานะตำนานที่ยังมีชีวิต การกลับมายูเวนตุสของ บุฟฟ่อน ยังคงได้รับการต้อนรับและให้เกียรติจากทุกคนเช่นเดิม เพื่อนร่วมทีมม้าลายต่างพร้อมสละบทบาทและตำแหน่งเพื่อให้การกลับมารอบ 2 สมศักดิ์ศรีอย่างที่สุด

“ผมขอบคุณทั้ง (จอร์โจ้) คิเอลลินี่ และ (วอยเชียจ) เชสนี่ ที่เสนอหมายเลข 1 และปลอกแขนกัปตันทีมให้กับผม อย่างไรก็ตาม คงจะแฟร์กว่าที่ผู้รักษาประตูตัวจริงสวมหมายเลข 1 ต่อไป ขณะที่ จอร์โจ้ เองซึ่งเหมือนน้องชายของผม เป็นกัปตันทีมเช่นเดิม”  

เลือกหมายเลข 77 ในการกลับมารอบ 2

บุฟฟ่อน ยังได้เปิดใจถึงการเลือกใช้หมายเลข 77 ว่า "ผมนึกถึงหมายเลข 77 เพราะมันสะท้อนอดีตของผม ผมใช้หมายเลขนี้ตอนอยู่ปาร์ม่าและมันทำให้ผมโชคดีเพราะได้ย้ายมายูเวนตุสในเวลาต่อมา ดังนั้นผมจึงชอบหมายเลขนี้มาก" 

"ผมไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อได้ลงเล่นบ้างไม่กี่นาที ยูเว่มีการจัดลำดับที่ชัดเจน ผมอยู่และผมจะทำให้แน่ใจว่าผมพร้อมช่วยทีมในเวลาที่โอกาสมาถึง" 

หนึ่งปีที่เว้นวรรคจากม้าลาย บุฟฟ่อน ไปหาความท้าทายใหม่กับเปแอสเชซึ่งก็มีตำแหน่งแชมป์ ลีก เอิง ติดไม้ติดมือ ทว่าก็ยังไม่สมหวังในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พลิกตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างไม่น่าเชื่อหลังพ่ายต่อแมนฯ ยูไนเต็ด 1-3 ในนัดสอง ทั้งที่นัดแรกบุกชนะได้ 2-0 ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 

บุฟฟ่อน ได้เฝ้าเสาให้เปแอสเชทั้งหมด 25 นัด แบ่งเป็นในลีก 17 นัด แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 นัด บอลถ้วยในประเทศอีก 2 นัด และรายการอื่นอีก 1 นัด 

ในการกลับมาตูรินรอบสองของ บุฟฟ่อน จะได้ร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์ลูกหนึ่งอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งซัมเมอร์ก่อนย้ายสวนทางตรงประตูเข้า-ออก 

"เป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่จะได้เล่นร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผมมีโอกาสได้เล่นกับแชมเปี้ยนอย่าง เนย์มาร์ และ เอ็มบั๊ปเป้ ที่เปแอสเชเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และตอนนี้ซึ่งต้องขอบคุณยูเวนตุส ผมจะได้เล่นกับ โรนัลโด้ มันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่นะ" 

ภารกิจเบื้องต้นของบุฟฟ่อนที่เป็นไปได้ในฤดูกาลหน้าคือ การลงเล่นในเซเรีย อา มากที่สุด ซึ่งบุฟฟ่อนต้องการเฝ้าเสาอีกเพียง 8 นัดเพื่อทำลายสถิติของ เปาโล มัลดินี่ ตำนานกองหลังเอซี มิลานที่ทำเอาไว้ 647 นัด 

อีกการเปลี่ยนแปลงสำหรับการกลับมาครั้งนี้คือ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซ์อคนเดิมที่ร่วมกันคว้าแชมป์มากมายได้อำลาสโมสรไปแล้ว และตอนนี้ก็มี เมาริซิโอ ซาร์รี่ อดีตกุนซือนาโปลีและเชลซีเข้ามารับช่วงต่อ  

"ผมได้พบกับ ซาร์รี่ แล้ว เขาทำให้ผมประทับใจมากเลย เป็นแบบเดียวกับที่เขาปฏิบัติต่อทุกคนในวันแถลงข่าว" 

บุฟฟ่อน ยังได้กล่าวถึงก้าวเดินของอดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอิตาลีทั้ง ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ และ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ที่ต่างอำลาโรม่า

"มันน่าผิดหวัง เมื่อคุณนึกถึงโรม่าและกรุงโรม คุณก็เห็นพวกเขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ และในแง่ฟุตบอลก็ไม่มีใครอีกแล้วที่เป็นเหมือนตัวแทนได้ดีเท่ากับ ฟรานเชสโก้ และ ดานิเอเล่ มันชัดเจนว่ามีบางสิ่งบางอย่างซึ่งเราไม่รู้"

ตลอดชีวิตนักฟุตบอลมากกว่า 2 ทศวรรษ บุฟฟ่อน ประสบความสำเร็จมาแล้วเกือบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแชมป์โลกกับทีมชาติอิตาลีในปี 2006 และแชมป์อีก 20 รายการกับยูเวนตุส ทว่าหนึ่งในสิ่งที่บุฟฟ่อนไม่เคยสัมผัสคือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

ฮึดอีกเฮือกเพื่อลบฝันร้ายในแชมเปี้ยนส์ ลีก

ก่อนหน้านี้ นายทวารจอมเก๋ายอมรับว่า โทรฟี่แชมเปี้ยนส์ ลีก คือสิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นและคอยผลักดันให้ยังคงลงเล่นต่อไปแม้ล่วงเลยอายุเฉลี่ยของการค้าแข้งโดยทั่วไปแล้วก็ตาม 

แต่กระนั้น การมุ่งสมาธิกับสิ่งใดสิ่งนั้นมากไปก็ไม่ใช่เรื่องดี บุฟฟ่อน เองเข้าใจดีถึงเรื่องนี้ "คุณไม่สามารถเริ่มฤดูกาลแบบเอาแต่นึกถึงการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะว่านั่นจะทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลว"

"จริงอยู่ว่ามันคือโทรฟี่อันทรงเกียรติและเป็นสุดยอดปรารถนาที่สุด แต่ปลายเดือนพฤษภาคมนู้นเลยที่รอบชิงชนะเลิศมาถึง หรือไม่ก็ต้นเดือนมิถุนายนด้วยซ้ำ ซึ่งในระหว่างนี้ก็มี 10 เดือนที่สำคัญ" 

แม้บุฟฟ่อนจะบอกเพื่อลดความกดดันให้ตัวเอง แต่แชมป์ยุโรปใบโตก็ยังเป็นสิ่งที่เขารอคอยมานานที่สุดในชีวิต และเชื่อได้เลยว่าแฟนบอลยูเวนตุสทุกคนต่างเอาใจช่วยให้ตำนานคนนี้ได้สัมผัสมันเสียทีในฤดูกาลหน้าที่อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายในชีวิตค้าแข้ง