ก้าวเดินอันยิ่งใหญ่ของ "เดอ ลิกท์"
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาร่วมทีม ยูเวนตุส อย่างเป็นทางการด้วยสัญญา 5 ปี พร้อมหักอกอีกหลายทีมใหญ่ที่ต่างต้องการตัวเช่นกันไม่ว่าจะเป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แมนฯ ยูไนเต็ด และบาร์เซโลน่า
ยูเวนตุสไม่ใช่ทีมแรกที่แสดงความต้องการอยากได้ตัวปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์มาร่วมทีม แต่การมาทีหลังก็มาแรงแซงโค้ชด้วยการเดินเครื่องจริงจังผู้บริหารสโมสรรวมถึง มิโน ไรโอล่า เอเยนต์คนดังผู้เป็นดั่งซูเปอร์ฮีโร่ของแฟนบอลม้าลายไปแล้วในตอนนี้
เดอ ลิกท์ คือหนึ่งในแข้งเนื้อหอมประจำซัมเมอร์นี้หลังทำผลงานสุดแกร่งตอกย้ำการเป็นยอดกองหลังด้วยตำแหน่งดับเบิ้ลแชมป์กับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และเขย่าเวทียุโรปจนเกือบเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หากไม่เกิดเหตุการณ์สุดช็อกในนัดสองของรอบตัดเชือกกับสเปอร์สเสียก่อน
แนวรับป้ายแดงของทัพม้าลายมีอายุเพียง 19 ปี แต่เป็น 19 ปีที่ต่างจากรุ่นราวคราวเดียวกันเพราะลงเล่นให้ชุดใหญ่ของอาแจ็กซ์ครั้งแรกตอนอายุเพียง 17 ปีกับอีก 39 วัน หลังประเดิมสนามในเกมดัตช์ คัพ กับ วิลเล่ม ทเว เมื่อวันที่ 21 กันยายนปี 2016
"ผมยังอายุน้อยแต่รู้สึกมีประสบการณ์อย่างมากสำหรับคนอายุ 19 นั่นคือเหตุผลในการย้ายครั้งนี้เพื่อที่จะได้มีประสบการณ์มากขึ้นและได้เรียนรู้จากนักเตะที่นี่" เดอ ลิกท์ กล่าวในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับยูเวนตุสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
จากก้าวแรกด้วยวัยเพียงน้อยนิด เดอ ลิกท์ เดินหน้าต่อเนื่องด้วยการเป็นตัวหลักของทีมก่อนได้ลงเล่นมากถึง 23 จากทุกรายการในฤดูกาลแรกซึ่งรวมถึง 9 นัดในยูโรปา ลีก ที่พาทีมเข้าชิงชนะเลิศก่อนพ่ายต่อแมนฯ ยูไนเต็ด
ปิดท้ายกับอาแจ็กซ์ด้วยดับเบิ้ลแชมป์
อาการบาดเจ็บของ โจเอล เฟลต์มัน แนวรับรุ่นพี่ทำให้ เดอ ลิกท์ ถูกเลือกให้แบกความรับผิดชอบครั้งใหญ่ด้วยการเป็นกัปตันทีมคนใหม่เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว และทำให้เขากลายเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ซึ่งเกิดขึ้น 4 เดือนก่อนวันเกิดอายุครบ 19 ปี
ประตูสู่ทีมชาติเปิดกว้างตั้งแต่หนึ่งปีก่อนรับหน้าที่กัปตันอาแจ็กซ์ เขาลงเล่นนัดแรกพบทีมชาติบัลแกเรียในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกซึ่งตอนนั้นเพิ่งลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกในระดับสโมสรเพียง 2 นัดเท่านั้น
การประเดิมสนามด้วยวัยละอ่อนทั้งในทีมชาติและสโมสร รวมถึงสวมปลอกแขนกัปตันทีมสะท้อนความไว้เนื้อเชื่อใจที่โค้ชหลายคนมีต่อ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ อย่างมาก และอายุ 19 ปีที่กำลังจะครบ 20 ปีในเดือนสิงหาคมจึงต่างจากคนอื่นชัดเจน
เดอ ลิกท์ ลงเล่นให้อาแจ็กซ์ร่วม 117 ทำได้ 13 ประตูก่อนโบยบินสู่โลกกว้างซึ่งมาพร้อมกับการพิสูจน์ตัวเองขึ้นไปอีกระดับกับยูเวนตุส
"นี่คือก้าวสำคัญในชีวิตกับการเล่นนอกประเทศครั้งแรก ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับการต้อนรับของแฟนบอลยูเวนตุส และผมก็หวังจะได้ตอบแทนกลับคืนให้มากๆ"
"มันเป็นการตัดสินใจที่ทำได้ยากมาก ผมมีทางเลือกหลายทาง และจำเป็นต้องพิจารณาว่าอันไหนที่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด มันมีหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง"
จากคู่แข่งในอดีต เดอ ลิกท์ กลายเป็นสมาชิกใหม่ของม้าลายไปแล้ว
"หลังจบนัดชิงฯ เนชั่นส์ ลีก ผมมั่นใจแล้วว่าต้องการย้ายร่วมทีมยูเวนตุส และเป็นสิ่งน่ายินดีอย่างมากที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชวนผมมาเล่นด้วยกันที่นี่"
"มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะได้รู้ว่ามีโอกาสลงเล่นมากแค่ไหน และสโมสรเชื่อมั่นในตัวผมมากแค่ไหน ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมเลือกย้ายมาที่นี่"
มัทไธส์ เดอ ลิกท์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นกองหลังที่เก่งกาจเกินวัย เขามีคุณสมบัติครบถ้วนของการเป็นสุดยอดปราการหลังทั้งฝีเท้า ทักษะ ความแข็งแกร่ง ความเข้าใจในเกม ความมุ่งมั่น ประสบการณ์ และความเป็นผู้นำที่แทบนึกไม่ออกเลยว่ามีนักเตะอายุ 19 ปีคนใดมีได้ขนาดนี้
สุดยอดกองหลังที่กราฟชีวิตกำลังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตัดสินใจเลือกย้ายมาเล่นในอิตาลีที่ขึ้นลือชาในเรื่องเกมรับดูจะเป็นเคมีที่เข้ากันอย่างยิ่ง
"ผมมาที่นี่เพราะว่าอิตาลีคือหนึ่งในประเทศต้นตำรับของกองหลัง ผมประทับใจกับการเล่นเกมรับของนักเตะอิตาลีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว"
"ต้นแบบของผมหลายคนก็เป็นคนอิตาลีเหมือนกัน อย่างเช่น (เปาโล) มัลดินี่, (ฟรังโก้) บาเรซี่, (อเลสซานโดร) เนสต้า, (ฟาบิโอ) คันนาวาโร่ และ (กาเอตาโน่) ชิเรีย"
"เมื่อคุณพูดถึงบรรดากองหลังแล้ว คุณก็ต้องนึกถึงชื่อเหล่านั้นทันที ผมตกหลุมรักการเล่นเกมรับของนักเตะอิตาลีอย่างมาก และนั่นทำให้ผมตัดสินใจแบบนี้"
พร้อมเริ่มต้นกับม้าลายด้วยหมายเลข 4
กับการย้ายมาร่วมทีมยูเวนตุส เดอ ลิกท์ จะได้ประสานงานกับคู่หูคนใหม่อย่าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ แนวรับจอมเก๋าวัย 32 ปีซึ่งแน่นอนว่านี่จะกลายเป็นคู่เซนเตอร์ที่แกร่งที่สุดอีกคู่อย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากความคลั่งไคล้ในการเล่นเกมรับแบบฉบับอิตาเลียนสไตล์แล้ว เดอ ลิกท์ ยังผูกพันกับยูเวนตุสเป็นทุนเดิมอยู่ด้วย
"รูปถ่ายของผมในชุดยูเวนตุสถ่ายเอาไว้ตอนผมอายุ 6 หรือ 7 ขวบได้ ในตอนนั้น ฟาบิโอ คันนาวาโร่ คือกองหลังที่ผมชื่นชอบ ผมมีความรู้สึกดีเสมอเกี่ยวกับยูเวนตุสและเป็นแฟนบอลของทีมมาตลอด"
เดอ ลิกท์ คนนี้เป็นคนเดียวกับที่เคยพาอาแจ็กซ์บุกมาเขี่ยยูเวนตุสตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก คาบ้านด้วยการบุกชนะ 2-1 หลังนัดแรกที่อัมสเตอร์ดัมเสมอ 1-1 และคนที่ทำประตูชัยในนัดสองก็คือ กองหลังคนใหม่เจ้าของเสื้อหมายเลข 4 ของยูเวนตุสนั่นเอง
"ตอนที่ผมมาเล่นที่นี่กับอาแจ็กซ์ ผมประทับใจบรรยากาศในสนามอัลลิอันซ์อย่างมาก"
"หมายเลข 4 สำหรับผมเป็นสิ่งพิเศษเสมอ ผมสวมมันมาตั้งแต่อยู่ในทีมเยาวชนของอาแจ็กซ์ และก็ยังเป็นมรดกตกทอดสำคัญของที่นี่เช่นกัน ผมหวังว่าจะยืนหยัดอยู่ได้กับหมายเลขนี้"
สำหรับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม การเสีย 2 กำลังสำคัญ (และอาจจะมีรายที่ 3 และ 4 ในอนาคตอันใกล้) ในซัมเมอร์เดียวทั้ง เฟร้งกี้ เดอ ย็อง และ มัทไธส์ เดอ ลิกท์ เป็นเรื่องที่เสียหายไม่น้อย แต่หลายคนก็เข้าใจดีว่าควรต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
อย่างที่ เดอ ลิกท์ ว่าเอาไว้ "ผมจะคิดถึงทุกคนที่ อัมสเตอร์ดัม แน่นอน แต่ผมจำเป็นต้องเดินไปข้างหน้า ยูเวนตุสคือก้าวเดินครั้งใหญ่สำหรับผม"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT